Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1096

ตอนที่ 1096

บทที่ 1096 โชคดีจริงๆ

เป็นลู่โยวโยวที่โทรศัพท์มา

เสียงของลู่โยวโยวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “พี่คะ! หลินยี่ฟื้นแล้ว”

ลู่เซิ่นกลอกตามองบนอยู่ในใจ เกรงว่าถ้าพี่ชายคนนี้สลบไปแล้วฟื้นขึ้นมา ลู่โยวโยวผู้เป็นน้องสาวคนนี้จะต้องไม่ตื่นเต้นขนาดนี้อย่างแน่นอน

แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้พูดสิ่งเหล่านี้ออกมา เพียงแค่รับคำประโยคหนึ่ง “พี่รู้แล้ว” และวางสายโทรศัพท์ไป

ภายในรถเงียบมาก เขาไม่ได้ดึงแผ่นกั้นขึ้นมา และเสียงของลู่โยวโยวก็ดังมาก ดังนั้นหลินหยังและคนขับรถก็น่าจะได้ยินชัดเจนหมด แต่ทั้งสองคนกลับทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง สีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

“ไปบ้านตระกูลลู่” ลู่เซิ่นเอ่ยพูด

คนขับรถหันทิศทางพวงมาลัย ขับมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลลู่

……

ถนนช่วงเช้าในเวลาเร่งด่วนนั้นติดมาก ตอนที่ลู่เซิ่นไปถึงบ้านตระกูลลู่ ก็หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงแล้ว

ลู่โยวโยวยืนรออยู่ที่หน้าประตู แต่ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินทางโทรศัพท์นั้นหายไปไม่เหลือแล้ว เพียงแต่ทักทายลู่เซิ่นด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อยว่า “พี่คะ”

ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว “เป็นอะไรไป ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นมากหรือ”

ลู่โยวโยวพองลมที่แก้ม ถลึงตาโกรธๆไปทางห้องพักผู้ป่วยของหลินยี่ “หลินยี่ เจ้าคนสมควรตาย! ให้หนูออกมาอยู่ข้างนอกก่อน อย่าพูดเสียงจุ๊กจิ๊กอยู่ข้างเขา

ลู่เซิ่นไม่ได้ตื้นตันกับความรู้สึกโกรธจัดของลู่โยวโยว แต่กลับหัวเราะออกมา “เขาพูดเช่นนี้จริงๆหรือ”

โทสะของลู่โยวโยวเบนมาที่ร่างของพี่ชายเธอเพราะเสียงหัวเราะ เธอถลึงตาใส่เขาดุๆ เอ่ยพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดแบบนี้ แต่ว่ามีความหมายว่าอย่างนี้!”

“ไม่เลวเลย เธอสามารถฟังความหมายที่แฝงมากับคำพูดของเขาออกได้ มีความก้าวหน้า” วันนี้ตอนเช้าลู่เซิ่นอารมณ์ไม่ดี คราวนี้มีโอกาสได้หาเรื่องน้องสาวตัวเองเล็กน้อย ก็ไม่ปล่อยผ่าน จึงเอ่ยหยอกล้อไปสองประโยค

คราวนี้ลู่โยวโยวก็มีโทสะ ขยี้เท้ากับพื้นและวิ่งไป ทิ้งลู่เซิ่นเอาไว้ที่เดิมคนเดียว

เขามองแผ่นหลังที่ทิ้งเอาไว้ของลู่โยวโยว พลางหัวเราะและส่ายหน้า จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆถูกเก็บขึ้น หันหน้าไปกำชับหลินหยังที่ตามอยู่ด้านหลังตัวเองว่า “นายรออยู่ที่นี่”

แน่นอนว่าหลินหยังพยักหน้ารับ

ลู่เซิ่นเดินเลี้ยวไปหลายครั้ง จนถึงหน้าประตูห้องของหลินยี่

เขาไม่ได้เกรงใจ เคาะประตูไปไม่กี่ที และเปิดประตูเข้าไปเองโดยไม่รอคำตอบ

หลินยี่นอนอยู่บนเตียง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆต่อการกระทำของลู่เซิ่นที่ไม่ทักทายอะไรก็เปิดเข้ามา เพียงแค่เหลือบตาขึ้นมองมาทางประตูอย่างขี้เกียจครั้งหนึ่ง

อู๋ชิงกลับสะดุ้งตกใจ เดิมเขาที่นั่งอยู่ปลายเตียงของหลินยี่ก็กระโดดขึ้นมาในทันที เห็นผู้มาเยือนชัดเจนแล้วถึงได้โล่งใจ “คุณชายลู่”

ลู่เซิ่นพยักหน้าให้เขาอย่างขอไปที เดินตรงไปที่เบื้องหน้าหลินยี่ หลุบตามองเขา

หลินยี่สูญเสียเลือดมากเกินไป ทั้งยังนอนสลบอยู่บนเตียงหลายวัน คราวนี้แม้ว่าจะฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่สีหน้าก็ยังคงขาวซีดจนน่ากลัว คางแหลม และริมฝีปากไร้สีเลือด

“ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก ดวงแข็งจริงๆ นายดูสภาพของตัวเองตอนนี้ แตกต่างอะไรจากคนตาย” ลู่เซิ่นพิจารณาหลินยี่อย่างละเอียดอยู่รอบหนึ่ง จู่ๆก็เอ่ยเสียดสีออกมา

หลินยี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร อู๋ชิงก็อดที่จะเอ่ยพูดไม่ได้ “คุณชายลู่ ถึงอย่างไรพี่ใหญ่ก็เพิ่งจะฟื้นขึ้นมานะครับ!”

“คุณหมอมาตรวจแล้วหรือยัง” ในที่สุดสายตาของลู่เซิ่นก็เบนออกจากร่างของหลินยี่ไปมองอู่ชิง

อู๋ชิงรีบพยักหน้า “คุณหมอมาตรวจแล้วครับ บอกว่าดัชนีทั้งหมดปกติมาก พักรักษาตัวต่อไป ก็จะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นเอง”

ลู่เซิ่นพยักหน้าอย่างเนือยๆ ก้มหน้าลงไปมองหลินยี่อีกครั้ง

ในที่สุดหลินยี่ก็เอ่ยปากพูด ประมาณว่าไม่ได้พูดนานมากเกินไป น้ำเสียงจึงแหบแห้งมาก “เรียบร้อยแล้ว อู๋ชิง นายออกไปก่อนเถอะ”

อู๋ชิงกวาดตามองลู่เซิ่นและหลินยี่ พอจะรู้ว่าพวกเราสองคนน่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกัน ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร พยักหน้าแล้วออกไป ทั้งยังปิดประตูให้เรียบร้อยด้วย

ในที่สุดลู่เซิ่นก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ข้างเตียงหลินยี่ เอ่ยเสียงเรียบว่า “ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกอย่างไร”

แม้ว่าหลินยี่จะอ่อนแรงเพราะอาการป่วย แต่กลับยิ้มอย่างเอ้อระเหยลอยชาย “แปลกเล็กน้อย ตอนที่ฉันฟื้นขึ้นมากลับพบกับเวินจิ้ง”

ลู่เซิ่นไม่พูดอะไรอยู่นาน เพียงแต่จ้องเขม็งไปที่หลินยี่

“นายยังจำได้สินะว่า ครั้งนั้นที่นายนั่งเครื่องบินของฉันมาที่เมืองหนาน ฉันเคยพูดถึงคนคนหนึ่งกับนายตอนที่อยู่บนเครื่องบิน” ไม่รู้ว่านานเท่าไรแล้ว จู่ๆลู่เซิ่นก็เอ่ยพูดขึ้นมา

หลินยี่ไม่ได้ตอบ เพียงแค่มองไปที่ลู่เซิ่น

“ตอนนั้นฉันพูดว่า ฉันรู้ว่าเธอชอบฉัน ฉันก็แค่ต้องการให้เธอรู้ว่า เธอชอบฉัน” ลู่เซิ่นไม่ใส่ใจในความเงียบของหลินยี่ พูดเองเออเอง “ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่า เธอชอบฉัน”

สุดท้ายแล้วหลินยี่ก็อดไม่ไหวที่จะเอ่ยว่า “ดังนั้น……”

“ดังนั้น ฉันรักเธอ เธอรักฉัน พวกเราสองคนก็ควรจะอยู่ด้วยกัน นายอยากให้ฉันรับเวินจิ้งกลับมา เธอจะอยู่ในฐานะอะไร ฉันควรจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร” น้ำเสียงของลู่เซิ่นเรียบมาก แต่หลินยี่กลับฟังออกถึงความไม่พอใจมากมาย

เขารู้ว่า “เธอ” ทั้งสองคำในประโยคของลู่เซิ่นนั้น คำแรกคือเวินจิ้ง คำหลังคือคนรักที่ลู่เซิ่นพูดถึง

“ฉันรู้ว่าคนคนนั้นสำคัญกับนายมาก” หลินยี่ตอบ “นายตามหาเธอมาปีหนึ่งแล้ว และผ่านอะไรมามากมายถึงได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้เจตนาจะให้เวินจิ้งยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างพวกนาย”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “อย่างนั้นนายหมายความว่าอะไร”

หลินยี่ยิ้มเนือยๆ “ขอร้องล่ะ แน่นอนว่าฉันก็รู้ว่านายไม่ชอบเวินจิ้ง ฉันก็ไม่สามารถให้เธออยู่กับนายอย่างได้รับความไม่เป็นธรรมได้ แต่นายรับเธอกลับมาก็ไม่ได้แสดงว่าพวกนายจะต้องทำอะไร นายเพียงแค่หาข้ออ้างกับเธอสักข้อ ให้เธอไปจากมู่วี่สิงก็พอแล้ว”

คิ้วลู่เซิ่นขมวดแน่นกว่าเดิม “นายต้องการให้ฉันกับเธอแต่งงานกันหลอกๆหรือ”

หลินยี่ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่หัวเราะเยาะเขา

ลู่เซิ่นก้มหน้าครุ่นคิดไม่กี่วินาที ก็ค่อยๆเอ่ยตอบว่า “ตั้งแต่แรกเริ่ม นายก็ต้องการให้ฉันกับเวินจิ้งแต่งงานกันหลอกๆใช่ไหม”

ในที่สุดหลินยี่ก็ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “ฉันพูดตลอดว่าให้นายรับเวินจิ้งกลับมา”

ลู่เซิ่นหัวเราะออกมา “นายพอเถอะ นี่ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องแต่งงานกับเวินจิ้งหรอกหรือ แต่นายก็รู้ว่าในใจฉันมีคนอื่น ดังนั้น เดิมจึงไม่ได้วางแผนจะให้ฉันกับเวินจิ้งอยู่ด้วยกันจริงๆ เพียงแค่ใช้วิธีนี้ให้เธอไปจากตระกูลมู่ ทั้งยังเบนความสนใจออกจากตระกูลมู่เท่านั้นเอง”

หลินยี่ถอนหายใจเสียงยาว พูดทีเล่นทีจริงว่า “สมกับที่เป็นคุณชายลู่ ฉันทำอะไรก็ล้วนหนีไม่พ้นสายตานาย แต่นายรีบร้อนเน้นย้ำคำว่า ‘แต่งงานปลอมๆ’กับฉันทำไมกัน”

ลู่เซิ่นที่เงียบอยู่นาน ก็ไม่ตอบคำถาม

ในใจของเขาชัดเจนแจ่มแจ้งมากว่า สาเหตุที่ตัวเองย้ำคำว่าแต่งงานหลอกๆครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เพราะอยากจะพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้หักหลังฉินซี

เขาเพียงแค่ช่วยเหลือหลินยี่ ตอบแทนบุญคุณหลินยี่เท่านั้นเอง

“ในใจของตัวเองไม่ได้รู้สึกผิด พูดกับฉันไปก็ไม่มีประโยชน์” หลินยี่เห็นว่าเขาไม่ตอบอยู่นาน ก็เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยแววเยาะเย้ย “ถ้าหากว่านายรู้สึกลำบากใจจริงๆ ฉันก็จะไม่บีบบังคับนาย นายไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเธอ นายแค่ช่วยเหลือเธอก็พอ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท