Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1115

ตอนที่ 1115

บทที่ 1115 รอจนกว่าจะเรื่องทั้งหมดจะจบลง

ฝั่งลู่เซิ่นที่อยู่เมืองหนานที่ไกลออกไป เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้จิตใจของฉินซีได้แตกสลายไปเสียแล้ว

เขาตอบฉินซีกลับไป จิตใจดีขึ้นมาหน่อยเนื่องจากดูอะไรเกี่ยวกับอยู่กับประสบการณ์การจัดงานแต่งงาน หลังจากรับโทรศัพท์ ก็นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน

เช้าวันต่อมา เมื่อเขาตื่นนอน ยิ่งอยากที่จะโทรหาฉินซีสุดที่รักของเขา

เขาจำได้ว่าเมื่อคืนเธอบอกว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา และเขาก็รอไม่ไหวที่จะบอกฉินซีเรื่องที่จะจัดงานแต่งชดเชยให้เธอเหมือนกัน

เขาอยากจะเห็นท่าทางของเธอเมื่อได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้

รอให้ทุกอย่างมันจบ

ลู่เซิ่นกำหมัดแน่ สาปแช่งหลินยี่อยู่ภายในใจ

ไม่มีใครไปเป็นเพื่อน แม้แต่เวลาที่จะใช้อยู่กับเมียตัวเองยังถูกยึดไปอีก

เมื่อตั้งแต่มีเรื่องของหลินยี่เข้ามา เขาก็แทบไม่มีเวลาที่จะได้อยู่กับฉินซี

รอให้ทุกอย่างจบลง เขาจะชดเชยเรื่องงานแต่งและอะไรหลายอย่างเพื่อชดเชยให้กับฉินซีด้วย

ฉินซีจะทำยังไงนะ เมื่อรู้ว่าเขาจะจัดงานแต่งระหว่างเราอีกรอบ

จะเซอร์ไพรส์? หรือตื่นเต้น?

เขาแทบจะรอเวลานั้นไม่ไหวแล้ว

แต่เมื่อวิดีโอคอลไป เธอกลับไปไม่รับเสียอย่างนั้น

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว ก่อนจะต่อสายตรงหาเธอทันที

แต่ก็ไม่มีใครรับสาย

เขาอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป เปลี่ยนเป็นต่อสายหาพ่อบ้านแทน

พ่อบ้านรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็วตามปกติ “ครับ ประธานลู่”

ลู่เซิ่นถามด้วยน้ำเสียงห้วน “ฉินซีอยู่ไหน? ทำไมฉันโทรไปแล้วเธอไม่รับ”

พ่อบ้านนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับ “คุณผู้หญิงบอกว่าเพลียนิดหน่อยครับ ทานข้าวเสร็จก็ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้อง คนรับใช้บอกเธอปิดไฟในห้องไปแล้ว”

“ทำไมนอนเร็วจังล่ะ?” ลู่เซิ่นยกข้อมือขึ้น มองไปที่นาฬิกาข้อมือของตน เป็นเวลาแค่สองทุ่มเท่านั้นเมื่อเปลี่ยนเป็นเวลาของประเทศ F

“ช่วงนี้คุณผู้หญิงดูเหนื่อยมากครับ” พ่อบ้านบอกตามความจริง “ตอนเธอกลับมาเมื่อเช้านี้ หน้าตาดูอ่อนล้ามาก”

“งั้นไม่เป็นไร” ลู่เซิ่นขมวดคิ้วสักพัก ก่อนสั่งการไปยังพ่อบ้าน “ฉันจำได้ว่าแม่ของฉันส่งรังนกมาให้เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้กินเลย หาเวลานำไปให้เธอทานเสียล่ะ ดูแลเธอหน่อย อย่าปล่อยให้ร่างกายอ่อนล้า”

พ่อบ้านตอบรับคำ

ลู่เซิ่นรู้สึกว่า พ่อบ้านดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูด แต่ก่อนที่เขาจะได้ฟัง หลินหยังกลับเคาะประตูขัดขึ้นมาเสียก่อน “ประธานลู่ ถึงเวลาแล้วครับ”

เวินจิ้งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำที่ชานเมืองหนาน เป็นที่รู้กันดีมาโดยตลอดว่าที่นั่นมีการจัดการที่เข้มงวดที่สุด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนทั่วไปจะเข้าไปเยี่ยมได้ง่าย

ถึงแม้ลุงรองจะหาคนไว้แล้ว หน้าตาของตระกูลลู่ในเมืองหนานนับว่าใหญ่พอตัว แต่เวลาเยี่ยมผู้ต้องขังก็ค่อนข้างเข้มงวด ไม่สามารถต่อรองเวลาให้นานกว่าเดิมได้

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลู่เซิ่นก็ไม่มีความอดทนที่จะรอให้พ่อบ้านพูด เขาตัดบทด้วยความเร่งรีบ “มีอะไรไว้คุยกันทีหลัง” ก่อนที่จะวางสายไป

หลินหยังไม่รู้ว่าเขาคุยโทรศัพท์กับใคร แต่เมื่อเห็นว่าลู่เซิ่นออกมาแล้ว เขาจึงเดินตามไป

ไม่มีใครซักไซ้ถาม ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าพ่อบ้านลังเลอยู่นาน เรื่องที่ว่าจะบอกดีไหมว่ามีคนแอบเข้ามาในบ้าน

แม้ว่าฉินซีจะสั่งเอาไว้ แต่พ่อบ้านก็รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญมากและไม่สามารถซ่อนมันไว้จากลู่เซิ่นได้ตลอด

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน คือลู่เซิ่นจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่นี่ และไม่สามารถรอมันได้

เมื่อฟังน้ำเสียงที่วุ่นวายในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ พ่อบ้านก็ถอนหายใจเบา ๆ

แต่ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามมันก็คงไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบใด ๆ ที่สำคัญนัก ดังนั้นไว้เขาจะหาโอกาสคุยกับลู่เซิ่นในภายหลังเอง

พวกเขาต่างก็ไม่มีใครรู้ได้ ว่าความคิดที่สวนทางกันของคนสองคน จะบังเอิญนำไปซึ่งความผิดพลาด ที่ทำให้ลู่เซิ่นและฉินซีต้องแยกจากกันไปอีกนาน

ต่อมาลู่เซิ่นจะตระหนักถึงช่วงเวลานี้ได้ เขาอดคิดไม่ได้ ถ้าหากวันนั้นตัวเองหยุดฟังที่พ่อบ้านพูดสักนิด เรื่องมันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้

ถ้าแค่บนโลกนี้ จะไม่มีโอกาสของคำว่า “ถ้าหาก”

ในตอนนี้เขาอยู่ในรถ โดยที่ไม่รู้อะไรเลยและกำลังออกเดินทางไปยังเรือนจำในเขตชานเมือง

……

ลู่เซิ่นไม่เคยมาเรื่องจำแห่งนี้มาก่อน

ที่นี่สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็น “ป้อมปราการแห่งเมืองหนาน” ดูจากภายนอกที่มีความแข็งแกร่งมากราวกับว่าไม่สามารถมีอะไรมากล้ำกรายได้

เมื่อเขาลงจากรถ ผู้คุมในเรือนจำก็มารออยู่ที่หน้าประตูแล้ว

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่า ลุงรองของเขาใช้วิธีไหนหรือมีความสัมพันธ์อย่างไรกับผู้คุม ถึงได้สามารถพาเขาเข้ามาในเรือนจำแบบนี้ได้

ผู้คุมปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมีความรับผิดชอบ แต่ตอนนี้กลับละเลยเสียงั้น

เขาพาลู่เซิ่นไปที่หน้าห้องเยี่ยมนักโทษ ผู้คุมคนเดิมหยุดฝีเท้า ก่อนที่จะหันมาพูดกับลู่เซิ่นอย่างสุภาพ “รบกวนคุณชายลู่ เข้าไปคนเดียว และไม่นำอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารเข้าไปข้างใน ถ้ามีรบกวนนำออกมาด้วยครับ” หลังจากที่เขาพูดสิ่งนี้ ก็เหลือบมองไปยังหลินหยัง

หลินหยังอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไร แต่ลู่เซิ่นยกมือห้ามเอาไว้

ที่นี่เป็นสถานที่ ที่นับว่าปลอดภัยที่สุดในเมืองหนาน ถ้าหากเขาเข้าไป ก็คงไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้น

หลินหยังพยักหน้า ทำได้แค่ยืนรอลู่เซิ่นอยู่ข้างนอก

ลู่เซิ่นรู้ดีว่า ถึงแม้เขาจะไม่ได้นำโทรศัพท์ออกมาให้ ผู้คุมก็ไม่มีความกล้าที่จะเข้ามาค้นตัวเขาแน่นอน

แต่ตอนนี้เขาไม่มีแผนที่จะฉีกหน้าใครที่นี่ แถมรอบตัวก็ไม่มีอันตรายให้ต้องกังวล นำโทรศัพท์เข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เขานำโทรศัพท์ของตัวเองมาวางไว้ในมือของหลินหยัง ด้วยความผ่าเผย ละยังตบกระเป๋าของตัวเอง เพื่อแสดงให้ผู้คุมเห็นว่าเขาไม่ได้พกอะไรเข้ามาอีก

ผู้คุมพยักหน้ารับ

ลู่เซิ่นเดินเข้ามาด้วยตัวเอง ก่อนที่ประตูด้านหลังเขาจะปิดลง

ก่อนที่เวินจิ้งจะถูกนำตัวเข้ามาที่นี่ เขาได้มองสำรวจไปรอบๆห้อง

สภาพมันไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่เขาเคยจินตนาการไว้ มีโต๊ะเรียบๆวางไว้ตรงกลางห้องในลักษณะแนวนอน ไม่ได้ดูมีอะไรที่พิเศษ

เมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือ เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที เขาเพียงแค่นั่งนิ่ง คิดแค่ว่าเมื่อเสร็จธุระจากห้องนี้เขาจะใช้ให้หลินหยังออกไปจองชุดแต่งงานให้ฉินซี

ช่วงเวลาแห่งความน่าเบื่อกำลังจะจบลง เมื่อประตูห้องเยี่ยมได้ถูกเปิดออก

ผู้คุมได้นำหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในห้อง

ลู่เซิ่นหรี่ตาลงเล็กน้อย ทอดมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์

เธอตัวไม่สูง ทว่าเมื่อใส่เครื่องแบบตัวใหญ่ก็ดูไม่ออกว่าแท้จริงรูปร่างเป็นอย่างไรกันแน่ ใบหน้าเล็กใสไร้เครื่องสำอางนั้นงดงามหมดจด ถ้าบอกว่าสวยมากก็คงไม่ใช่เรื่องโกหก

ผู้คุมปลดกุญแจมือ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามเขาอย่างใจเย็น

ผู้คุมออกไป และปิดประตูทิ้งทั้งสองคนไว้ในห้องเยี่ยมโดยลำพัง

เวินจิ้งมองเขาอย่างพิจารณา ทันใดนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “คุณไม่ใช่คนที่นี่”

ลู่เซิ่นเลิกคิ้วขึ้น

ทันทีที่เวินจิ้งพูดขึ้นมา พลันเขากลับจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างคลุมเครือ

ดูเหมือนเขาจะเคยพบเธอมาก่อน

“คุณเคยอยู่โรงพยาบาลจงซินในประเทศF มาก่อนหรือเปล่า?” ลู่เซิ่นถามขึ้นมาทันใด

ใบหน้าเวินจิ้งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ใช่ค่ะ”

ลู่เซิ่นถอนหายใจออกมา

เขาไม่ได้จำเวินจิ้งได้ดีเท่าไหร่นัก แต่สามารถจำขึ้นมาได้เพราะมีเรื่องราวของฉินซีเข้ามาเกี่ยวข้อง

วันนั้นฉินซีถูกฉินซึ่งเทียนโยนหนังสือพิมพ์ใส่หน้าที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เขาพาเธอไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง เธอคือคุณหมอเวินที่เคยรักษาให้ฉินซี

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท