Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1074

ตอนที่ 1074

บทที่ 1074 จากใจจริง

ฉินซีเบะปากอย่างหยอกล้อ : “คุณโทรมาหาฉันแต่เช้าขนาดนี้ ต้องรู้หมดแล้วสิ จะมาถามฉันอีกทำไม?”

ลู่เซิ่นเพียงหัวเราะ ไร้การตอบรับใดๆ : “ผมโทรหาคุณเพราะเห็นข่าวจริงๆนั่นแหละ แต่เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น ผมอยากฟังจากคุณ”

เขายอมให้เธอเช่นนี้ ฉินซีไม่กล้าแสร้งอีกต่อไป เธอก้มหน้าพร้อมเอ่ย : “วันนี้ฉันไปฟังคำตัดสินของเห้อเสียงมา มีคนจำฉันได้ โพสลงโลกออนไลน์ แล้วฉันก็ถูกนักข่าวรุม”

ลู่เซิ่นพยักหน้า ไม่ขัดคำ

ฉินซีเอ่ยเสริม : “ก่อนหน้านี้ฉันวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเห้อเสียงถูกปล่อยตัว ฉันค่อยให้จ้าวจิ้งช่วยเห้อเสียงฟ้องฉินซึ่งเทียนในข้อหาหมิ่นประมาท ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนเสมือนอยู่หน้าหุบเหว คดีนี้ ต้องดึงดูดความสนใจผู้คนได้แน่ ตอนนั้นฉันจะเอาหลักฐานที่ได้จากเห้อเสียงเผยแพร่แก่ประชาชน แล้วค่อยหาโอกาสเหมาะแถลงข่าวเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหยาหมิ่น”

ลู่เซิ่นตอบกลับเสียงแผ่ว : “แต่วันนี้ถูกนักข่าวรุม แผนการพังไม่เป็นท่า?”

ฉินซีพยักหน้ารับ : “ฉันไม่คิดว่าจะมีภาพหลุด ไม่คิดด้วยว่านักข่าวจะมา แต่เมื่อเห็นนักข่าว ฉันก็เปลี่ยนแผนแล้ว”

“อะไร?” ลู่เซิ่นเอ่ยถาม

“ตอนนี้ฉันเป็นจุดสนใจของทุกคน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้จ้าวจิ้งฟ้องร้องเพื่อดึงความสนใจของทุกคน ฉันให้สัมภาษณ์นักข่าวเพื่อสะกิดความอยากรู้ของนักข่าวเอง” ฉินซีตอบ

ลู่เซิ่นนึกถึงภาพฉินซีที่ให้สัมภาษณ์แก่นักข่าว ก่อนพยักหน้า : “คุณเปลี่ยนแผนกะทันหันเช่นนี้ ไม่มีปัญหาอะไรนี่”

ฉินซีถอนหายใจ : “แต่เนื้อหาคดีของเหยาหมิ่นถูกปล่อยออกไป ฉันก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่อีกรอบ”

“รู้สึกเหมือนถูกไล่ต้อน?” ลู่เซิ่นจ้องมองฉินซีที่หน้าจอโทรศัพท์ พร้อมน้ำเสียงที่นุ่มนวล

ฉินซีพยักหน้า : “จะบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดี ก็ไม่เชิง ให้ทุกคนได้รับรู้ล่วงหน้าว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีของเหยาหมิ่น เพื่อก่อให้เกิดการโต้แย้งและคาดเดา เมื่อแถลงข่าว จะได้รับการยอมรับจากประชาชนโดยเร็ว ฉันแค่…..แผนการที่ตัวเองวางไว้ถูกเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่”

ลู่เซิ่นหัวเราะเบาๆ : “ฉินซี รู้อะไรไหม ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าเหตุการณ์เหนือการคาดเดานี้อีกแล้ว”

ฉินซีหัวเราะตาม แต่รอยยิ้มนั้นจางหายไปในเวลาต่อมา : “แล้วฉัน บังเอิญเห็นคอมเม้นเกี่ยวกับเหยาหมิ่นเข้า”

หากเป็นไปตามแผนการ เมื่อเรื่องราวเชื่อมโยงมาถึงเหยาหมิ่น เธออาจไม่ได้รับแรงกระแทกจากผู้คนอีก แต่ตอนนี้ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ความจริงเกี่ยวกับเหยาหมิ่นยังไม่มีการเปิดเผย ทุกคนจึงคอมเม้นด้วยข้อความที่น่าเจ็บปวด

ฉินซีไม่ต้องการเผยมุมที่อ่อนแอของตน เสียใจกับคอมเม้นที่ไม่ได้สำคัญอะไร เสมือนว่าเธอนั้นบอบบางราวกระจกแก้ว ต้องการการปกป้องจากคนรอบข้าง

แต่ว่า…..ยังไงก็เป็นลู่เซิ่น

เป็นลู่เซิ่นที่ได้เห็นความอนาถที่สุดของเธอมาแล้ว

เมื่อฟังเธอกล่าวจนจบ ลู่เซิ่นเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า เผยสีหน้านิ่งขรึมจริงจัง : “ใครเป็นคนคอมเม้น? บอกชื่อมา ฉันจะสั่งคนหาเขาให้เจอในวันนี้ สั่งสอนมันให้รู้จำ”

ฉินซีแหงนหน้าขึ้นอย่างตกใจ : “คุณพูดบ้าอะไร คนแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์เยอะจะตายไป จะสั่งสอนหมดทุกคนได้ยังไง”

แต่เมื่อเห็นสายตาหยอกล้อของเขา ฉินซีถึงได้รู้ตัว

ลู่เซิ่นเพียงหยอกให้เธออารมณ์ดี เขาตั้งใจเอ่ยเช่นนั้นออกมา

“คุณนี่มัน…..” ฉินซีอดหัวเราะออกมาไม่ได้

ครั้งนี้ เป็นเสียงหัวเราะจากใจจริง

ลู่เซิ่นยกมุมปาก : “ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นไหม?”

ฉินซีพยักหน้า

อันที่จริงต่อให้ลู่เซิ่นไม่โทรหาเธอ เพียงแค่ให้เวลาเธอสักหน่อย เธอก็สามารถเดินออกจากอารมณ์ขุ่นมัวนั่นได้เอง

แต่เพียงแค่ลู่เซิ่นโทรหาเธอ สิบนาทีเท่านั้น ความหม่นหมองในใจเธอค่อยๆมลายหายไป

“คุณไปทำงานเถอะ” ฉินซีเห็นทางนั้นมีใครบางคนเคาะประตูเข้ามา เธอเหลือบมองนาฬิกา ได้เวลาที่ลู่เซิ่นต้องทำงานพอดี

ลู่เซิ่นพยักหน้าตอบ เขาหันมองบุคคลที่มาใหม่โดยไม่เอ่ยใดๆ ก่อนยกมือขึ้นกดวางสาย

ฉินซีจับจ้องหน้าจอที่ดับสนิท พร้อมเผยรอยยิ้ม

ต่อให้ลู่เซิ่นไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ ต่อให้ขั้นกลางด้วยระยะห่างแสนไกล ทั้งคู่ก็ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันได้

เธอวางโทรศัพท์ลง พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

ยังมีอะไรอีกมากมายที่เธอต้องทำ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมัวหมกมุ่นกับอารมณ์ของตัวเอง

…..

แผนการถูกเลื่อนเร็วขึ้นมาก สิ่งที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าถูกทำลายด้วยเช่นกัน ต้องเตรียมการใหม่อีกรอบ เช้าวันที่สอง ฉินซียังคงมาถึงโรงพยาบาลอย่างตรงเวลาเช่นเคย เธอนัดเวลากับหมอก่อนเข้าห้องรับการบำบัด

ส่วนการรักษาอาการป่วยจากการถูกกระทบจิตใจขั้นรุนแรง เธอเข้ารับการรักษาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้รักษาด้วยการพูดคุยกับหมอ ไม่เจ็บปวดมากเท่าแต่ก่อนเก่าแล้ว การบำบัดด้วยวิธีนี้ซ้ำๆเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ หมอจึงเปลี่ยนแผนการบำบัดด้วยวิธีอื่น

“วันนี้คงต้องให้เธอกลับไปยังเหตุการณ์วันที่พี่หลิวเกิดอุบัติเหตุ” คุณหมอให้ฉินซีเอนกายลงบนเก้าอี้บำบัด หน้าผากของฉินซีผุดเหงื่อท่วม

คุณหมอยื่นทิชชู่ให้กับเธอ ฉินซีกล่าวขอบคุณ พลางเช็ดเหงื่อของตนเอง เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามคำถามที่ตนประหลาดใจมาหลายวัน : “หมอ เอ่อ…..จิตใต้สำนึกของฉัน ไม่รู้สึกผิดกับการตายของพี่หลิว?”

เธอมีความสงสัย เป็นเรื่องปกติ

พ่อบ้านไม่ได้ชัดเจนนักกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ แต่ได้ยินว่าเธอไปหาจิตแพทย์ เขารวบรวมข้อมูลจากในหนังสือหลายเล่มได้ความว่า ฉินซีรู้สึกไม่สบายใจเพราะเธอทำผู้อื่นเสียชีวิตโดยไร้เจตนา เธอจึงต้องไปหาจิตแพทย์

รู้เช่นนี้ พ่อบ้านคอยเคียงข้างปลอบใจเธอทุกวัน พี่หลิวได้รับผลกรรมจากการทำชั่วไม่ใช่เพราะฉินซี

ครั้งสองครั้ง ฉินซีไม่เห็นความผิดปกติ แต่เมื่อบ่อยเข้า ฉินซีรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

เธอปลอบใจพ่อบ้าน แต่กลับเกิดคำถามขึ้นกับตน

หากต้องโต้กันจริงๆ พี่หลิวเสียชีวิตเพราะทำความผิดจริงๆนั่นหละ หากแต่….เธอกลับไร้ปฏิกิริยาใดๆกับการเสียชีวิตของพี่หลิวปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นเลือด เพราะนึกถึงเหยาหมิ่นเท่านั้น

จากวันนั้น เธอไม่เคยนึกถึงพี่หลิวแม้แต่น้อย

หรือเธอ…..เป็นคนเลือดเย็น?

ฉินซีประหลาดใจขึ้นมา

เมื่อความสงสัยเกิดขึ้น ยากนักที่จะหายไป ฉินซีทนไม่ไหวอีกต่อไป ถึงได้เอ่ยถามหมอ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท