Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1157

ตอนที่ 1157

บทที่ 1157 รู้คำตอบมานานแล้ว

จ้านเซินน่าจะเรียกใช้คนที่ติดต่อได้ใกล้ที่สุด ฉินซีรออยู่ไม่กี่นาที เขาโทรมาบอกมาว่ามีคนมาแล้ว

ตอนนี้ยังดึกอยู่ ฉินซีกลัวจะรบกวนเหยาหมิ่นจึงค่อยๆ ย่องออกจากห้องนอน และพยายามปิดประตูห้องไม่ให้ส่งเสียงดัง

เมื่อลงมาถึงด้านล่าง ก็มีรถคันหนึ่งจอดรออยู่แล้ว

ขณะที่ฉินซีกำลังจะขึ้นรถ ก็หันไปเห็นผู้หญิงเสียงแหลมห้องตรงข้ามยืนอยู่ที่ประตูทางขึ้นบันได

จองหน้ากันกับฉินซี เธอยิ้มอย่างแปลกๆ : “ฉันเป็นคนสำคัญอะไรล่ะ มีรถหรูรับส่งทุกวัน แถมยังไม่ซ้ำกันอีกด้วย ทำเรื่องไร้ยางอายอะไร ถึงต้องออกจากบ้านดึกดื่น?”

แต่ตอนนี้ฉินซีไม่อารมณ์จะมาทะเลาะกับเธอ จึงไม่แสดงสีหน้าอะไรและนั่งลงในรถ

คนที่ขับรถก็น่าจะเป็นคนในองค์กร เพราะฉินซีรู้สึกคุ้นหน้า

เขามีสีหน้าเคร่งขรึม ฉินซีเองก็ไม่กล้าถาม ทั้งสองคนจึงนั่งเงียบๆ ไปจนถึงจุดหมาย

เขตติดต่อชานเมือง

ฉินซีไม่เคยมาที่นี่มาก่อน

จุดติดต่อนี้ดูไม่โดดเด่นเลย เป็นแค่บ้านชานเมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ฉินซีสังเกตดูรอบๆ แล้วที่นี่ห่างสถานที่ที่ขังฟางฟางค่อนข้างใกล้ ถึงขนาดที่ฉินซีสามารถเห็นหลังคาของบ้านชานเมืองได้

คนขับรถคนนั้นเดินมาถึงหน้าประตูแล้วก็หยุดเดิน และหันมามองฉินซี ดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป

แต่ฉินซีก็หยุดเดินเหมือนกัน

ไม่ใช่เธอไม่ได้รับอนุญาต แต่เพราะเธอ…ไม่กล้าพอ

เธอไม่กล้าเข้าไป ไม่กล้าเผชิญหน้า

แค่ไม่กี่วินาทีมือของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ

แต่การหลีกหนีก็ทำได้เพียงชั่วคราว

เพราะจ้านเซินน่าจะได้ยินการเคลื่อนไหวของเธอแล้ว จึงเดินมาที่ประตู

เปิดประตูออก เห็นฉินซียืนอยู่ที่หน้าประตู เขาไม่พูดอะไรมาก แค่พยักหน้าให้เข้าไป : “เข้ามาเถอะ”

ฉินซีไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินเข้าไป

การตกแต่งภายในจุดติดต่อกับสภาพด้านนอกดูไม่ต่างกัน เป็นการซ่อมแซมอย่างง่ายๆ

จ้านเซินเดินนำทางไปอย่างเงียบๆ เดินผ่านมาไม่กี่โค้ง ก็มาหยุดตรงหน้าประตูห้องที่อยู่ด้านในสุด

“ฟางฟาง…อยู่ด้านใน” ดูเหมือนว่าจ้านเซินจะกลืนคำพูดลงไปหนึ่งคำ แต่ฉินซีไม่ทันได้สังเกต

หรือจะพูดได้ว่า ความสนใจทั้งหมดของเธอถูกดึงดูดเข้าไปในห้อง

ในห้องไม่มีการตกแต่งอะไร มีแค่เตียงที่ดูเก่าๆ หนึ่งหลัง

ในห้องไม่ได้เปิดไฟ ต้องอาศัยแสงสว่างจากด้านนอกที่สิ่งเข้ามา ถึงมองเห็นเหตุการณ์ภายในห้อง

บนเตียง…มีเงาคนหนึ่ง

จะบอกว่าเป็นเงาคนก็ดูไม่เหมาะสม เป็นแค่…แค่สิ่งของที่ถูกผ้าขาวคลุมวางไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้าจะดีกว่า

ถ้าไม่บอก ฉินซีจะไม่คิดว่านั้นคือคนคนหนึ่ง

แต่นั่นคือฟางฟาง

ฟางฟางที่เพิ่งจะกอดลาเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน

ขาของเธออ่อนจนแทบจะประคองตัวเองไว้ไม่ไหว ดังนั้น…เธอจึงก้าวออกไปอีกก้าวไม่ไหว

จึงใช้มือประคองขอบประตูไว้ ยืนอยู่ตรงประตู และจ้องมองร่างไร้วิญญาณที่อยู่ภายใต้ผ้าขาวนั้นอย่างเงียบๆ

นั่นเคยเป็นชีวิตที่สดใสชีวิตหนึ่ง

ครั้งนี้ฉินซีไม่ได้ร้องไห้ แต่เธอกลับรู้สึกเบ้าตาแห้งสนิทจนไม่สามารถมีน้ำตาไหลออกมาได้

จ้านเซินยืนอยู่ข้างๆ เธอตลอด

ไม่รู้ว่าทั้งสองคนยืนยิ่งเงียบอยู่นานแค่ไหน ฉินซีจึงอ้าปากถามเสียงแหบแห้ง

“นี่…มันเกิดอะไรขึ้น?”

จ้านเซินถอนหายใจเบาๆ และยื่นมือไปประคองเธอ : “คุณ…นั่งลงก่อนเถอะ”

แต่ฉินซีกลับดื้อดึงจะยืนที่หน้าประตู ตรงที่ที่ยืนแค่เงยหน้าขึ้นมาก็สามารถสถานที่ที่สูญเสียฟางฟาง ไม่ยอมขยับไปไหน

จ้านเซินเห็นแบบนี้ไม่สามารถบังคับเธอได้ จึงทำได้แค่ยืนเป็นเพื่อนข้างๆ เธอ และพูดเสียงเบาๆ : “คุณ…ไปหาเธอมาแล้วใช่ไหม?”

ฉินซีไม่ตอบ

เธอรู้ดีการใช้ชีวิตของตัวเองทั้งหมดอยู่ภายใต้การสังเกตขององค์กร ปฏิเสธไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

แต่ที่จ้านเซินพูดแบบนี้ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอ

เขารู้คำตอบอยู่แล้ว

“ฟางฟางน่าจะสารภาพกับคุณแล้ว ที่เธอถูกขังเป็นเพราะพ่อของฉันใช้เธอเป็นหมากตัวหนึ่งในการซื้อบริษัทผลิตยาฉางเซิ่ง” จ้านเซินลดสายตาลงและไม่มามองฉินซี “ฉันไปหาเธอก่อนคุณ แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ยอมไปกับฉัน และยังบอกฉันอีกด้วยว่าเธอจะทำประโยชน์ให้ององค์กรเป็นครั้งสุดท้าย เธอจะสนับสนุนการพัฒนาของโครงการนี้”

ฉินซียังคงก้มหน้าเงียบ

“กลางดึกวันนี้…เธอโทรหาพ่อของฉันสายหนึ่ง” จ้านเซินเริ่มพูดอีกครั้ง ค่อยๆ พูดออกมาช้าๆ เหมือนยากที่จะพูดออกมา “โทรศัพท์เครื่องนี้…พ่อของฉันน่าจะให้เธอไว้ตอนไปหาเธอ เธอบอกพ่อฉันง่ายๆ ว่าให้เขาพานักข่าวมาที่บ้านชานเมือง ไม่ได้พูดอะไรมากก็วางสายไป”

ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ในที่สุดก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

“พ่อของฉันทำตามที่เธอบอก พานักข่าวที่คุ้นเคยมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ มาถึงด้านล่างของบ้านชานเมืองที่ขังเธอไว้”

จ้านเซินเงียบไปสักครู่จึงจะพูดต่อ “เดิมทีเขาคิดว่า…ที่ฟางฟางให้เขาพาคนมาเพื่อที่จะวางแผนการเปิดโปงการลักพาตัวของบริษัทผลิตยาฉางเซิ่งต่อหน้านักข่าว คิดไม่ถึงว่าขณะที่นักข่าวเพิ่งจะจัดกล้องเสร็จ กำลังจะพูดเปิดตัวเองอยู่นั้น ด้านหลังก็มีเสียงดังอู้อี้ขึ้นมา”

จ้านเซินหยุดพูดอีกครั้ง และไม่พูดอะไรต่อ

หลังจากที่ฉินซีรู้จักเขามานาน นี้เป็นครั้งแรกที่เขาอ้ำๆ อึ้งๆ

“อู้อี้ คืออะไร?” เขาเงียบนานเกินไป จนฉินซีอดทนรอไม่ไหวจึงถามออกไป

จ้านเซินหลับตาลง และในที่สุดก็อ้าปากพูด

“เพราะฟางฟางกระโดดตึก…ลงมาต่อหน้ากล้องบันทึกภาพ”

ฉินซีทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินจ้านเซินพูดแบบนี้ เธออดไม่ไหวจึงปิดตาลง

เธอไม่สามารถหยุดยั้งการจินตนาการของตัวเองได้

เธอแทบจะนึกภาพฟางฟางกระโดดตึกลงมายังได้จากการอธิบายของจ้านเซิน

หรือว่า… ฟางฟางอาจจะกำลังยิ้มวิ่งไล่ตามการปลดปล่อยตัวเอง

“พ่อของฉัน…ก็ตกตะลึง” จ้านเซินพูดต่อ “แต่นักข่าวที่เขาพามาด้วยตื่นเต้นกับข่าวนี้มาก ถึงขนาดวิ่งตามบอดี้การ์ดขึ้นไปบนหลังคา”

บนหลังคา คือสถานที่ที่ขังฟางฟางไว้

“คุณก็รู้ ด้านบนหลังคามีคนดูแลแค่คนเดียว บอดี้การ์ดสองคนนั้นเป็นคนขององค์กร นักข่าวและสองคนนั้นรีบพุ่งเข้าไป ผู้ดูแลคนนั้นก็ต้องยอมไปตามธรรมดา นักข่าวยังคงพุ่งเข้าไปที่ห้องนั่นที่ฟางฟางโดนขังไว้” เป็นอีกครั้งที่จ้านเซินพูดไม่ออก เขาก้มหน้าสงบนิ่งเป็นเวลานาน จึงจะยื่นโทรศัพท์ออกมา เปิดรูปออกและวางไว้ตรงหน้าฉินซี

ฉินซีก้มหน้าอย่างยากลำบาก

หลังจากเห็นรูปในครั้งแรก เธอก็อดที่จะปิดตาลงอีกครั้งไม่ได้

ภาพถ่ายสีแดงที่เขียนด้วยลายมือสีสนิม

เดาได้ไม่ยาก นั้นใช้เลือดสดๆ เขียนออกมา

ฉินซีมือสั่นจนถือโทรศัพท์ของจ้านเซินไว้ไม่ไหว ทำให้โทรศัพท์เครื่องนั้นหล่นลงไปบนพื้น

จ้านเซินไม่ได้พูดอะไร แค่ก้มลงเก็บโทรศัพท์ขึ้นมา ทันใดนั้นก็พูดกระซิบกระซาบกับตัวเอง

“เธอ…ตกจากด้านบนลงไปด้านล่างใช่ไหม?”

เสียงของเขาไม่ดัง แต่ฉินซีกลับได้ยินชัดเจนอยู่ในหู

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท