Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1084

ตอนที่ 1084

บทที่ 1084 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ถังย่านั่งอยู่ห่างจากฉินซีเล็กน้อย สื่อที่มีอิทธิพลได้มีการตกลงกันไว้แล้ว ดังนั้นจึงรู้ตัวว่าต้องหลีกเลี่ยงเธอ และมุ่งถ่ายฉินซีคนเดียว

รูปลักษณ์ของฉินซีถือได้ว่ามีเสน่ห์ ไม่ใช่ความงามแบบไข่ในหิน ด้วยตาสองชั้นลึก จมูกโด่ง ใบหน้าเรียว คางแหลม และงอขึ้นเล็กน้อย กลิ่นอายแบบนี้แหละ ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สามารถเข้าถึงได้

ในแผนเดิมของถังย่าช่างแต่งหน้าจะใช้เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อลดความรั้นของรูปลักษณ์ขอฉินซี และยังเน้นขอบตาที่ดำของเธอ บวกกับกระโปรงธรรมดาที่ไม่เน้นโครงร่างเพื่อเน้นความบริสุทธิ์ของเธอ มันทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนเธอเป็นเหยื่อตั้งแต่แรกเห็น และความเห็นอกเห็นใจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่สุดท้ายเธอก็ออกแบบแผนใหม่ตามความคิดของฉินซี

ฉินซีนั่งอยู่บนเวที มีใบหน้าที่สดใสไม่มีการแต่งหน้าหนักๆบนใบหน้า หรือแม้แต่การแต่งตาเพียงแค่การแต่งหน้าพื้นฐานที่ละเอียดอ่อน และริมฝีปากสีแดงมีออร่าที่ไม่อาจพรรณนาได้

สวมสูทสีดำตัดเย็บให้เข้ากับสรีระเส้นไหล่มีความแข็ง แต่กระโปรงถูกแทนที่ด้วยกางเกงขากว้างสีดำเมื่อเดินก็สามารถพัดลมมาได้เป็นระลอก

เมื่อมองแวบแรก มันราวกับว่า ฉินซี กำลังจัดงานแถลงข่าวการควบรวมกิจการ ด้วยการลงนามที่ทำให้มีการหมุนเวียนเงินหลายสิบล้าน แทนที่จะเป็น ‘เหยื่อ’

เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่เมื่อเธอปรากฏตัว ก็มีการพูดคุยกันอย่างดุเดือดบนอินเทอร์เน็ต

-พระเจ้าฉินซี หน้าตาดีเกินไปคุณไม่คิดจะเข้าวงการบันเทิงเหรอ

-ลิปสติกของเธอคือเบอร์อะไรฉันอยากซื้อ

-อย่าพูดนอกเรื่องได้ไหม ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ เธอดูเหมือนจะไม่ตกเป็นเหยื่อ แต่ในทางกลับกันเธอดูเหมือนเป็นคนที่กุมอำนาจของฉินซึ่งเทียน

-พอเถอะ คนที่ตกเป็นเหยื่อต้องอ่อนแอ เหยาะแหยะไปตามลมฝนตลอดเลยหรือไง

คนของถังย่ารับทิศทางลมได้เป็นอย่างดี ยกเว้นการพูดคุยนอกหัวข้อเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของฉินซีบนอินเทอร์เน็ต แต่คนที่เหลือก็ไม่ได้หลงประเด็น เพราะรูปลักษณ์ที่ก้าวร้าวเกินไปของเธอ แต่กลับรู้สึกว่า ฉินซีในรูปแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้

แน่นอนว่า ฉินซีที่นั่งอยู่บนเวทีไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้

เธอเพิ่งเดินขึ้นไปบนเวที นั่งลงใช้เวลาไม่กี่วินาที เพื่อให้ชินกับการกระพริบตาของแฟลช จากนั้นหันศีรษะไปส่งสัญญาณให้ถังย่าว่าเธอเริ่มได้

ถังย่าพยักหน้า และเปิดไมโครโฟน “ขอบคุณมากที่มาในวันนี้ การแถลงข่าวของวันนี้ประกอบด้วยสองขั้นตอน ขั้นแรกคุณฉินซีจะอธิบายความจริงให้คุณทราบเกี่ยวกับข่าวต่างๆที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากบนอินเทอร์เน็ต และจากนั้นจะมีเวลาให้สัมภาษณ์สื่อช่วงสั้นๆ เอาล่ะตอนนี้เราจะเริ่มขั้นตอนแรก โปรดเงียบ และปิดโทรศัพท์มือถือของคุณ”

หลังจากที่เธออธิบายสั้นๆ และกระชับแล้ว เธอก็พยักหน้าให้ฉินซี และตัวเองก็เดินไปอีกทางหนึ่ง

ฉินซีเปิดไมโครโฟน และเงียบไปสองสามวินาที ก่อนที่จะพูด

“มากกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ฉันอยากมีโอกาสที่จะได้มองทุกคน และพูดความจริงเหมือนตอนนี้” เสียงของฉินซีสงบมาก ทำให้คนไม่สามารถได้ยินอารมณ์พิเศษใดๆ “แต่แล้วฉันก็ไม่มีโอกาสนี้ ฉันได้แต่เฝ้าดูแม่ของฉันกระโดดตึกต่อหน้าต่อตา”

ทันทีที่เธอพูดสิ่งนี้ ดวงตาของทุกคนก็เป็นประกายขึ้น และเสียงชัตเตอร์ของช่างภาพก็ไม่หยุด และดังขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันพยายามมาหนึ่งปี ก่อนที่จะสามารถบอกทุกคนได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต” เสียงของฉินซีแผ่วเบา

“เมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนที่ฉินซึ่งเทียนอยู่ในวิทยาลัย เขาได้เดทกับหลี่เหวย เพื่อนร่วมชั้นของเขา เขาทำให้หลี่เหวยวาดฝันอันสวยงาม และยังหลอกหลี่เหวยท้องลูกของเขา” ฉินซีพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

ข้างล่างเงียบสงบจนได้ยินเสียงคีย์บอร์ด

“แต่เมื่อเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ฉินซึ่งเทียนไม่ได้ทำตามสัญญาที่มีต่อหลี่เหวย เขาแต่งงานกับเหยาหมิ่นตามกำหนดของตระกูล และได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเหยา นี่เป็นวิธีเดียวที่จะตั้งหลักได้อย่างมั่นคงในอาชีพการงานของเขา ตระกูลฉินหรือตระกูลเหยาไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของหลี่เหวย ฉินซึ่งเทียนพยายามปลอบหลี่เหวย ปล่อยให้เธอคลอดลูก และอยู่ข้างนอกอย่างสงบ เขาปกปิดตระกูลฉิน และตระกูลเหยา ต่อหน้าคุณปู่ เขาก็แสร้งเป็นสามีที่ดี เป็นที่พึ่ง ต่อหน้าเหยาหมิ่นเขาก็เป็นสามีที่ซื่อสัตย์ ต่อมาไม่นานเหยาหมิ่นก็ตั้งท้อง เธอตั้งท้องในเดือนตุลาคม และคลอดลูกผู้หญิงคนหนึ่งชื่อฉินซี”

เมื่อเอ่ยชื่อของตัวเอง ฉินซีก็ยังดูสงบ ราวกับว่าเธอกำลังเล่าเรื่องของคนอื่น

“หลังจากนั้นไม่กี่ปี ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ หลังจากที่คุณปู่จากไป ฉินซึ่งเทียนก็ถือหุ้น 51% ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเพียงคนเดียว และโดยพื้นฐานแล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะออกเสียงในบริษัท ไม่มีใครสามารถตั้งคำถาม หรือควบคุมเขาได้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มที่จะเบื่อที่ต้องรับบทเป็นสามีที่ดี และพ่อที่ดี เขาเริ่มไม่กลับบ้านมาสองสามเดือน และแม้ว่าเขาจะกลับมา เขาก็จะพูดจาร้ายกาจกับเหยาหมิ่น”

“ตอนแรกเหยาหมิ่นคิดว่าเป็นเพราะเธอทำได้ไม่ดีพอ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เขาพอใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถรั้งหัวใจที่ไม่อยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ไม่ว่าเธอจะช้าแค่ไหน เธอก็รู้ว่าฉินซึ่งเทียนต้องมีเล็กมีน้อยข้างนอกแน่ๆ แต่เหยาหมิ่นถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นผู้หญิงบ้านเดียวมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสูญเสียความรักจากสามีไป เธอจึงเอาใจทั้งหมดมอบให้กับการเลี้ยงดูลูกสาว เธอภาวนาให้ฉินซึ่งเทียนเปลี่ยนใจ และกลับไปหาครอบครัว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้คนที่อยู่ข้างล่างก็เริ่มถอนหายใจเบาๆ

วิธีของเหยาหมิ่นไม่ได้แตกต่างเลย ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงอีกกี่คนที่เดินในเส้นทางเดียวกับเธอ ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้ หรือตอนนี้ก็ตาม

“แต่สิ่งที่เธอรอคอยก็ไม่มีวันมาถึง”

“หลี่เหวยซึ่งได้รับการเลี้ยงดูจากฉินซึ่งเทียนข้างนอกเริ่มกระสับกระส่าย หลังจากที่คุณปู่มู่จากไป เธอก็เอะอะโวยวายจะเข้าไปในบ้านตระกูลฉิน เธอต้องการมีทุกอย่างเหมือนที่เหยาหมิ่นมี ฉินซึ่งเทียนก็เชื่อเธอ จึงซื้อบริษัท ให้เธอในราคามหาศาล แต่หลี่เหวยไม่มีความสามารถในการบริหาร ในไม่ช้าบริษัทก็ล้มละลาย”

สื่อมวลชนในตอนนี้มีสมาธิมากขึ้น และพวกเขารู้ว่าฉินซีกำลังจะพูดถึงประเด็นที่สำคัญที่สุด

“ฉินซึ่งเทียนใช้เงินจำนวนมากให้กับหลี่เหวย เงินไม่พอใช้บ้าง รายจ่ายของบริษัทบ้าง จึงทำให้บริษัทล้มละลาย และทำให้เงินกระเป๋าของเขาติดขัดเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไม่มีคู่ปู่มู่แล้ว บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาก็ล้มเหลวในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และการขาดดุลภายในของบริษัทก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉินซึ่งเทียนรู้ดีว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป บริษัทฉินซื่อจะต้องจบลงในไม่ช้า มันเป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจจะต้องมีที่แพ้ และชนะ แต่ถ้าเขาตั้งใจดูแลบริษัท ก็อาจทำให้บริษัทกลับมารุ่งเรืองได้เช่นกัน แต่เขากลับใช้วิธีที่คดโกง และใช้กลยุทธ์ยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัวแทน”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท