Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1067

ตอนที่ 1067

บทที่ 1067 ได้รับความโปรดปรานจนรู้สึกประหลาด​ใจ

ตอนที่ฉินซีเดินออกมา​จากโรงพยาบาล สีหน้ายังขาวซีดอยู่เล็กน้อย

ต่อให้คุณ​หมอย้ำแล้วย้ำอีกว่าเลือกการรักษาแบบที่สองถือว่าอ่อนโยน​ที่สุดแล้วก็ตาม แต่ว่าหลังจาก​การรักษาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง​ เหงื่อ​ฉินซีก็ยังไหลออกมา​ไม่น้อย​เลยทีเดีย​ว

คุณ​หมอยื่นกระดาษ​ทิชชู่​ให้กับเธออย่างเอาใจใส่​:” การรักษาครั้งแรกทรมานหน่อยนะ ยังไงซะเป็นการรักษาแบบการขจัดภูมิไว หลังจากรักษา​ทุกครั้งก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง”

ฉินซีรับกระดาษ​ทิชชู่​มา​ เช็ดเหงื่อ​ที่ขมับ และพยักหน้า​

คุณ​หมอลุกขึ้น​มา​ส่งเธอไปที่หน้าประตู​ ถามแบบไม่ได้ตั้งใจ​ว่า:” วันนี้คุณ​มาคนเดียวหรือ?”

ชัดเจนมาก เมื่อวานลู่เซิ่นให้ความทรงจําที่ยากจะลืมกับเขาไว้เยอะ​

ฉินซียิ้มแย้ม​:” อืม เขามีธุระ​ออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด”

– คุณ​หมอพยักหน้า​ ไม่ถามอะ​ไร​อีก

ถึงแม้​ตอนนี้บ้านตระกูล​ฉินน่าจะไม่ทำอะไรกับเธออีกแล้วก็ตาม แต่ว่าลู่เซิ่นก็ยังไม่ไว้วางใจ​อยู่​ดี​ เธอเพิ่งเดินออกมา​จาก​ห้องผู้​ป่วย​ ก็มีบอดี้การ์ด​สามคนเดินออกมา​ ปกป้องเธออย่างใกล้ชิด​

ถึงแม้​บอดี้การ์ด​ใส่ชุดลำลองธรรมดา​ แต่ว่ารูปร่างสูงใหญ่​ล่ำบึ้ก เห็นแล้วดึงดูด​สายตาคนมาก

เพียงแต่ว่า​การปกป้อง​แบบนี้สำหรับฉินซีในตอนนี้ยอมรับอย่างใจเย็น​และนิ่งเฉยไปแล้ว

เพราะว่า​ตอนนี้เธอได้เข้าใจแล้วว่า ถ้าหากเธอเป็นอะไรขึ้น​มา​จริงๆ ไม่ใช่เรื่องของเธอเพียงผู้เดียว​แล้ว​

มีคนอื่นคิดถึง​ตัวเอง​อยู่​อย่างใจจดใจจ่อ​

ถ้าหากไม่อยากสร้างความวุ่นวาย​ให้​กับ​ลู่เซิ่น วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​ ก็คือปกป้อง​ตัวเอง​ดีๆ

แต่ว่าตอนนี้บริษัท​ฉินน่าจะชุลมุน​น่าดู จึงไม่มีกระจิตกระ​ใจ​มาหาเรื่อง​ฉินซีแล้วแหละ​

ฉินซีไม่ได้ตั้งใจไปค้นหาข่าว​ของบริษั​ทฉิน แต่​ว่ามีอานหยันคนนี้คอยเป็นเครื่อง​รายงานข่าวแบบนี้อยู่ เธอจะไม่พลาด​การเคลื่อนไหว​ใดๆของบริษั​ทฉินตลอดกาล​อยู่​แล้ว

เพียงแต่ว่า​ไม่ดูมือถือ​แค่ไม่กี่ชั่วโมง​เอง ฉินซีนั่งอยู่บนรถและเปิดมือถือ​ออกมา​ ข่าวคราว​ที่​อานหยันส่งมาสะสมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว​

ฉินซีไม่ต้องกดเข้าไป​ด้วยซ้ำ แค่ดูการพาดหัวข่าว​ ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไร​ขึ้น​

《ผู้ต้องหาหุ้นบริษัท​ฉินฆ่าคนโดยไม่ได้​ตั้งใจ​ ตำรวจได้จับกุม​ตัว​เรียบร้อย​แล้ว​》

《บริษัท​ฉินลงมือกับลูกสาวแท้ๆ? จ้างวานผู้ต้องหา​ฆ่าคน? 》

《เบื้องหลัง​บริษัท​ฉินกรุ๊บ”ทุจริต”ถูกเผยแพร่​ออก​มาแล้ว》

…………….

สื่อมวลชน​พวกนี้เพื่อผลประโยชน์​ พาดหัวข่าว​ซะเวอร์​

แต่ว่าฉินซีเลื่อนออก​ไปแบบไม่สนใจ ไม่ดูสักอย่าง​

เธอรู้ดี อานหยันแชร์​ข่าวสารเหล่านี้ให้กับเธอแบบเรื่อยเปื่อย​ ไม่ต้องการการตอบรับจากเธอ

แต่ว่าขณะที่​เธอกะจะเลื่อนออก​ไป ​จู่ๆอานหยันก็ส่งข่าวสารมาอีกครั้​ง

“เห็นรึยัง? ฉินเฉิงถูก​จับกุม​ตัว​แล้ว”

ฉินซียักคิ้ว​ พิมพ์​ตอบกลับไปว่า:” ฉินซึ่งเทียนหาคนมารับผิดแทนตัวเอง?”

อานหยันส่งข้อความ​เสียงมาโดยตรง​ซะเลยดีกว่า​:” คนแก่เจ้าเล่ห์​คนนั้นไม่ทำด้วยตัวเอง​แน่นอน ฉันได้ยินมาว่า ความคิดเห็น​ที่​ลักพาตัว​คุณ​ฉินเฉิงเป็นคนเสนอออกมา​จริงๆ หากจับกุมเขาก็ไม่นับว่าใส่ความ​เขา แต่​ว่าหากพูด​ว่าฉินซึ่งเทียนไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราวเลย​สักนิด ฉันไม่เชื่อหรอก”

ฉินซียิ้มแย้ม​ ตอบกลับ​ไปว่า:” นี่เป็นวิธี​ที่​เขาใช้จนชิน”

อานหยันตอบสีหน้า​กลับไป อาจจะ​ไปทำธุระ​อย่างอื่น​แล้ว​ไม่ได้พูดมากกว่า​นี้​อีก​

ฉินซีเก็บมือถือ​ มองออกไปทางหน้าต่าง​

เธอพอเดาออก​ ตอนที่ฉินเฉิงเสนอเรื่องแบบนี้​ขึ้น​มา​ คิดไม่ถึง​แน่นอน​ว่า​ตัวเองจะเข้าไปอยู่ในคุกเพราะเรื่องแบบนี้

ช่วงนี้ฉินซีถึงจะค่อยๆเข้าใจ ธุรกิจ​ของ​บริษัท​ฉินที่บริหาร​มาตั้งหลายปี การบริหาร​ไม่ได้บริสุทธิ์​

เรื่องที่ลงมือโหดเหี้ยม​ลับหลัง​แบบนี้ ก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว

ส่วนเรื่องบริษัท​ฉิน ส่วนใหญ่​ให้ฉินเฉิงไปทำ

ความสัมพันธ์​ของฉินซึ่งเทียนและฉินเฉิงใกล้ชิด​มากกว่าที่เธอรับรู้​เสียอีก ฉินซึ่งเทียนทำดีบังหน้า​ ส่วนฉินเฉิงช่วยทำเรื่องทุจริต​อยู่​ลับหลัง​

ฉินซึ่งเทียนมีทางลัดในการแก้ปัญหา​ ฉินเฉิงออกหน้าทำเรื่อง​ทุกครั้ง ส่วนเขาคอยช่วยปกปิด​อยู่​ลับหลัง​ เพราะฉะนั้น​คนอย่างฉินเฉิงคนนี้ถึงได้เหิมเกริม​จนถึงทุกวันนี้​ ยิ่งไปกว่านั้น​อยู่​ที่ห้องประชุม​บริษัท​ฉินยังมีจุดยืน​ที่​ชัดเจน​ซะด้วยสิ

เพราะฉะนั้น​รู้​ว่า​ฉินเฉิงเสนอกับฉินซึ่งเทียนว่าจะลักพาตัว​ตัวเอง​ ฉินซีไม่แปลกใจ​เลย​สักนิด​

ยิ่งไปกว่านั้น​พวกเขาอาจรู้สึก​ว่า​แค่เรื่องเล็ก​ๆเท่านั้น​ ไม่ได้​ใช้คนกลุ่มนั้นที่พวกเขาใช้อยู่บ่อยๆ แต่ไปหาคนข้างนอกแบบเรื่อยเปื่อย​

แต่ว่าครั้งนี้นี่เอง ไม่เพียงแต่​เจอคู่ปรับอย่าง​บริษัท​ลู่ ยังเกิดอุบัติเหตุ​ขึ้น​มา​อีกด้วย​

ถ้าหากไม่ได้​ทำให้คนถึงแก่ตาย ลู่เซิ่นรีบพาคนกลับไป ต่อให้​จู่โจมด้วย​ความคิดเห็น​ของประชาชน​ ตอนนี้ก็จะไม่ถึงขั้น​นี้​

แต่ว่าพี่หลิวได้ตายไปแล้ว​ และเรื่องก็บานปลายซะด้วยสิ

คำนินทาว่าร้ายของบริษั​ทฉิน ทีแรกบริษัท​ฉินไม่ให้ความสำคัญ แค่หาคนลบข้อความ​ทิ้ง​ไป​ คิดว่าแค่ปกปิด​เรื่อง​นี้เอาไว้ก็เพียงพอแล้ว​

แต่ว่าตอนที่พวกเขารู้สึก​ถึงความสำคัญ ก็สายไปเสียแล้ว

ความคิดเห็น​ของ​ประชาชน​บานปลาย​และเร็วกว่าที่พวกเขาจินตนาการ​เอาไว้เสียอีก

ทุกคนเริ่มต่อต้านผลิตภัณฑ์​ของบริษั​ทฉินด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น​คนที่มีอาการแพ้ไปพ่นสีที่หน้าประตู​สำนักงานหลัก​บริษัท​ฉิน ทำให้หน้าประตู​บริษัท​ฉินพังเสียหาย​

ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนถูกตรวจสอบ​และถูกจู่โจม​ด้วยความคิดเห็น​ของประชาชนถือว่า​ชุลมุน​น่าดู​ ไม่เหมือนแต่ก่อน​อีกแล้ว ปกปิด​เรื่อง​ราวได้มิดชิด​

เพื่อเป็นการป้องกัน​ตัวเอง เขาจำเป็นต้องละทิ้งฉินเฉิงซึ่งเหมือนกับมือซ้ายและมือขาวของเขาคนนี้ไป

ตอนเที่ยง​ฉินเฉิงถูก​ตำรวจพาตัว​ไป ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง​รูปถ่าย​ที่เขาถูกสวมกุญแจ​มือไว้ก็แพร่หลาย​ออก​ไป​ทั่วอินเตอร์​เน็ต​แล้ว​

คนส่วนใหญ่​ถึงเอาความสนใจย้ายมาที่ตัวผู้ต้องหา สำหรับการประณามเจ้าตัวอย่าง​ฉินซึ่งเทียนและบริษัท​ฉินจึงหยุดนิ่ง​ไปชั่วคราว​

ไม่ต้องคิดก็รู้ได้เลยว่า ผู้บงการ​เบื้องหลัง​ ต้องเป็นฉินซึ่งเทียนแน่นอน​

เพื่อเป็นการป้องกัน​ตัวเอง​ เขาสามารถ​ทำถึงขั้น​นี้​ ในชั่วขณะหนึ่ง​ฉินซีไม่รู้​ว่า​ควรจะสงสาร​ฉินเฉิงดีรึเปล่า​

เพียงแต่​ว่าแบบนี้ถึง​จะ​ดูออกบ้าง ฉินซึ่งเทียนทำถึงขนาดนี้ ถูกบีบคั้น​จนต้องทำแบบนี้

อีกก้าวเดียว​

ฉินซีคิดอยู่ในใจ​เงียบๆ

ขอแค่อีกก้าวเดียว ฉินซึ่งเทียนก็จะล้มลงไปอย่างสิ้นเชิง​

ส่วนการจู่โจม​ครั้งสุดท้าย​ครั้งนี้​ อยู่​ในการเตรียมพร้อม​ของเธอแล้ว

……….

ฉินซีกลับไปที่รีสอร์ท​ชิงหยวน ทานอาหารเย็น​เสร็จ​ ขึ้นไปบนตึกและเปิดคอมพิวเตอร์​ออกมา​ กำลังคิดจะจัดการงานที่สะสมเมื่อก่อนนี้​ จู่ๆก็พบในอินบล็อก​มีอีเมล์ที่ยังไม่ได้อ่านหนึ่งข้อความ​

ในตัวอีเมล์​ไม่มีความพิเศษ​ใดๆ แต่ว่าคนที่ส่งอีเมล์​มาพอที่จะทำให้เธอประหลาดใจ​มากเลยทีเดีย​ว

——ซึ่งก็คือที่ลู่เซิ่นได้พูดกับเธอไปเมื่อวานนี้ สปอนเซอร์​นิทรรศการ​ศิลปะ​ที่เมืองหนานเฉิงคนนั้น​นี่เอง

ในแวดวง​ช่างภาพ​ สปอนเซอร์​คนนี้ที่จัดงานนิทรรศการ​ขึ้น​มา​มีระดับความน่าเชื่อถือ​ต่อสาธารณะมากเลยทีเดีย​ว

เหตุการณ์​โดย​ทั่วไป​ ก่อนที่​สปอนเซอร์​จัดงานนิทรรศการ​ขึ้น​มา​ จะประกาศ​หัวข้อ​นิทรรศการ​ออกมาและ​เชื้อเชิญผลงานของ​ช่างภาพ​ทุกคน​

มีแต่คนที่สปอนเซอร์​ต้องการเชิญเป็นพิเศษ​เท่านั้น ถึงจะส่งอีเมล์​เชื้อเชิญ​โดยเฉพาะ​

และมีแต่ผลงานของช่างภาพ​ที่ถูกสปอนเซอร์​เชื้อเชิญเป็นพิเศษ​เท่านั้น ถึงจะถูกวางอยู่ใน​ห้องโถงนิทรรศการ​หลัก

ยิ่งไปกว่านั้น​คนมากมาย​ถือว่า​นี่เป็นเกียรติ​อย่างนึง​

ฉินซีแค่จำได้แบบคร่าวๆว่าเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลา สปอนเซอร์​จัดงานนิทรรศการ​แล้ว แต่ว่าช่วงนี้เธอถูกเรื่องราว​ต่างๆนาๆขัดขวาง​ไว้​ ไม่มีเวลาไปสังเกต​งานนิทรรศการครั้ง​นี้

ทีแรกเธอคิดว่า​ตัวเอง​น่าจะพลาดเวลาที่ส่งผลงานไปแล้ว และไม่มีวาสนา​กับงานนิทรรศการ​ครั้งนี้แล้วด้วยซ้ำ

คิดไม่ถึง​สปอนเซอร์​กลับติดต่อ​ตัวเองด้วยตัวเอง​

ฉินซีกดเข้าไปในอีเมล์​อย่างประหลาดใจ​

อีเมล์​พูดแบบง่ายๆ​ แสดงท่าทีออก​มา​ว่าสนใจผลงานของเธอ หวังว่าเธอสามารถ​เข้าร่วมงานนิทรรศการ​

ยิ่งไปกว่านั้น​สปอนเซอร์​ไม่ได้​บ่งชี้​อย่างชัดเจน​ว่า​เป็นผลงานชิ้นไหน นั่นก็หมายความ​ว่า​ ไม่ว่าฉินซีส่งผลงานอะไรออกไปก็ตาม พวกเขาล้วนยอมรับอย่างดีใจ

ชั่วขณะหนึ่ง​ฉินซีมีความรู้สึก​ถูกแอนดูจนน่าประหลาด​ใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท