Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1178

ตอนที่ 1178

บทที่ 1178 หลุดพ้นจากผู้ต้องสงสัย

หน้าอกของฉินซีเจ็บอย่างกะทันหัน

แม้ว่าเธอจะเห็นเหยาหมิ่นตายต่อหน้าต่อตาเธอก็ตาม แต่เมื่อได้ยินคนอื่นพูดว่าเหยาหมิ่นเสียชีวิตแล้วนั้น สำหรับเธอนั้น ยังคงเป็นสิ่งที่ทำใจยอมรับไม่ได้

ทันใดนั้น น้ำตาเธอเอ่อนองออกมา

“เอ๋เอ๋!ทำไมยังร้องอีก !”ตำรวจชายที่ฉุดเธอลงมานั้น เห็นเธอร้องไห้ฟูมฟาย กับการสูญเสียทันใดนั้นรู้สึกทำอะไรไม่ถูก“คุณไม่ต้องร้องแล้ว เกิดอะไรขึ้น……”

มือของเขาที่พึ่งหยิบกระดาษออกมาแล้วยัดให้ฉินซี ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนตบไหล่จากข้างหลัง:“มา ฉันเอง”

ตำรวจชายหนุ่มคนนั้นรีบถอยก้าวออกอย่างเร็ว

ตำรวจหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาข้างหน้า มองจากหน้าแล้วดูเป็นคนอ่อนโยน

เธอมองไปที่ฉินซีอย่างเงียบๆ จู่แล้วเอ่ยปากพูด:“ คุณ……กับคนที่พึ่งจะกระโดดตึก เป็นอะไรกัน?”

ฉินซีไม่พูด

เธอไม่อยากจะพูดอะไร และไม่อยากยอมรับ

“คุณเป็นลูกสาวของเขา ถูกมั้ย?” แต่ตำรวจหญิงไม่จำเป็นต้องรอให้เธอพูด ก็ดูออกแล้ว

ฉินซียังคงไม่เอ่ยปากพูด

“ฉันรู้ ว่าคุณเจ็บปวดมากแค่ไหน” น้ำเสียงของตำรวจหญิงพูดอย่างปลอบใจ

“แต่ว่า……ฉันยังคงต้องถามคุณอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง แม่ของคุณ เธอ……ถูกส่งไปที่โรงพักแล้ว คุณไปกับเราหน่อย ได้มั้ย?”

สายตาของฉินซีเมื่อได้ยินว่า“แม่”หนึ่งคำ ก็ขยับตัวเล็กน้อย ค่อยๆเงยหน้าขึ้น แล้วมองตำรวจหญิง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดอย่างเสียงแหบ:“ พวกคุณพาเธอไปโรงพัก?”

ตำรวจหญิงพยักหน้า แล้วพูดปลอบใจต่อ:“ ต้องพาเธอไปตรวจสอบอย่างละเอียด ถึงจะเรียบร้อย นอกจากพวกคุณสองคนแล้ว คุณยังมีญาติคนอื่น ๆอีกมั้ย?”

ประสิทธิภาพในการรับข้อมูลของฉินซีในขณะนี้ลดลงอย่างมาก ฟังที่ตำรวจหญิงพูดแล้ว เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวเบาๆ:“ ไม่มีแล้ว……มีแค่……มีแค่เราสองคน……”

ความอดทนของตำรวจหญิงนั้นดีจนน่าประหลาดใจ ฟังเธอพูดเป็นระยะๆมาสักพักแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญและยังพูดอย่างนิ่มนวล:“ งั้นขอรบกวนคุณไปโรงพักกับพวกเรา ได้มั้ย?”

ฉินซีพยักหน้าอย่างงัวเงีย

ต่อมาฉินซีพึ่งจะรู้ วันนั้นหากมีกล้องวงจรปิดบนดาดฟ้า อันที่จริงเธอควรจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย

เพราะบนดาดฟ้ามีแค่พวกเขาสองคน ช่วงเวลาที่เธอปรากฏตัวนั้นบังเอิญมาก หากไม่ใช่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ ใครก็บอกแน่ไม่ได้ว่าเหยาหมิ่นกระโดดลงไปเอง หรือเธอเป็นคนผลักลงไป

ดังนั้นวันนั้นที่ตำรวจมาหาเธอ และพาตัวเธอไป อันที่จริงไม่เพียงแต่พาเธอไปทำเรื่องเกี่ยวกับมรดก

ของเหยาหมิ่นอย่างเดียว แต่เพื่อ……สอบสวนเธอด้วย

แต่ก่อนสอบสวนนั้น พวกเขาก็ได้รับกล้องวงจรปิด ฉินซีจึงหลุดพ้นจากผู้ต้องสงสัย

แต่ว่าฉินซีในตอนนี้ผู้ไม่รู้อะไรเลย

เธอพึ่งจะเดินตามตำรวจออกจากดาดฟ้าอย่างงงๆ เดินเข้าลิฟต์ แล้วเดินออกมา

พอเดินถึงหน้าประตู เธอหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว

เหยาหมิ่น……

ดูจากการก้าวเท้าของเธอที่เปลี่ยนไป ตำรวจหญิงหันกลับมามอง พูดด้วยความเข้าอกเข้าใจ:“ คุณลืมไปแล้วหรอ?พวกเราส่งเธอไปที่โรงพักแล้ว ตอนนี้ที่นี่ไม่มีอะไรทั้งนั้น คุณไม่ต้องกังวลไป……”

แต่ฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางนั้น

คนที่มามุงดูนั้นยังไม่แยกย้ายไป ใกล้จุดที่เหยาหมิ่นตกลงมานั้นมีคนมุงดูอย่างกับรังผึ้ง ฉินซีสามารถผ่านช่องว่างของฝูงชนได้เท่านั้น ก็พบกับเลือดความแดงสดเต็มสองตา

มันดูแตกต่างจากมุมสูง เลือดแดงสดที่เอ่อนองอยู่นั้น ราวกับจะกลืนเธอไปทั้งตัวในวินาทีต่อมา

ฉินซีหน้าซีดกว่าเดิม พร้อมกับมีเหงื่อออกที่หน้าผาก

ถ้าไม่ใช่เพราะการพยุงของตำรวจหญิง เธอคงจะล้มลงกับพื้นแล้ว

แต่เธอเคลื่อนไหวช้าลง เป็นที่สังเกตของคนที่มามุงดู

พวกเขาค่อยๆพูดพึมพำขึ้นมา

“ นี่ใช่ตำรวจที่พึ่งสอบสวนผู้หญิงที่จะกระโดดจากตึกใช่ไหม?”

“ใช่สิ ทำไมถึงพาคนนี้ขึ้นรถตำรวจล่ะ?”

“คงไม่ใช่……ผู้หญิงคนนี้ผลักคนตกลงมาหรอกมั้ง?”

“ไม่ใช่ละ ไหนบอกว่าเธอเป็นคนกระโดดตึก!”

“โอ๊ยย ใครพูดถูกบ้างเนี่ย!ข้างบนก็ไม่มีคนอื่นเลย แค่ผลักเบาๆ บอกว่าคนๆนั้นกระโดดตึกเอง ใครก็ไม่รู้!”

“ไม่ต้องพูดแล้วๆ หลอนจริงๆ!”

แต่คำพูดของคนเหล่านี้ไม่เข้าหูของฉินซีเลยแม้แต่นิดเดียว และเธอก็ไม่รู้สึกถึงสายตาของฝูงชนที่ชี้หน้าต่อว่าเธออยู่

เธอเดินตามตำรวจหญิงไปอย่างเฉื่อยชา ค่อยๆเดินไปทางรถตำรวจ

ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งผลักฝูงชนที่มามุงดูออก และพุ่งเข้ามาหาฉินซี

“ฉันว่าแล้ว!พวกคุณสองคนมันตัวซวย!” เสียงเกรี้ยวกราดมาก ฟังก็รู้เลยว่าเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ตรงข้ามกับฉินซี

เธอเอามือเท้าเอว มืออีกข้างชี้ไปที่จมูกของฉินซี:“ นางตัวซวยจริงๆ!ตั้งแต่ย้ายเข้ามา วันที่สองก็มีคนมาทวงหนี้ถึงหน้าห้อง!เทสีเต็มหน้าประตู!หลายวันมานี้ ก็มีคนมาเคาะประตูขอเงินแต่เช้า!ฉันละอายใจแทนคุณจริงๆ!ติดหนี้ไม่มีปัญญาคืนจะตายก็ไปตาย ทำไมถึงเจาะจงจะกระโดดตึกนี้!ซวยนะเนี่ย!วันหลังพวกเราจะขายบ้านนี้คงขายยากละ!”

พอเธอพูดจบ การแสดงออกของฝูงชนที่มามุงดูนั้นเปลี่ยนไป

ในใจพวกเขา การกระโดดตึกง่ายๆนี้ ได้กลายเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน

แม่และลูกสาวที่ย้ายออกไปด้วยหนี้ สาดสีแดงไปที่ประตู คุณแม่ที่กระโดดตึก ลูกสาวที่ถูกตำรวจนำตัวไป

คำเหล่านี้รวมกัน กลายเป็นเรื่องราวที่ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

ผู้หญิงคนนั้นดึงดูดความสนใจมากขึ้น เสียงพูดก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

“พวกเธอดูข่าวรึยัง?ผู้หญิงที่ตายไป ก็คือเมียของคนรวยที่นอกใจที่ออกข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน!นอกใจแล้วโดนจับได้ จึงโดนไล่ออกมา!ลูกสาวของเธอก็คงต้องทำอะไรที่ทุเรศแน่ๆ จึงถูกไล่ออกมาด้วย!เอาเงินผัวไปเลี้ยงเลี้ยงแมงดา!สุดท้ายติดหนี้ก็เลยไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ตายแล้วยังทำให้ผู้บริสุทธิ์อย่างเราลำบากไปด้วย!ผู้หญิงคนนี้!สมควรตาย!ถุย!”

เธอคงขาดความอบอุ่นและสนใจของคนอื่นมาตั้งแต่เกิด คราวนี้ถูกคนจับตามองมากมายแบบนี้ จึงยิ่งพูดยิ่งได้ใจ แล้วหันหน้าเข้าหาทุกคน เสมือนชี้นิ้วสั่งสอนคนอื่น ไม่ได้สังเกตถึงความเคลื่อนไหวของข้างหลังเลย

แต่ตอนที่ฉินซีได้ยินคำว่า“นอกใจ” สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไป

เมื่อครู่ยังหน้าซีดเทาอยู่ ตอนนี้ค่อยๆหน้าแดงขึ้น

และเมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดคำว่า“สมควรแล้ว” จู่ๆฉินซีก็สะบัดหลุดออกจากแขนตำรวจหญิงที่พยุงเธอทันที แล้วพุ่งเข้าหาผู้หญิงคนนั้น

เมื่อครู่เธอยังอยู่ในท่าทางที่อ่อนเพลียยืนไม่ตรงแบบนั้นอยู่เลยเพราะฉะนั้นความเปลี่ยนแปลงในชั่วขณะใครก็คิดไม่ถึง แม้แต่ตำรวจนายนั้นที่ยืนอยู่หลังเธอเมื่อกี๊ ที่ช่วยเธอลงจากดาดฟ้านั้นก็ดึงสติกลับมาไม่ได้

ทุกคนต่างไม่ทันระวังตัว ก็มองตาเหลือกไปที่ฉินซีซึ่งกำลังพุ่งตัวเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นที่ยังคงพูดอยู่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท