Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1154

ตอนที่ 1154

บทที่ 1154 มีเหตุผล

ฉินซีค่อนข้างสงสารจ้านเซิน

ถ้าเข้าเป็นลูกของคนปกติทั่วไป มีแม่อย่างฟางฟางดูแลอบรมจนเติบโต มีความสุขกับความรักของแม่ ต่อให้ไม่ร่ำรวยเหมือนตอนนี้ ก็คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย

ฉินซีไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่นานแค่ไหน จนกระทั่งเสียงกรนด้านนอกเบาลง เธอรู้แล้วว่าผู้ดูแลคงจะตื่นกันแล้ว

สุดท้ายเธอมองฟางฟางอย่างลึกซึ้ง กัดฟันโบกมือให้เธอ และปีนออกไปทางระเบียง

เธอไม่กล้าอยู่บนดาดฟ้านาน จึงรีบลงมา เมื่อกลับมาถึงรถก็ไม่กล้ารอนาน รีบขับรถกลับไปทางบ้านของตัวเอง

ไม่รู้ว่าขับมานานแค่ไหน จนกระทั่งมาถึงแยกไฟแดง ในที่สุดฉินซีก็หยุดรถ และพบว่ามีน้ำตาไหลเต็มหน้าของตัวเอง

ตอนที่ฉินซีกลับถึงบ้านท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

เธอหยิบกุญแจพลางคิดพลางว่าจะอธิบายกับเหยาหมิ่นว่ายังไงที่ตัวเองไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืน เมื่อผลักประตูเข้าไปก็พบกว่าประตูเปิดอยู่

เธอเครียดขึ้นมาในทันที ค่อยๆ เปิดประตูอย่างเบามือ

ด้านในไม่มีใคร มีแค่เหยาหมิ่นที่นั่งอยู่เงียบๆ บนโซฟา

“แม่!” ฉินซีก้าวเข้าไป และหันกลับมาล็อกประตู เดินต่ออีกไม่กี่ก้าวไปคุกเข่าอยู่ข้างเธอและขมวดคิ้ว : “ฉันบอกว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่าเปิดประตูไม่ใช่รึไง? คุณเป็นอะไร? ใครมา?”

เหยาหมิ่นยิ้มให้เธอหน้าซีด : “ฉันตั้งใจเปิดประตู ถ้าพวกทวงหนี้มา ก็ให้พวกเขาเข้ามา อย่ารบกวนเพื่อนบ้าน ตื่นมานอนหลับไม่ดีทุกเช้า ใครจะมีความสุข”

ฉินซีกลั้นหายใจ แต่เธอรู้ดี เหยาหมิ่นเป็นคนแบบนี้

เธอคิดถึงคนอื่นตั้งแต่ไหนแต่ไร กลัวจะรบกวนคนอื่น

“แต่คุณก็ไม่ควรประตูไว้แบบนี้สิ!” ฉินซีอดทนแล้วอดทนอีกถึงจะทำให้น้ำเสียงฟังดูไม่ได้โกรธอยู่ “คนพวกนั้นเข้ามา จะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครรู้ รออีกหน่อย รอให้ฉันเก็บเงินพอ จะไปเจรจากับพวกเขาอีกครั้ง”

เหยาหมิ่นหันมองเธอ พยักหน้าพร้อมเบ้าตาค่อยแดงระเรื่อ

เธอไม่ได้ถามอะไร ไม่ได้ถามฉินซีหายไปไหนทั้งคืนไม่กลับบ้าน และไม่ได้ถามว่าฉินซีจะหาเงินมาจากไหน เธอแค่พยักหน้านิ่งๆ

ถ้าฉินซีละเอียดอ่อนกว่านี้ ตอนนี้คงสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่เพราะเธอไม่ได้นอนมาทั้งคืน อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จนเหนื่อยล้า ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงปัญหา เห็นเหยาหมิ่นพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อและลุกขึ้นยืน : “ฉันไปพักก่อนน่ะ แม่ก็กลับไปงีบสักหน่อยเถอะ”

เหยาหมิ่นพยักหน้าอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าเพราะวันนี้ฉินซีเหนื่อยเกินไปจนไม่ได้ยินเสียงขยับด้านนอก หรือพวกเขาโชคดีที่ไม่กลับมาวันนี้ ฉินซีตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว

เธอเดินหาวออกมาจากห้องนอน ในใจคิดจะติดต่ออานหยันอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องการขายรถ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเหยาหมิ่นนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว

“แม่ ทำไมคุณ…” ดวงตาที่แหลมคมของฉินซี ที่เห็นเหยาหมิ่นแอบอะไรได้ด้านหลังทันทีได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ

“นั้นอะไร?” เฮขมวดคิ้วและยื่นมองไปด้านหลังของเหยาหมิ่น

เหยาหมิ่นส่ายหัวอย่างรวดเร็วและผลักเธอออก : “ไม่มีอะไร…”

เธอพูดไม่ทันจบ ของที่ซ่อนไว้ก็ถูกฉินซีดึงออกมา

เป็นหนังสือพิมพ์ที่มีรอยยับยู่ยี่น่าจะถูกสอดเข้ามาทางช่องของประตู

เธอเพิ่งจะเปิดดู ก็โดนเนื้อหาด้านในทำให้ตกใจ

หนังสือพิมพ์ทั้งหน้ารายงานการออกนอกลู่นอกทางของเหยาหมิ่น ในที่สุดหนี้ที่แบกไว้ถูกจัดการโดยขั้นตอนของตระกูลฉิน คำพูดสกปรก ฉินซีอ่านแค่ผ่านๆ ตายังโกรธจนตัวสั่น

“ใคร! ใครเป็นคนส่งเข้ามา?” ฉินซีอดไม่ได้ที่จะขยำกระดาษจนเป็นก้อนกลมและโยนทิ้งไปด้านข้าง

แผ่นอื่นๆ ของหนังสือพิมพ์เป็นข่าวเดียวกัน รายงานที่ไม่ชัดเจน ยังมีคนจงใจใช้ปากกาแดงวงมาเหมือนสัญลักษณ์

ฉินซีฉีกหนังสือพิมพ์ขาดเป็นชิ้นๆ : “ใครทำ?”

เหยาหมิ่นเห็นท่าทีของเธอ ยังรู้สึกกลัว จึงดึงเสื้อเธอเบาๆ : “ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนทำ แต่…มันถูกสอดเข้ามาจากช่องใต้ประตู”

สมองของฉินซีมีภาพคนที่มีโอกาสจะทำแบบนี้ปรากฏขึ้นมากมาย ไม่รู้ทำไมจู่ๆ นึกถึงผู้หญิงเสียงแหลมที่อยู่ตรงข้าม

“ต้องเป็นเธอแน่นอน!” ฉินซีรู้ว่าข้อสงสัยของเธอไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ แต่เธอต้องการหาโอกาสที่จะพูดระบายอารมณ์ออกมา

เธอรู้สึกว่าตั้งแต่เมื่อคืนเธอเหมือนลูกโป่งที่เต็มไปด้วยก๊าซ ถ้ายังไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์ เธอจะระเบิดได้ในเร็วๆ นี้

ดังนั้นเธอจึงพูดพลาง ลุกขึ้นไปหาเหตุผลจากคนอื่น

แต่เหยาหมิ่นดึงเธอไว้สุดชีวิต : “ฉินซี!”

ฉินซีไม่กล้าใช้แรงต่อสู้ จึงหยุดเดินและก้มมองเหยาหมิ่น

สองคนมองหน้ากันอยู่นาน ฉินซีส่งเสียงแหบเรียก : “แม่”

เธอไม่ได้พูดอะไร แต่แค่คำว่า “แม่” คำเดียวก็รวมทุกอย่างที่อยากพูดไว้หมดแล้ว

เบ้าตาของเหยาหมิ่นเปลี่ยนเป็นสีแดง หยดน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากหางตา

ฉินซีเองก็ดึงความรู้สึกไว้ไม่ไหวแล้ว

เธอคุกเข่าลงเหมือนตอนเด็กๆ เอาหน้าซุกลงไปตรงหัวเข่าของเหยาหมิ่น สุดท้ายก็ร้องไห้ออกมา

หลายวันมานี้เธอน้ำตาไหลบ่อย แต่นานมากแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้เสียงดังแบบนี้

เหยาหมิ่นสวมกอดเธออย่างเงียบๆ

ฉินซีรู้สึกได้ถึงหยดน้ำตาที่หยดลงมาบนคอของเธอ

สองคนกอดกันร้องไห้อยู่นานมาก

หลังจากร้องไห้ระบายอารมณ์ไปแล้ว แต่ปัญหาที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่น้อยลงไปเลย

ฉินซีเช็ดน้ำตาและไปล้างหน้าล้างตา อานหยันก็โทรเข้ามาพอดี

“ฉินซี!” น้ำเสียงของเธอฟังดูดีใจ “ขายรถได้แล้ว ราคาไม่ต่ำด้วย!”

ฉินซีขมวดคิ้ว : “ขายไปแล้ว? ทั้งที่ไม่มาดูรถ ก็ซื้อไปนี้น่ะ?”

อานหยันอดทนรอไม่ไหว : “คงจะรีบใช้มั้ง! วันนี้ว่างขับรถออกมา ฉันจะหาเอเย่นช่วยจัดการขั้นตอนดำเนินการให้พวกเธอ!”

รถของฉินซีคือรถที่ปู่ทิ้งไว้ให้เธอ เป็นรถค่อนข้างโบราณ ดังนั้นจะมีพวกนักซื้อรถต้องการ เป็นเรื่องปกติ แต่การซื้อโดยไม่มาดูรถ ก็เป็นอะไรที่เกินการคาดคิด

ถึงแม้ในใจฉินซีจะสงสัย แต่เพราะรีบใช้เงิน จึงไม่ถามอะไรมาก

เธอพูดกับเหยาหมิ่นนิดหน่อย และรีบออกไป

ผู้ซื้อไม่ได้เปิดเผยใบหน้า แต่ให้อำนาจทนายและคนขับรถมาจัดการ

แต่ฉินซีนึกผ่านความทรงจำของตัวเองเมื่อเห็นหน้าคนขับรถ ก็อดที่จะตกใจไม่ได้

ใบหน้านั้น เธอรู้สึกคุ้นๆ คลุมเครือ น่าจะเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดตระกูลลู่

ตอนที่เธอไปบ้านตระกูลลู่ เคยเห็นหน้าคนคนนี้

ถ้าเป็นคนของตระกูลลู่ งั้น…คนที่ซื้อรถของตัวเอง ไม่ใช่ลู่เซิ่น ก็ต้องเป็นลู่เหวย

ถ้าเป็นแบบนี้ ซื้อรถโดยไม่มาดูรถ ก็สมเหตุสมผลอยู่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท