Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1177

ตอนที่ 1177

บทที่ 1177 ทิ้งเธอไว้

หอพักเงียบสงบมาก ราวกับไม่มีคนอื่น

ฉินซีก็ยังคงปวดหัวไม่หาย เหมือนลูกโป่งที่กำลังจะระเบิด อัดอีกหน่อย ระเบิดทันทีแน่นอน

เธอรู้สึกถึงเหงื่อที่เปียกชุ่มที่หลังเสื้อของเธอ เปียกจนติดผิวตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว

แม้ว่าเกือบจะทรุด ไม่มีแม้แต่แรง เธอยังพยุงตัวเองขึ้นมานั่งอยู่บนโซฟา

“คุณตื่นแล้ว”

ฉินซีรู้สึกประหลาดใจกับเสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันไปมอง ปรากฏว่ามีคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงเธอ

“จ้านเซิน”

ครั้งนี้เธอแค่เห็นเค้าโครง ก็รู้ได้เลย

เธอมองไปรอบๆอีกครั้ง เสื้อคลุมสีขาวหายไปแล้ว ในหอมีแค่เธอและจ้านเซินสองคนเท่านั้น

เสียงของจ้านเซินฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความพึงพอใจบางๆ:“คุณจำได้หมดแล้ว ใช่มั้ย? ”

ฉินซีหัวเราะอย่างเย็นชา

“ใช่แล้ว ฉันจำได้หมดแล้ว”

จ้านเซินเหมือนสัมผัสไม่ถึงความเย็นชาที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเธอยังไงอย่างงั้น เดินไปข้างหน้าฉินซี:“คุณจำได้แล้วสิว่าผมคือใคร ใช่มั้ย? ”

ในที่มืด ใบหน้าของเขาใกล้ฉินซีมาก ฉินซีสามารถมองเห็นได้ว่าดวงตาเขากำลังส่องแสง ราวกับว่าเฝ้ารอที่จะเซอร์ไพรส์อะไรอยู่

ฉินซีกลับไม่ได้จะช่วยให้เขาสมหวังถึงความปรารถนานี้เลย

“ฉันไม่เพียงแต่จำได้ว่าคุณเป็นใคร แต่ยังจำได้อีกว่า ชั้นจากที่นี่ไปเพราะอะไร” เสียงของฉินซีเย็นชาลง“จ้านเซิน คุณตกลงที่จะปล่อยฉันไปเอง และตอนนี้จะให้ฉันกลับมาด้วยวิธีนี้ คุณกล้าดียังไงกัน? ”

ความหวังที่เปล่งประกายในดวงตาจ้านเซินนั้นเหมือนถูกสาดเข้าด้วยน้ำเย็นหนึ่งถัง ดับในครั้งเดียว

เขายืนตรง ไม่ได้มองฉินซีอีกเลย แต่เดินไปที่หน้าประตู เปิดไฟในหอพัก

“ถ้าหากคุณจำอะไรได้หมด คุณก็น่าจะเข้าใจ ตอนนั้นที่ผมตกลง เป็นเพียงแผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสม ผมไม่ได้ตอบตกลงซะทีเดียว ไม่ใช่หรอ? ”

เขาพูดอย่างมั่นใจ ดูเหมือนตัวเองไม่รู้สึกว่ากำลังบังคับพาฉินซีกลับมา ทำให้เธอจำทุกสิ่งได้อย่างเจ็บปวดแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเลยสักนิด

ฉินซีมองบนอยู่ในใจ หัวเราะอย่างเย็นชา

“ในเมื่อตอนนั้นสามารถปล่อยฉันเพราะแผนชั่วคราวของคุณ แล้วตอนนี้ทำไมถึงพาฉันกลับมาอีกล่ะ?”

เธอปวดหัวจนหัวแทบแตก น้ำเสียงเริ่มโกรธเล็กน้อย

จ้านเซินกลับไม่แยแสกับความโกรธของเธอ

“ฉันไม่สามารถเฝ้าดูคุณผิดพลาดอีกต่อไป?”

“ผิด?”

ฉินซีทนไม่ไหวจึงเสียงดังขึ้น“คุณพาฉันกลับมา ถึงเรียกว่าผิด!”

เสียงของจ้านเซินยังคงสงบอย่างมาก:“ ฉินซี ตอนคุณจะไป ผมเตือนคุณแล้ว ถ้าคุณไปไกลเกินไป ผมจะพาคุณกลับไปในเส้นทางที่ถูกต้อง”

ขมับของฉินซีราวกับถูกเข็มแทงเข้าไป นึกย้อนไปอดีตที่ตัวเองเจ็บปวด เธอจึงเอากุมขมับ นวดไปแปปนึง สงบลงมา

เธอไม่มีแรงที่จะไปนึกถึงอดีตอีก และไม่มีความคิดที่จะไปเถียงกับจ้านเซิน

แต่ว่าจ้านเซินกลับไม่คิดที่จะปล่อยเธอไปเลย

ความเงียบของเธอกลับถูกจ้านเซินมองว่าเป็นการตอบตกลงโดยปริยายแล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้น

“อนาคตคุณจะรู้เอง กลับมาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แล้วคุณจะขอบคุณผม”

ฉินซีทนไม่ไหว เงยหน้ามองเขา หัวเราะอย่างเย็นชา

จ้านเซินไม่พอใจที่เธอหัวเราะ ขมวดคิ้วและมองไปที่เธอ:“คุณหัวเราะอะไร? ”

ฉินซียังคงหัวเราะด้วยมุมปาก ส่ายหัวให้กับจ้านเซิน

“จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่รู้ ว่าเพราะอะไรฉันถึงจากไป”

……

แม้จะสลบไปอย่างทรมาน แต่ในตอนนี้ ความทรงจำทั้งหมดของฉินซีก็วกวนเข้ามาในสมองของเธอ

ดังนั้นเธอจึงเหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อเสร็จสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจรายละเอียดดี

ความเจ็บปวดเหล่านั้น สมองส่วนที่เยียวยาตัวเองนั้นลืมป้องกันรายละเอียดทั้งหมด จึงปรากฏในสมองเธออย่างชัดเจน

แม้กระทั่งเรื่องที่เหยาหมิ่นกระโดดตึก ร่องรอยของเลือดและเป็นลมนั้น

คิดถึงตรงนี้แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะสั่นอีกครั้ง

……

ย้อนเวลากลับไปวันนั้น

ฉินซียืนอยู่ด้านหลังของเหยาหมิ่น เห็นเหยาหมิ่นกระโดดตึกต่อหน้าตาตัวเอง

ในช่วงเวลาที่มองไปที่ศพของเหยาหมิ่น ฉินซีรู้สึกว่าโลกทั้งใบของเธอนั้นถูกแยกออกจากเธอ

เหมือนเธอถูกปิดตา และยัดลงในถุงที่ปิดสนิท

ในเวลาไม่กี่นาที เธอมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ไม่ได้ยินเสียงอะไร แทบจะลืมหายใจด้วยซ้ำ

มันก็เหมือนกับ……คนกระโดดตึก ไม่ใช่เหยาหมิ่น แต่เป็นเธอเอง

เธอกระโดดลงไปพร้อมกับเหยาหมิ่น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เธอจึงค่อยๆรู้สึกตัว

กระพริบตาช้าๆ เอามือมาหยิกตัวเองอีกครั้ง

ในที่สุดเธอก็แน่ใจ

เธอไม่ได้อยู่ในฝันร้ายที่ไร้สาระ ทั้งหมดเป็น……สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ

ฉินซีขาอ่อน เธอทรุดลงกับพื้น

น้ำตาไหลนองเต็มหน้า แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย

เสียงโหวกเหวกจากชั้นล่างดังขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นไม่นาน เสียงรถตำรวจดังขึ้น

มีแต่ฉินซีที่เหมือนกับไม่ได้ยินอะไรเลย เพียงแค่ยืนพิงกำแพงที่เหยาหมิ่นยืนอยู่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกระโดดลงมา

เพียงความคิดเดียวในสมองของเธอ

——ทำไมคนที่กระโดดลงไปไม่ใช่เธอ?

เธอสูญเสียความสามารถในการคิดทั้งหมดไปแล้ว รู้อยู่เรื่องเดียว

เหยาหมิ่นทิ้งเธอไปแล้ว

เธอได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับฉินซึ่งเทียนแล้ว ตอนนี้ในตระกูลฉินมีผู้หญิงแปลกหน้าพักอาศัยอยู่ และลูกของเธอที่มีกับฉินซึ่งเทียน

เธอไม่ใช่สำหรับที่นั่นอีกต่อไป ฉินซึ่งเทียนก็ไม่ใช่พ่อของเธออีกต่อไป

เธอมีแค่เหยาหมิ่นคนเดียว

เหยาหมิ่นก็มาทิ้งเธอไป

ตอนนี้โลกมันกว้างใหญ่ขนาดนี้ กลับเหลือเพียงเธอคนเดียวที่อ้างว้าง

สมองของฉินซีไม่อาจยัดความคิดอื่นเข้าหัวได้อีกแล้ว

เธอจับกำแพงแล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น

เธอไม่อยากอยู่บนโลกนี้อย่างอ้างว้างเดียวดาย

ในเมื่อเหยาหมิ่นจะไป งั้นเธอก็ไปได้

เธอจะจากไปพร้อมเหยาหมิ่น

เพียงแต่ตอนนี้มือเท้าเธอนั้นแทบไม่มีแรง ดังนั้นแค่จะยืนขึ้นนั้น ก็ใช้เวลานานพอควร

สุดท้ายก็ยืนตัวตรง แต่เธอไม่มีแรงพอที่จะปีนขึ้นไปบนระเบียงสูงที่เหยาหมิ่นยืนอยู่ก่อนจะกระโดดลงไป

น้ำตาบนใบหน้าของฉินซีไหลอย่างต่อเนื่องไม่หยุด การกระทำก็ดูเหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

ทำไม!แม้แต่กระโดดตึก เธอก็ไม่คู่ควรงั้นหรอ?

เธอกระวนกระวายอยู่ขอบแท่นกระเบื้องนั้น ในที่สุดตอนที่เธอยืนขึ้นนั้น ประตูดาดฟ้าก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

คนในเครื่องแบบตำรวจหลายนายเปิดประตูและบุกเข้าไป

เห็นการกระทำของเธอแล้ว คนที่วิ่งไปด้านหน้าสุดนั้นมีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว

“คุณจะทำอะไร!”

ระหว่างที่เขาพูด ก็พุ่งเข้าหาฉินซีในเวลาเดียวกัน

มือเท้าของฉินซีไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว และอีกฝ่ายได้รับการฝึกอบรมวิชาชีพ แน่นอนว่าเคลื่อนไหวได้เร็วกว่ามาก ดังนั้นฉินซีไม่สามารถหลบได้ ถูกเขาลากออกจากระเบียงสูง

ฉินซีพูดพึมพำหนึ่งประโยค:“ตายไปแล้วหนึ่งคน และเกือบจะมีอีกหนึ่งคนแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท