Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1094

ตอนที่ 1094

บทที่ 1094 ไม่สามารถเอาชนะตัวเองได้

ตอนที่ฉินซีกลับมาถึงรีสอร์ทชิงหยวนก็เป็นเวลาทานอาหารแล้ว

ผู้ดูแลบ้านจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นมากมายเต็มโต๊ะ เมื่อเห็นกลับมาแล้วก็เดินเข้ามาหาด้วยความเคร่งเครียด “ระหว่างทางทั้งหมดเรียบร้อยดีไหมครับ”

ฉินซีรู้ว่า เขากลัวตัวเองถูกปาปารัสซี่ปิดล้อม ดังนั้นจึงส่ายหน้ายิ้มๆ “ข่าวของตระกูลฉินสงบไปแล้ว ไม่มีนักข่าววิ่งตามฉันแล้วล่ะ วางใจเถอะค่ะ”

ผู้ดูแลบ้านเห็นว่าสีหน้าเธอไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ ถึงได้วางใจ เดินนำเธอไปยังห้องอาหาร

อาหารมื้อเย็นที่พ่อครัวจัดเตรียมนั้นถูกปากฉินซีมาก แต่เธอกลับรู้สึกว่าทานไม่ค่อยลง

เธอกำลังคิดถึงจ้านเซิน

เดิมเธอมักจะคิดว่าความทรงจำในอดีตของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถึงอย่างไรเธอก็ใช้ชีวิตทั้งที่สูญเสียความทรงจำไปมาหนึ่งปีเต็มๆ และก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ

ดังนั้นตอนที่เผชิญหน้ากับคุณหมอ สิ่งที่เธอครุ่นคิดพิจารณามีเพียงแค่การที่ตัวเองคิดถึงเรื่องของลู่เซิ่นไม่ออกนั้น จะมีผลกระทบหรือไม่

แต่หลังจากที่ลู่เซิ่นบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก่อนหน้านี้อย่างละเอียดแล้ว ฉินซีก็ปล่อยวางมันลง

คิดไม่ถึงเลยว่า วันนี้เธอจะได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้อีก

หรือว่าในความทรงจำที่ตัวเองทำหายไปนั้น มีสิ่งสำคัญมากอยู่หรือ

สายตาที่จ้านเซินคนนี้มองมาที่ตัวเอง จะต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาอย่างแน่นอน แทบจะบอกเธอแบบไม่ปิดบังอำพรางเลยว่า ระหว่างพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่คุ้นเคย แต่ถึงขนาดที่สามารถเรียกว่าสนิทมากได้

แต่ว่า…….ถ้าหากในชีวิตของตัวเองมีผู้ชายที่สำคัญขนาดนั้น ตัวเองจะคิดไม่ออกเลยแม้แต่น้อยจริงๆหรือ

ฉินซีกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด

จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียใจในภายหลังที่เลือกการรักษาแบบอนุรักษ์นิยม

ถ้าหากเลือกที่จะปลุกความทรงจำให้ตื่นขึ้นมา อย่างน้อยตอนนี้ก็คงไม่สับสนโดยไม่ได้คำตอบอยู่ที่นี่คนเดียว

“คุณผู้หญิง” คนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งเอ่ยพูดอย่างอดไม่ได้ “อาหารมื้อเย็นวันนี้ไม่ถูกปากคุณหรือคะ น้ำซุปล้วนเย็นชืดหมดแล้วค่ะ”

ฉินซีถูกเรียกให้สติกลับคืนมา ก็ส่ายหน้า “ไม่ใช่ ฉันชอบมาก”

เธอเพียงแค่มีเรื่องในใจ ไม่มีความอยากอาหารก็เท่านั้น

ทานไปลวกๆไม่กี่คำ ฉินซีก็อ้างว่าอาหารที่ทานเข้าไปในช่วงเวลากลางวันนั้นย่อยไม่ค่อยดี และขึ้นชั้นบนกลับห้องไป

รู้ทั้งรู้ว่าภายในรีสอร์ทชิงหยวนไม่มีเงาความทรงจำใดๆแห่งการใช้ชีวิตในอดีตของเธอ เธอกลับอยากจะค้นหามันอย่างจริงจังสักหน่อย

อย่างน้อย คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ของตัวเองก็เอาออกมาจากตระกูลฉิน และนำมาที่รีสอร์ทชิงหยวน

หลังจากที่รู้ว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำไปแล้ว ฉินซีก็เคยตรวจสอบคอมพิวเตอร์คร่าวๆ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์

แต่ตอนนี้เธออยากจะค้นในคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดสักหน่อย

ไม่แน่ว่าในมุมใดมุมหนึ่ง จะสามารถหาสิ่งอะไรที่มาเตือนตัวเองได้

แต่ตอนที่เธอกำลังเปิดคอมพิวเตอร์ ก็มีแจ้งเตือนอีเมลใหม่เด้งเตือนเข้ามา

พูดแล้วก็ต้องให้เครดิตกับลู่เซิ่น ตอนที่ความคิดเห็นของมวลชนด้านนอกยุ่งเหยิงวุ่นวาย เบอร์โทรศัพท์ของฉินซึ่งเทียนและคนทั้งหมดในตระกูลฉินล้วนถูกโทรศัพท์หาจนสายแทบไหม้ แต่ฉินซีกลับคล้ายกับว่าไม่ได้ถูกรบกวน

ด้านหนึ่งก็คือลู่เซิ่นระงับข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฉินซีไว้ อีกด้านหนึ่งเขาก็ติดตั้งซอฟต์แวร์กรองสายโทรศัพท์ให้กับฉินซี ซอฟต์แวร์นี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้คนตระกูลฉินใช้บล็อกโทรศัพท์ก่อกวน

ดังนั้นช่วงเวลานี้ แม้ว่าข่าวในโลกภายนอกจะโจมตีฉินซีไม่หยุดหย่อน แต่โทรศัพท์หรืออีเมลที่ส่งมารบกวน ฉินซีนั้นล้วนไม่เคยได้รับเลย

จึงเป็นธรรมชาติที่ความระแวดระวังภัยในใจของฉินซีจะลดลง

ดังนั้นเมื่อเห็นอีเมลที่ส่งมาโดยมีชื่อผู้ส่งไม่ชัดเจน เธอจึงไม่ได้ลังเลอะไรที่จะกดเปิดอ่าน

อีเมลไม่ระบุชื่อผู้ส่ง ด้านในไม่ได้เขียนอะไรสักคำ มีเพียงแค่คลิปเสียงหนึ่งคลิป

ฉินซีเดิมคิดว่าเป็นโฆษณาน่าเบื่ออะไรพวกนั้น แต่เมื่อคิดอีกที อีเมลนี้มีการติดตั้งระบบสกัดกั้นเอาไว้ จะมีโฆษณาส่งเข้ามาได้อย่างไรกัน

อย่างนั้นจะเป็นคลิปเสียงอะไรกัน

ฉินซีขมวดคิ้วน้อยๆ ครุ่นคิดไม่กี่วินาที ก็ยังคงกดเปิดฟัง

ในไม่ช้า เสียงของลู่เซิ่นก็ลอยออกมาจากในเครื่องคอมพิวเตอร์

คิ้วของฉินซีขมวดเป็นปมแน่น

เธอกดหยุด เพื่อปรับระดับเสียงในคอมพิวเตอร์ และกดเริ่มใหม่อีกครั้ง

“ได้ ฉันรับปากนาย ฉันจะถามเธอว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะแต่งให้กับฉัน”

ประโยคนี้เป็นเสียงของลู่เซิ่น

“นายถามดีๆ อย่างไรก็เป็นถึงการขอแต่งงาน ยังคงต้องเป็นทางการสักหน่อย”

นี่คือเสียงของผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง

ฉินซีได้ยินแล้วก็รู้สึกคุ้นหูอยู่หลายส่วน แต่คิดไม่ออกชั่วขณะว่าเป็นใครกันแน่

เธอรู้สึกว่าหูของตัวเองกำลังดังวิ้งๆ

คลิปเสียงไม่ยาว ครึ่งนาทีก็ยังไม่ถึง เนื้อหาด้านในง่ายมาก

ลู่เซิ่นกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งว่าจะขอน้องสาวของคนคนนั้นแต่งงานอย่างไร

หลังจากที่คลิปเสียงจบลงแล้ว ภายในห้องก็เข้าสู่ความเงียบ

สีหน้าของฉินซีขาวซีด มือทั้งสองข้างชื้นเหงื่อ

เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นลูกสาวคนเดียวของฉินซึ่งเทียนและเหยาหมิ่น และแม้ว่าหลายปีมานี้ฉินซึ่งเทียนจะใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาอยู่ด้านนอก แต่ไม่เคยให้กำเนิดเด็กผู้ชายแน่นอน ไม่อย่างนั้น ตามนิสัยของเขาแล้ว ไม่มีทางที่จะไม่พากลับบ้าน

นี่ก็พูดได้ว่า ตัวเองไม่ได้มีพี่ชายอย่างแน่นอน

ดังนั้นลู่เซิ่นกำลังพูดคุยเรื่องขอแต่งงานกับใครกัน

และจะขอใครแต่งงานกัน

สมองของฉินซีสับสนวุ่นวาย ไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไร

ใจเย็นๆ

เธอบอกกับตัวเองในใจ

ผ่านเรื่องของเหยาหมิ่นมาแล้ว เธอรู้ชัดเจนมากที่สุดว่า คลิปวิดีโอ เสียง และรูป ล้วนสามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้ ล้วนไม่สามารถเชื่อถือได้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงอีเมลที่ส่งมาโดยไม่ระบุชื่อ

นี่เป็นอีเมลที่ส่งมาจากบุคคลนิรนามที่ไม่ได้ระบุชื่อและไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร ความเป็นจริงก็ยิ่งถูกลดทอนลงไปอีก

มีคนที่มีจุดประสงค์แอบแฝงส่งมาเพื่อยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่เซิ่นใช่หรือไม่

หรือไม่ก็คิดจะอาศัยคลิปเสียงนี้มาข่มขู่เธอหรือลู่เซิ่น

สมองของฉินซีมีความคิดต่างๆวนไปวนมา พยายามที่จะโน้มน้าวตัวเอง

แต่เธอก็รู้ดีมากว่า ส่วนลึกในมุมหนึ่งของหัวใจตัวเอง ยังคงอดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจลู่เซิ่น เธอเพียงแค่ไม่มีหนทางที่จะเชื่อในความรัก

ผลกระทบที่ฉินซึ่งเทียนสร้างไว้ให้เธอไม่ใช่แค่แก้แค้นเสร็จแล้วจะสามารถขจัดออกไปได้

การที่ฉินซึ่งเทียนไม่ซื่อสัตย์ในความรัก กระทั่งภรรยาก็สามารถลงมือได้อย่างดุร้าย ทำให้ความรู้สึกปลอดภัยที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่อยู่ในใจฉินซีถูกทำลายลงไปจนสิ้น

เบื้องหลังครอบครัวแบบนี้ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเชื่อผู้อื่นไปโดยสัญชาตญาณ ในสัญชาตญาณจะเกิดความรู้สึกสงสัยว่า เขารักฉันจริงๆหรือ เขากำลังแสดงละครใช่หรือไม่ แกล้งทำเป็นอยู่ด้วยกันกับฉันเพื่อเหตุผลอะไรใช่หรือไม่

ฉินซีไม่เคยพูดความกังวลเหล่านี้ของตัวเองกับลู่เซิ่น เพราะเธอรู้สึกว่า เมื่อเวลาผ่านไปก็จะจืดจางไปเอง เธอไม่สามารถมีชีวิตอยู่ภายใต้เงามืดของฉินซึ่งเทียนไปได้ตลอดกาล

ขอเพียงแค่ลู่เซิ่นอยู่ข้างกายเธอไปตลอดแบบนี้ เธอก็อาจจะเอาชนะตัวเองได้

จะต้องมีสักวันที่เธอสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้มากพอ

แต่ความเป็นจริงกลับตบหน้าเธออย่างแรง

เพียงแค่ฟังคลิปเสียงที่ไม่ถึงครึ่งนาทีจนจบ ฉินซีก็รู้สึกว่าหายใจลำบากเล็กน้อยแล้ว แม้ว่าสติจะโน้มน้าวให้ตัวเองเชื่อมั่นในตัวลู่เซิ่น แต่ว่าจิตใต้สำนึกกลับเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา

ไม่ใช่คำพูดที่ลู่เซิ่นพูดออกมาจากปากตัวเอง…..จริงๆหรือ

ฉินซียับยั้งความรู้สึกตื่นตระหนกและความสงสัยในใจของตัวเองเอาไว้ พลางยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือ

ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องติดต่อลู่เซิ่นก่อน

เธอไม่สามารถทำให้แผนร้ายของผู้อื่นประสบความสำเร็จได้

เธอต้องฟังก่อนว่า ลู่เซิ่นจะพูดว่าอย่างไร

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท