Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1134

ตอนที่ 1134

บทที่ 1134 ความรู้สึกคุ้นเคยที่พูดไม่ออก

ชั่วขณะหนึ่งฉินซีถึงกลับแยกไม่ออกว่าตกลงที่มาของความเจ็บปวดแบบนี้ มันมาจากเธอที่โดนยัดเยียดความทรงจำมากมายอย่างทารุณในตอนนี้ หรือว่ามาจากเธอที่สิบขวบโดนกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องกันแน่

ความเจ็บปวดมันมากเกินไป เธอรู้สึกเพียงแค่ว่าหัวสมองของตัวเองเหมือนกับเป็นลูกโปร่งลูกหนึ่ง ที่โดนเป่าจนถึงที่สุดแล้ว แต่ว่าก็ยังโดนเป่าลมเข้าไปอย่างไม่หยุดอีก จนใกล้จะระเบิดแล้ว

วินาทีที่ความเจ็บปวดมาจนถึงขีดสุดนั้น ตรงหน้าของเธอสีแสงสีขาวกะพริบขึ้น จากนั้นก็เข้าสู่ความมืดสนิทไปหมด

ในความมืดกลับไม่ได้ว่างเปล่า แต่กลับเป็นกระแสน้ำที่มองไม่เห็นเอ่อล้นขึ้นมาไม่หยุด จนสูงขึ้นมาท่วมจมูกและปากของเธอ ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก

แต่ว่าเธอกลับไม่สามารถออกจากความทรงจำของตัวเองได้อย่างราบรื่น เธอเหมือนกับว่าโดนมัดตัวเอาไว้ ไม่มีทางขยับได้ เธอรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเหมือนกำลังโดนทำให้ค่อย ๆ สูญสลายไป แม้แต่เสียงหายใจก็ยังกลายเป็นอ่อนแอขึ้นมา

แต่ว่าสุดท้ายเธอก็ไม่ได้หมดสติไปทั้งหมด

อยู่ ๆ ก็มีสายลมเย็น ๆ ก็พัดเข้ามาในสมองของฉินซี แล้วพัดเอาความวุ่นวายที่ห้อมล้อมรอบตัวเธอจากไปด้วย

ภาพตรงหน้าเธอค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง

“ลืมตาแล้ว!” เสียงของผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างกายฉินซี

ฉินซีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วกลอกตาไปมา มองดูรอบสี่ทิศ

เธอยังคงอยู่ในความทรงจำ ยังคงติดอยู่ในร่างกายสิบขวบของตัวเองเหมือนเดิม

ตอนนี้ส่วนใหญ่มักจะนอนอยู่ในห้องทดลองห้องใดห้องหนึ่งของหอคอยC กำแพงทั้งสี่ด้านถูกทาสีขาวสะอาดไว้ และไม่มีของตกแต่งอะไร

อยู่ ๆ ฉินซีก็รู้สึกว่าสไตล์การตกแต่งแบบนี้เหมือนจะมีความคุ้นเคยอยู่บ้าง

แต่ว่าเวลาก็ไม่อนุญาตให้เธอได้ย้อนคิดอย่างละเอียด เพราะว่าเธอรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองโดนมือคู่หนึ่งค่อย ๆ ประคองให้ลุกขึ้น

“เมื่อกี้เป็นเพราะว่ากระแสไฟฟ้าควบคุมได้ไม่ดี ก็เลยทำให้เธอต้องลำบาก มา เธอดื่มสารอาหารเสริมนี้ไปก่อน จะได้รู้สึกดีขึ้น”

น้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้อ่อนโยนมาก ฉินซีค่อย ๆ หันหน้าไปมอง

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่จ้านเซินพาตัวเองมาที่หอคอยCครั้งแรกแล้วเจอคนนั้น แววตาของเธอดูอ่อนโยนมากกว่าเยอะมาก

หน้ากลม ๆ ตากลม ๆ ที่หางตามีริ้วรอยหางปลาจาง ๆ แต่ว่าที่มุมปากมักจะมีรอยยิ้มแฝงไว้ด้วยเสมอ

ฉินซีดูจากดวงตาของเธอสามารถสะท้อนให้เห็นว่าตัวเองที่สิบขวบยังมีความหวาดกลัวจาง ๆ หลงเหลืออยู่

เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนนี้จึงยิ้มอย่างอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น “ฟังป้าซิ ดื่มอันนี้ลงไปก่อน จะต้องได้สบายตัวมากขึ้นแน่ ๆ ”

ฉินซียื่นมือออกไปอย่างลังเล แต่ว่าก็ไม่ได้เปิดออกและดื่มในทันที

“ฟางฟาง เธอไปเอาอาหารเสริมCVORมาจากไหน!” ผู้หญิงคนที่มักจะหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลานั้นอยู่ ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าฉินซี เขากวาดตามองขวดเล็ก ๆ ในมือเธอทีหนึ่ง แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป และหันหน้าไปถามผู้หญิงอ่อนโยนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตัวเอง

……ที่แท้เขาชื่อฟางฟาง

ฉินซีแอบจดจำเอาไว้ในใจ

ถึงแม้จะมองไปแค่แป๊บเดียว แต่ว่าตอนที่มองเห็นหน้าของฟางฟางนั้น อยู่ ๆ ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่งที่บอกไม่ถูก

ซึ่งมันรู้สึกหนักหน่วงยิ่งกว่าตอนที่เจอกับจ้านเซินซะอีก

รูปหน้าของฟางฟางนั้นช่างอ่อนโยน ในท่าทียังดูมีหลายส่วนที่อ่อนโยนคล้ายคลึงกับเหยาหมิ่นยังไงอย่างงั้น

คราวนี้ฉินซีพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่าพวกเธอน่าจะกำลังอยู่ในองค์กรทางการทหารบางอย่างอยู่ และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับทางการทหารอย่างแน่

ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างฟางฟางนี้…… ทำไมถึงได้อยู่ที่นี่ได้ล่ะ?

แต่ว่าฉินซีก็ได้แต่แอบถามอยู่ในใจลึก ๆ เท่านั้น เพราะว่าเธอไม่มีทางที่จะยืมปากของตัวเองเมื่อตอนสิบปีก่อนมาถามคำถามของตัวเองออกไปได้

พอโดนผู้หญิงคนนั้นถามแบบนี้แล้ว สีหน้าของฟางฟางก็ดูไม่มีขึ้นมา เธอยืนขึ้น แล้วหันไปเผชิญหน้าโดยตรงกับผู้หญิงคนนั้น น้ำเสียงเย็นเฉียบ “ใครอนุญาตให้เธอใช้ไฟฟ้าแรงสูงขนาดนี้มาทำการทดลอง?”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเย็นขึ้น “เธอมีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับการทดลองของฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่? และเวลาเข้าค่ายฝึกอบรมรุ่นนี้ของพวกเขาก็เหลือไม่มากแล้ว เด็กคนนี้เป็นเด็กที่มีหน่วยก้านดีเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นที่มาเข้าค่ายนี้ ฉันจำเป็นจะต้องกระตุ้นเซลล์สมองของเขาให้ได้มากที่สุด ในช่วงไม่กี่วันนี้ก่อนที่เขาจะกลับไป จะต้องทำได้ตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ หลายปีมานี้ในองค์กรพบคนที่มีความสามารถในด้านนี้น้อยมาก เพราะฉะนั้นฉันจำเป็นจะต้องเก็บเขาไว้ให้ได้…… ”

“พอแล้ว!” ฟางฟางตะคอกออกไป “เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งของชิ้นหนึ่ง อย่าใช้น้ำเสียงที่พูดคุยถึงสิ่งของมาพูดถึงเขา!”

ผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่ยิ้มขึ้นอย่างดูถูก “ฟางฟาง อยู่ในองค์กรนี้ คนที่มีความเป็นมนุษยธรรมก็น่าจะมีแค่เธอคนเดียวแล้วมั้ง? เธอคงไม่ได้ไม่รู้หรอกมั้ง ว่าคนอื่น ๆ นั้นมีจุดจบกันยังไง? สิ่งที่องค์กรต้องการคือหุ่นยนต์ ไม่ใช่คน!”

ฟางฟางกลับไม่อยากยอมแพ้ “คนอื่นมีจุดจบยังไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? ตอนนี้ฉันขอสั่งให้เธอ รีบหยุดการทดลองกระตุ้นพลังงานไฟฟ้ากับเขาเดี๋ยวนี้”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างดูถูก “ฟางฟางเธอยังนึกว่าเธอเป็นหัวหน้าของฉันอยู่อีกเหรอ? ที่เธอสามารถมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ ก็เป็นเพราะว่าจ้านเซินเมตตาเธอครั้งหนึ่งก็เท่านั้น! ครั้งที่แล้วเธอลดจำนวนการฝึกฝนของคนหลายคนลง ระยะเวลารับโทษยังไม่สิ้นสุดลงเลย! ถ้าจะให้ฉันหยุด ก็มีแค่ตัวจ้านเซินมาพูดเองเท่านั้นถึงจะได้ผล!”

หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็ไม่สนใจที่จะชักสีหน้ากับฟางฟางอีก แล้วตัวเองก็หันหน้ากลับไปที่เตียงทดลอง ดูท่ากำลังจะเปิดเครื่องทดลองอีกครั้ง

ฟางฟางก็ไม่สนใจอะไรแล้ว คว้าขวับทีเดียวก็ดึงเอาแผ่นติดหลายแผ่นที่ติดอยู่บนหัวของฉินซีออกไป

“เธอ!” พอผู้หญิงคนนั้นเห็นอุปกรณ์การทดลองบนตัวฉินซีโดนดึงออก สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “ฟางฟาง ถ้าเธอจะบ้า ก็ออกไปข้างนอก!”

“ใครที่เป็นคนบ้า ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?” ฟางฟางพูดขึ้นเสียงเย็น จากนั้นก็หันหน้าไปทางฉินซี แล้วน้ำเสียก็อ่อนโยนลงมากในทันที “หนูลงมาคนเดียวไหวไหมจ๊ะ?”

ผู้หญิงคนนั้นรีบพุ่งไปข้างหน้าฉินซีอย่างรวดเร็ว และขวางเขาไว้ “เธอไปไม่ได้นะ!”

ดูท่าผู้หญิงทั้งสองคนกำลังจะสู้กันขึ้นมาแล้ว แต่อยู่ ๆ ประตูห้องทดลองก็ถูกเปิดออก

จ้านเซินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม พอเขาเห็นสถานการณ์ของข้างในชัดเจนแล้ว รอยยิ้มก็ค่อย ๆ จางหายไป แล้วกวาดตามองทั้งสองคนเย็น ๆ ทีหนึ่ง และก็เอ่ยออกมาเพียงสองคำว่า “อธิบายมา”

ฟางฟางไม่ได้เปิดปากพูด แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับรีบร้อนเปิดปากพูดขึ้นอย่างร้อนรนว่า “จ้านเซิน เมื่อกี้ฉันกำลังทำการทดลองกระตุ้นพลังงานไฟฟ้าให้กับฉินซีอยู่ แล้วอยู่ ๆ เขาก็ฝ่าเข้ามา แล้วก็ดึงอุปกรณ์ทดลองทิ้ง และยังพูดว่าจะพาฉินซีไปอีก”

ฉินซีมองตามสายตาของจ้านเซินไปที่แผ่นติดที่พันกันยุ่งเหยิงทีหนึ่ง แค่ดูก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้โดนแกะออกไปอย่างปกติ

แล้วหัวคิ้วของเขาก็ค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน และหันหน้าไปมองทางฟางฟาง รอให้เธอเปิดปากพูด

“เขาใจร้อนเกินไป กระแสไฟฟ้าทดลองที่ให้ฉินซีใช้มันเกินกำหนด” น้ำเสียงของฟางฟางสงบนิ่ง “ตอนที่ฉันเข้ามานั้น ฉินซีกำลังเข้าสู่การหมดสติระยะสั้นไปแล้ว ถ้าหากจะให้เธอทำการทดลองต่อไป ฉินซีอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้”

ฉินซีกลับค่อย ๆ ขมวดคิ้วขึ้นในใจ

เธอเพิ่งจะเจอกับผู้หญิงคนนี้ครั้งแรก และก็เพิ่งจะรู้จักชื่อของเขาเมื่อกี้ แต่เขากลับพูดชื่อของเธอออกมาได้อย่างถูกต้อง

หรือว่าเขาจะคุ้นเคยกับสถานการณ์ของตัวเธอดี?

ดีที่คำพูดของจ้านเซินก็ได้คลายความสงสัยของฉินซีลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เขาฟังคำพูดของฟางฟางจบ ก็พยักหน้า แล้วก็หันไปทางผู้หญิงหน้าขรึมคนนั้น แล้วพูดขึ้นราบเรียบว่า “ผมเป็นคนวานให้ฟางฟางมาคอยดูคุณที่นี่เอง”

ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนตาโตขึ้นทันที “อะไรนะ?”

จ้านเซินยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น “หลายวันมานี้ ในห้องทดลองพบคนบาดเจ็บสาหัสหลายคน คุณคิดว่าผมจะไม่รู้เหรอว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

การสนทนาของพวกเขาเริ่มเป็นปริศนาขึ้นอีกแล้ว ฉินซีได้แค่คอยแอบเรียบเรียงข้อมูลที่ตัวเองเพิ่งได้มาเมื่อกี้อยู่ในใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท