Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1075

ตอนที่ 1075

บทที่ 1075 อยู่ในใจ

คุณหมออ่านใจเธอออกอย่างรวดเร็ว เขาหันหน้าเผชิญกับเธอ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาก่อนเอ่ย : “เธอ…..เคยฝันเห็นเขาไหม?”

ฉินซีทบทวนสักครู่ ก่อนส่ายหน้า

ก่อนเข้ารับการรักษา มีอยู่หลายครั้งที่เธอฝันร้าย แต่เธอรู้ดี เลือดสีแดงสดในความฝัน ไม่ใช่พี่หลิว แต่เป็นเลือดของเหยาหมิ่น

“ทฤษฎีขึ้นชื่อว่าเอาไว้ ความฝันเกิดจากจิตใต้สำนึกของคน” คุณหมอลากเก้าอี้ออก นั่งลงข้างฉินซี “แม้ตอนนี้ มีข้อความมากมายเกี่ยวกับความฝัน แต่ตัวผมมองว่า ทฤษฎีนี้เป็นเหตุเป็นผล”

“หมายความว่า…..ฉันไม่มีความรู้สึกผิดต่อพี่หลิวจริงๆ” ฉินซีเอ่ยถาม

คุณหมอพยักหน้า “จากการรักษา คุณไร้ความสนใจใดๆเกี่ยวกับพี่หลิว สิ่งที่อยู่ในใจคุณ คือคุณแม่ของคุณ”

“นี่…..” ฉินซีขมวดคิ้วต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง หากแต่ถูกหมอขัดขึ้น

“แต่ผมไม่รู้สึกว่านั่นเป็นปัญหา” คุณหมอน้ำเสียงจริงจัง “ตรงกันข้าม นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนมีเหตุผล ความตายของพี่หลิว ไม่ได้หมายความว่าคุณไร้ความเกี่ยวข้อง แต่ไม่ว่าอย่างไร คุณอย่ามองว่าเป็นสาเหตุหลัก หากเขาไม่ลักพาตัวคุณ หากเขาไม่ยื้อแย่งพวงมาลัยรถ เขาก็ไม่ต้องตาย จากคำอธิบายของคุณเอง เขาในตอนนั้นเรียกร้องความตาย คุณจะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”

ฉินซีพูดไม่ออก

เธอคิดเช่นนั้นจริงๆ

“เพราะงั้น คุณเลือกที่จะไม่อาลัยอาวรณ์กับการตายของพี่หลิว ไม่ใช่เรื่องดีหรือไง” คุณหมอลุกขึ้น ตบบ่าเธอ “หากคุณเสียใจจนเกินไป ผมอาจจะคิดว่าคุณเกิดความรู้สึกต่อเขา”

“เกิดความรู้สึก?” ฉินซีเอ่ยถาม

“ก็คือ…..ตอนนั้นคุณไม่ได้ห้ามคุณแม่ของคุณ ตอนนี้ไม่ได้ห้ามพี่หลิว เพราะความเชื่อมโยงของสองเรื่องนี้ จึงเกิดความรู้สึกผิดต่อพี่หลิว” คุณหมอเอ่ยอย่างกระชับ “แต่ความรู้สึกผิดนี้ไม่มีอยู่จริง หากคุณรู้สึกจริง ผมต้องใช้เวลารักษายาวนาน วุ่นวายกว่านี้อีก”

ฉินซีหัวเราะ “ถ้างั้นฉันก็ช่วยคุณประหยัดเวลา”

คุณหมอหัวเราะพร้อมพยักหน้า : “ใช่แล้ว”

…..

ห้องรักษาของโรงพยาบาลเสมือนยูโทเปียชั่วคราวของฉินซี อยู่ในนี้เธอสามารถหลบหนีจากโลกแห่งความจริง

แต่เมื่อก้าวออกจากโรงพยาบาล เธอไม่สามารถไม่กลับไปยังชีวิตจริงได้

บนรถ ฉินซีไตร่ตรองสักครู่ ก่อนส่งข้อความให้จ้าวจิ้งไม่ต้องฟ้องร้องให้กับเห้อเสียง ไม่คาดคิด สักครู่เดียวเท่านั้น จ้าวจิ้งโทรเข้ามา

ฉินซีรับสายด้วยความฉงน “จ้าวจิ้ง?”

เวลานี้ จ้าวจิ้งยุ่งอยู่กับงานของตน ฉินซีจึงไม่โทรศัพท์ไปหา ไม่คาดคิดเธอกลับโทรมาเอง

“คุณฉิน ผมเอง” เสียงจากปลายสาย กลับเป็นเห้อเสียง

“เห้อเสียง?” ฉินซีขมวดคิ้วเป็นปม “คุณอยู่นั่นได้ไง”

เห้อเสียงหายใจแรง เสมือนตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง “คุณฉิน คุณมีอะไรที่ต้องการใช้ผม หาผมได้ตลอดเลย!”

ไม่ทันที่ฉินซีได้เอ่ยตอบ ปลายสายกลับมีเสียงโหวกเหวกแทรกขึ้น หลายวินาทีต่อมา เสียงจ้าวจิ้งดังขึ้น : “พี่ฉินซี โทษที เขาเห็นข้อความพี่เข้า เค้าให้ฉันโทรหาพี่ให้ได้เลย”

ฉินซีส่ายหน้า : “ไม่เป็นไร แต่ว่าทำไมเห้อเสียงถึงไปหาเธอได้?”

“อาจเพราะคำพูดพี่เมื่อวัน เขาไม่สบายใจ แถมยังติดต่อพี่ไม่ได้ ก็เลยมาถามฉันว่ารู้อะไรบ้างไหม”

ฉินซีถึงได้สบายใจขึ้น เธอหวั่นเห้อเสียงไปหาเรื่องเธอเพราะเรื่องคดี

“อย่างนั้นหรือ” ฉินซีเอ่ย “เธอให้เบอร์กับเขาไปเถอะ ฉันมีเรื่องที่ต้องรบกวนเขา”

เห้อเสียงยืนฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินประโยคฉินซี เขารีบเอ่ยขึ้น : “ผมอยู่นี่! ว่ามาเลย!”

จ้าวจิ้งส่งโทรศัพท์ให้เห้อเสียง เขาส่งเสียงดังลั่นกว่าเดิม “ คุณฉิน มีเรื่องอะไร ที่ผมพอจะทำได้ ผมยอมทำทุกอย่าง!”

ฉินซีหัวเราะเสียงเย็น : “ฉันต้องการให้คุณออกมาชี้ตัวฉินซึ่งเทียน คุณทำได้ไหม?”

เห้อเสียงชะงักอยู่นาน ก่อนเอ่ยขึ้น : “ผม…..ผมจะพยายาม”

“ได้หรือไม่ได้ ฉันต้องการแค่สองคำตอบนี้” ฉินซีเอ่ยเสียงเย็น

เห้อเสียงอ้ำอึ้งอยู่นาน ก่อนตัดสินใจ กัดฟันกรอด : “ได้! ผมจะทำตามคำสั่งคุณ!”

“ดี” เป็นไปตามคาด “ถึงเวลา ฉันจะให้จ้าวจิ้งติดต่อคุณไป”

จบคำ เธอตัดสายทิ้งทันที

ฉินซีวางโทรศัพท์ลง ก่อนมองออกไปนอกหน้าต่าง

ทั้งหมดกำลังจะจบลงแล้ว

…..

เมื่อฉินซีกลับถึงรีสอร์ทชิงหยวน พ่อบ้านมีอาการผิดแปลกไป

“คุณผู้หญิง เมื่อสักครู่…..มีคนมาหาคุณ บอกว่าเป็น…..คุณแม่ของคุณ”

พ่อบ้านรู้อยู่แล้ว แม่ของฉินซีนั้นเสียไปตั้งนานแล้ว

ถ้าอย่างนั้นคนที่มาหาเธอ คงไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก…..หลี่เหวย

มิน่าเขาถึงได้ระแวดระวัง เสมือนกลัวฉินซีโกรธ

แม่ฉินซีกลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ : “อืม? ไล่เธอออกไปก็พอ ฉันไม่มีเวลาพบเธอ”

พ่อบ้านพยักหน้ารัว : “อืม ผมสั่งให้คนไปบอกว่าคุณไม่อยู่ เธอก็ไปเลย แต่…..เธอบอกว่าช่วงบ่ายจะมาอีก”

“มาอีก?” คิ้วทั้งสองข้างของฉินซีขมวดเข้าหากัน “มาอีกก็แค่ไล่ออกไปอีก ฉันไม่มีเวลาสนใจเธอ”

พ่อบ้านพยักหน้ารับคำ

แต่เมื่อฉินซีทานอาหารเที่ยงได้เพียงครึ่งเดียว พ่อบ้านกลับเข้ามาด้วยสีหน้าลำบากใจ

“คุณผู้หญิง เธอคนนั้น……มาอีกแล้ว โหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน หากคุณผู้หญิงไม่ออกไป เธอจะบอกที่อยู่ให้กับนักข่าว…..แถมคนรุมเต็มไปหมด”

ฉินซีไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไร

บริเวณชิงหยวนมีคนรุมล้อมอยู่ไม่น้อย หลี่เหวยคงตั้งใจแน่ๆ ถึงได้สร้างความวุ่นวายที่หน้าชิงหยวน

หากนี่เป็นบ้านของเธอ ช่างหลี่เหวยโวยวาย เธอไม่หวั่น แต่ที่นี่ยังไงซะก็เกี่ยวข้องกับลู่เซิ่น

เธอรู้ฝีมืออันชั่วร้ายของหลี่เหวยดี หากยังสร้างความวุ่นวายที่หน้าบ้านต่อไป ไม่ว่าอะไรเธอก็พูดได้ทั้งนั้น

ฉินซีถอนหายใจ : “พาเธอไปที่สวนหลังบ้าน”

พ่อบ้านไม่เข้าใจ : “สวนหลังบ้าน?”

ฉินซีพยักหน้า : พาเธอไปที่ริมน้ำก็พอ เดี๋ยวฉันตามไป”

พ่อบ้านพยักหน้ารับ ก่อนเดินนำบอดี้การ์ดออกไป

ฉินซีหยิบตะเกียบขึ้นทานอาหารต่อไป

เธอทานอาหารตามปกติไม่รีบไม่ร้อนไม่ช้าเกินไป สิบกว่านาทีผ่านไป เธอยืดตัวลุกขึ้น ก่อนเดินไปที่สวนหลังบ้าน

…..

หลี่เหวยสร้างความวุ่นวายที่หน้าบ้าน เธอรู้ดีตระกูลใหญ่อย่างตระกูลลู่ หวั่นเรื่องการไม่ซื่อตรงที่สุด

เธอถึงได้มั่นใจนัก หากเธอทำเช่นนั้น ฉินซีต้องออกมาแน่

เป็นไปตามคาด สักครู่เดียว บอดี้การ์ดหลายนายเดินออกมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท