Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1062

ตอนที่ 1062

บทที่ 1062 คิดถึง​จนลืมไม่ลง

ทั้งสองคนก็เลยเดินอยู่ข้างหน้า​คนและเดินอยู่ข้างคนและเดินออกไปจากห้องนอน​

“คุณ​วางรูปไว้ที่ไหน?” ฉินซีถาม

บนหน้า​ลู่เซิ่นมีรอยยิ้ม​เผยออกมา​:”คุณ​ตามผมมาก็แล้วกันนะ”

ฉินซีก็พูดไม่ถูก​ว่าทำไมตัวเองถึงได้ตื่นเต้นกับผลงานชิ้นนี้นัก

น่าจะเป็นเพราะว่า………ในความทรงจำของเธอ เพียงแค่​บันทึก​ผลงานชิ้นนี้ไว้อย่างเบลอๆ แต่ว่าแม้แต่​ตัวเองถ่ายออกมา​เป็นหน้าตายังไง​ เธอก็จำไม่ได้แล้ว

ตอนที่เธอออกมาจากบ้านตระกูล​ฉิน เพราะว่าย้ายออก​มาอย่าง​เร่งรีบ และบ้านใหม่ก็เล็กอีกต่างหาก​ รูปที่ถ่ายไว้เยอะมากล้วนเก็บไว้ที่บ้านตระกูล​ฉินจึงไม่ทันได้นำออกไป

เพราะฉะนั้น​สำหรับรูปถ่าย​ที่ฉินซีถ่ายไว้ในอดีต​ เธอประหลาดใจ​มาโดยตลอด​

ครั้งนี้​มีโอกาส​ได้​เห็น​รูป​ถ่ายรูป​นึง จึงตื่นเต้นเป็นธรรมดา​

ฉินซีคิดไปด้วยอย่างใจไม่อยู่กับ​เนื้อกับ​ตัว​ และเดินตามฝีเท้าของลู่เซิ่นไปด้วยอย่างไม่รู้​ตัว​

ตอนที่ลู่เซิ่นหยุดนิ่ง เธอเงยหน้า​ขึ้น​มา​เห็นปุ๊บ ประหลาด​ใจมากเลยทีเดีย​ว:”…………คุณถึงกับเก็บไว้ในห้องหนังสือ​เลยหรอ?”

บนหน้าของลู่เซิ่นมีรอยยิ้ม​จางๆ:”ก่อนหน้านี้​ผมประหลาดใจ​มาโดยตลอด​ ทำไมคุณ​ไม่มีปฏิกิริยา​ใดๆกับรูปนี้ ตอนนี้ผมเพิ่งจะรู้สาเหตุ”

เขาพูดไปด้วย และผลักประตู​ห้องหนังสือไปด้วย

จำนวนครั้งที่ฉินซีมาในห้องหนังสือ​ลู่เซิ่นไม่มากนัก มาทุกครั้งน้อยมากที่จะสังเกต​ดูรอบๆ

นี่เป็นครั้งแรก หลังจาก​เข้ามาเเล้ว​ ได้สังเกต​รอบๆแบบจริงๆจังๆ

แต่ว่าเธอหาไม่นานนัก ก็หารูปถ่าย​ที่ลู่เซิ่นพรรณนา​รูปไว้เจอแล้ว

แขวนอยู่ตรงข้าม​ของโต๊ะทำงาน ที่ที่โจ่งแจ้ง​มาก

ลู่เซิ่นถือว่ามีการวิจัย​ต่อผลงานศิลปะ​บ้าง ผลงานศิลปะ​ที่ราคาแพงมหาศาล​วางอยู่ในห้องหนังสือ​ไม่น้อยเลยทีเดียว​ ทำไมฉินซีมองผลงานรูปถ่ายของตัวเองที่ยังละอ่อนถูก​แขวนไว้​ระหว่าง​ของโบราณ​พวกนี้ แก้มถึงได้แดง​ก่ำแบบเขินอาย

แต่ว่าสีหน้าท่าทางของลู่เซิ่นกลับตรงไปตรงมา​ ผลักหลังของฉินซี:”อยากดูไม่ใช่หรอ? เดินเข้าไปดูสิ”

ก่อนที่ฉินซีจะเดินไปถึงรูปถ่าย​รูปนั้นในไม่กี่ก้าว จึงหยุดนิ่ง

เมื่อก่อนเธอไม่เคยสังเกต​รูปถ่ายรูป​นี้เลย เป็นเพราะว่ามันไม่เป็นที่สะดุดตา​จริงๆ​

แต่ว่าคราวนี้​รู้ว่าเป็นผลงานของตัวเองแล้ว กลับไปดูอีกครั้ง จู่ๆฉินซีก็รู้สึ​กว่า ในรูปถ่ายมีความรู้สึก​อย่างนึงที่แตกต่าง​กัน​

วิธีการ​ถ่ายละอ่อนมาก การจัดการภายหลัง​ก็ไม่ละเอียด​พอ แต่ว่าฉินซีสามารถ​ดูออก ตอนที่ตัวเองถ่ายรูปรูปนี้ ความรู้​สึกในการถ่ายภาพ​ ต้องกระตือรือร้น​แน่นอน​

ลมเป็นฟองสบู่​ที่​เป่าออกมา​จาก​มือของเด็กน้อย​ เป็นความรู้สึก​ที่กระปรี้กระเปร่า​ เป็นสีสันที่สวยสดงดงาม

ถ้าหาก​ตอนนี้เปลี่ยนเป็น​เธอมาถ่ายหัวข้อเรื่อง​นี้​ องค์​ประกอบ​อาจจะมีความเป็นผู้ใหญ่​มากขึ้น​ แต่ว่าหาความรู้สึก​ที่เหมือนกับ​ดิ้นรน​ที่จะมีชีวิต​อยู่​ต่อไป​แบบนั้นไม่เจออีกแล้ว

ตัวเองที่สามารถ​ถ่ายผลงานแบบ​นี้​ออกมา​ เป็นจริงอย่างที่ออกมา​จาก​ปาก​ของ​ลู่เซิ่น และเป็นตัวเองที่ช่วยเหลือ​คนอื่นก่อนคนนั้น

“คดีระเบิด​หลังจากนั้น​หล่ะ ตรวจสอบ​ชัดเจนหรือยัง?” เธอดูผลงานตัวเองอยู่ จู่ๆก็เอ่ยปากถาม​ขึ้น​มา​

ลู่เซิ่นคิดไม่ถึง​ แต่ก็ยังตอบคำถามที่ถามขึ้น​มาอย่างกะทันหัน​ของเธอ:”ตรวจสอบ​ชัดเจนแล้ว เป็นคดีที่เตรียม​การเอาไว้ล่วงหน้า​ เพียงแต่ว่าคดีนี้ความจริงได้ถูก​พบล่วงหน้า​แล้ว ระเบิด​วางอยู่ที่ที่สำคัญในหอศิลป์​ล้วนถูกแกะออกมา​ล่วงหน้า​ โคมไฟที่วางอยู่ในนิทรรศการ​ชิ้นนั้น เป็นเพราะว่าไม่ดึงดูด​สายตาคนเลยจริงๆ เพราะฉะนั้น​จึงถูกมองข้ามไป”

“แต่ว่ามีเสียงปืนไม่ใช่หรอ?” ฉินซีหันหน้า​ไปมองลู่เซิ่น” เรื่องราว​ยังไง​กันแน่?”

” คนที่วางแผนคดีนี้ได้เตรียม​การเอาไว้ล่วงหน้า​ พบว่าระเบิด​ที่วางไว้ล่วงหน้า​ถูกแกะออกมา​เรียบร้อย​แล้ว​ จึงโมโห​มากๆ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น​ก็จะขนระเบิด​มาติดตั้งใหม่​อีกครั้ง ต่อสู้​กับผู้รักษา​ความปลอดภัย​ ถึงได้มีการเคลื่อนไหว” ลู่เซิ่นตอบอย่างครบถ้วน

ฉินซีพยักหน้า​:” ถ้างั้นเสียงระเบิด​ข้างนอกหล่ะ ก็เป็นพวกเขาทำขึ้น​มา​เองแหละ​?”

ลู่เซิ่นพยักหน้า​:” เพียงแต่ว่าการรักษาความปลอดภัยของหอศิลป์​ยังถือว่าใช้ได้ทีเดียว​ ระเบิด​ที่พวกเขาจะทำการระเบิดอย่างใจจดใจจ่อ​และรีบร้อนนั้นไม่ได้ก่อให้เกิด​ความตายหรือได้รับบาดเจ็บ​อะไร การบาดเจ็บ​ที่​ก่อ​ขึ้น​มา​ กลับเป็นกระจกแก้วในนิทรรศการ​หลักที่​กระเด็นออกมา​จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ​ คนพวกนั้นที่วางแผนคดีนี้ก็ถูกจับได้โดย​เร็ว”

สายตาของฉินซีย้ายออกไปจากรูปถ่ายตัวเอง และหันไปทางลู่เซิ่น:” เพียงแต่​ว่าน่าเสียดาย​ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย สำหรับการสงสัย​ทุกอย่าง​ที่คุณ​มีต่อฉัน ฉันก็ตอบคุณ​ไม่ได้เช่นกัน​”

ลู่เซิ่นเดินไปที่​ข้างหลัง​ของเธอ โอบกอดเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเอง:” ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าคุณ​เป็นคนดี ก็พอเเล้ว”

ฉินซีล้อเล่น:”ไม่แน่นะ ฉันอาจจะเป็นคนพวกเดียวกัน​กับคนพวกนั้นก็ได้

ลู่เซิ่นกลับส่ายหน้า​:”ต่อให้ใช่ ก็ไม่เป็นไร”

ฉินซียักคิ้วปุ๊บ ดิ้นรน​ออกมา​จาก​อ้อมกอดของเขา และหันหน้าไปทางเขา:” เราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว คุณ​ก็คิดถึง​ฉันจนลืมไม่ลงขนาดนี้เชียว?”

ลู่เซิ่นหัวเราะ​เบาๆ:” ถ้าหากวันนั้นคุณ​บอกกับผม ว่าคุณ​ชื่ออะไร ผมก็อาจจะไม่คิดถึง​คุณ​อยู่​เสมอ​หรอก​”

ฉินซีหัวเราะ​ตามด้วย:”ถ้างั้นก็ค่อยยังชั่ว​ ฉันไม่ได้บอกกับคุณ​

…………..

หลินหยังทำงานเรียบร้อย​มาก เช้าวันที่สอง ลู่เซิ่นอยู่ในห้องนอน​ของตัวเอง​ ก็ได้เห็นรูป​ถ่ายที่ห่อเอาไว้เรียบร้อย​

ลู่เซิ่นพยักหน้า​ให้กับหลินหยัง ถามอย่างไม่ได้ตั้งใจ​ว่า:”นายได้ถามรึเปล่า​ ช่างกล้อง​ที่ถ่ายรูป​รูปนี้เป็นคนไหน?”

หลินหยังฟังปุ๊บก็รู้เลยว่า ลู่เซิ่นมีจุดประสงค์​อื่นๆ

แต่ว่าต่อให้​เขาได้รู้ล่วงหน้า​ว่าลู่เซิ่นสนใจข้อมูล​เอกสาร​ของช่างกล้อง​ก็ตาม กลับตรวจสอบ​อะไรที่มีประโยชน์​ไม่ได้​

เขาได้แต่ก้มหน้าลง​ และส่ายหน้า​:” ผมได้ถามแล้วครับ ผู้จัดงานทางโน้น​พูด​ว่า ผลงานชิ้นนี้เป็นของที่บริจาค​ รายได้ที่ได้มาจะให้กับมูลนิธิ​การกุศล​ เพราะฉะนั้น​จึงติดต่อ​ช่างกล้องไม่ได้​ ผลงานผ่านการส่งจากไปรษณีย์​เพื่อมาเข้าร่วมนิทรรศการ​ ผู้จัดงานทางโน้น​ก็มีวิธี​การติดต่อกับช่างกล้อง​ผ่านจากอีเมล์​เท่านั้นเอง​ครับ”

“ชื่อก็ไม่มี? “ลู่เซิ่นประหลาด​ใจ

หลินหยังพยักหน้า​:” ไม่ได้บอกชื่อ”

” เอาหล่ะ ฉันรู้แล้ว”ลู่เซิ่นผายมือ หลินหยังออกไปจากห้องนอนอย่างรู้ตัว

ลู่เซิ่นเอาอีเมล์​นั้นไว้ในมือ ลังเล​อยู่​สักพัก​ โทรศัพท์​ไปให้กับหลินยี่

” หลินยี่ ฉันอยากให้คุณ​ช่วยตรวจสอบ​คนคนนึง………”

………

ฉินซีจ้องตาโต:”ทำไมคุณ​ไม่ให้คนที่​บ้านช่วยตรวจสอบ​หล่ะ?”

ลู่เซิ่นยิ้มแย้ม​:”คุณ​ใจร้อนจนอยากให้พ่อแม่ผมรู้ตัวตนของคุณเร็วขนาด​นี้​เชียว?

ฉินซีหุบปาก​ใน​ทันทีทันใด​

ลู่เซิ่นกลับไม่ปล่อยเธอ พูดต่อไปว่า:” ถ้าหากผมใช้อินเทอร์เน็ต​ที่​บ้านตรวจสอบ​คุณ ไม่ถึงสิบนาที พ่อแม่ผมก็รู้ทันที ว่าผมกำลังหาข่าวคราว​ของผู้หญิ​งคนนึงอยู่ พ่อแม่ผมอาจจะหาคุณ​เจอ​เร็วกว่าผมเสียอีก ถือธนบัตร​และแกว่งไปแกว่งมา​สั่งให้คุณ​อยู่​ห่างจากผมไกลๆ”

ฉินซีคิดถึง​เหตุการณ์​แบบ​นี้​ อดที่จะหัวเราะ​ตามด้วยไม่ได้:” คุณ​ว่าแม่คุณ​แบบนี้ไม่ดีนะ”

ลู่เซิ่นยักไหล่​:” แต่ว่า……ถ้าหากผมใช้อินเตอร์​เน็ต​ที่บ้าน อาจจะหาคุณ​เจอตั้งนานแล้ว และเราได้รู้จักกันตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งก็จะไม่มีเรื่องมีราว​เกิดขึ้น​ตั้งมากมาย​ในภายหลัง”

รอยยิ้ม​ที่​หน้าของฉินซีแข็งทื่อ​ ค่อยๆจางหาย​ไป​

ถ้าหากพบเจอกับลู่เซิ่นเร็วอีกหน่อย เธออาจจะรับตัวเหยาหมิ่นออกมา​จาก​บ้านตระกูล​ฉิน ก็จะได้ไม่มีเรื่องทุกอย่าง​ในภายหลัง​แล้ว

แต่ว่า….. ชีวิต​คนไม่มี​ถ้าหาก

ยิ่งไปกว่านั้น​ เธอในตอนนั้น ยังคบกับหซู่หนานอยู่

แต่ว่าคำพูดนี้ ฉินซีคิดอยู่ในใจตัวเองก็พอแล้ว

ถ้าหาก​ให้ลู่เซิ่นได้ยิน ไม่แน่อาจจะโกรธ​เป็นฟืนเป็นไฟ​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท