Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1182

ตอนที่ 1182

บทที่ 1182 ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

แต่ฉินซีไม่ได้สนใจสีหน้าความรู้สึกของอานหยัน ยังคงพูดเองเออเองต่อไปว่า “ฉันได้ยินคุณแม่พูดว่า ถ้าฉันตายไปแบบนี้แล้วใครจะจัดการเก็บศพให้พวกเรากัน อย่ารบกวนอานหยันของพวกเราอีกเลย”

อานหยันเจ็บปวดใจจนแทบทนไม่ไหว ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธออย่างไรดี จึงทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า “ไม่ได้รบกวนเลย จะรบกวนได้อย่างไรกัน…….”

ฉินซียังคงพูดต่อไป เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเธอ “ดังนั้น อย่างน้อยก่อนที่จะให้คุณแม่ฉันจากไปอย่างสงบ ฉันจะไม่ทำเรื่องโง่ๆหรอก เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

อานหยันกลับไม่ได้โล่งใจเพราะคำพูดของเธอ แต่กลับยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก

“แม่คะ……” ฉินซีประคองกล่องบรรจุเถ้ากระดูกในมือของมาอย่างรอบคอบ เอ่ยกับตัวเองเสียงเบา คล้ายกับว่ากำลังพูดกับเหยาหมิ่นอยู่อย่างไรอย่างนั้น “แม่วางใจเถอะค่ะ หนูจะไม่ใช้เรื่องของคุณแม่ไปรบกวนคนอื่นอีกแล้ว หนูจะตั้งใจส่งคุณแม่ไปเอง”

อานหยันมองใบหน้าด้านข้างของเธอแล้ว ในใจก็ถอนหายใจยาว

ให้เวลาเธออีกสักพักหนึ่ง ก็คงจะดีขึ้นล่ะมั้งนะ

เธอทำได้เพียงแค่อธิษฐานในใจแบบนี้

แต่ว่า……เวลาผ่านไปนานหลายวันแล้ว อาการของฉินซีกลับไม่ได้ดีขึ้น แต่มีแนวโน้มหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

แรกเริ่มนั้นเธอเพียงแค่พูดคุยกับกล่องบรรจุเถ้ากระดูกปีศาจ จากนั้นก็ค่อยๆพูดคุยกับอากาศ

จนกระทั่งคืนวันที่สามตอนกลางคืน

อานหยันทำกับข้าวไม่เป็น จึงออกไปซื้อกับข้าวกลับมาเล็กน้อย เพื่อดูแลสุขภาพของฉินซีในหลายวันมานี้

เธอยังคงทำเหมือนกับสองวันก่อนหน้านี้ เมื่อวางอุปกรณ์ทานอาหารสำหรับสองคนไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ก็เรียกฉินซีมานั่ง

ฉินซีมองไปรอบๆครั้งหนึ่งแล้ว ก็เอ่ยถามขึ้นมากะทันหันว่า “ทำไมถึงได้มีอุปกรณ์ทานอาหารเพียงแค่สองชุดล่ะ”

อานหยันคิ้วขมวดเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่ามีแค่พวกเราสองคนหรือ”

ฉินซีส่ายหน้า “อย่างนั้นคุณแม่ของฉันจะทำอย่างไร”

ขนอ่อนที่อยู่ตามแผ่นหลังของอานหยันลุกขึ้นมาตามปฏิกิริยาตอบสนองภายในไม่กี่วินาที

“ฉินซี…….” เธอเอ่ยอย่างยากลำบาก “คุณป้าเสียชีวิตไปแล้ว เธอ………”

ฉินซีกลับตัดบทอย่างรวดเร็ว “ห้องครัวของเธอไม่มีตะเกียบเหลือหรือ”

เธอพูด พลางเดินไปยังห้องครัว

อานหยันมองแผ่นหลังของเธอ และแอบตัดสินใจเงียบๆว่า พรุ่งนี้จะพาเธอไปพบกับจิตแพทย์สักหน่อย……

เช้าวันรุ่งขึ้น อานหยันพาฉินซีออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลจงซิน โดยใช้เหตุผลในการไปดูสุสาน

เมื่อคืนเธออดหลับอดนอน ค้นคว้าข้อมูลไปค่อนคืน ก็พบว่าโรงพยาบาลจงซิน แผนกจิตเวช มีชื่อคุณหมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในการรักษาอาการป่วยทางด้านนี้ จึงใช้วิธีการบางอย่างจนยื่นบัตรผู้ป่วยได้สำเร็จ

ฉินซีลงจากรถแล้ว ก็รู้สึกผิดปกติอยู่บ้าง จึงหันหน้ามามองอานหยัน “ไม่ใช่ว่าไปดูสุสานหรอกหรือ ทำไมถึงมาโรงพยาบาลล่ะ”

อานหยันพูดอ้างหลอกเธอไปเรื่อย “ฉันรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย จึงมาหาหมอน่ะ”

ฉินซีนั้นจิตใจไม่ค่อยปกติอยู่บ้าง จึงไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าและเดินตามอานหยันเข้าไปในโรงพยาบาล

อานหยันแอบโล่งใจเงียบๆ และรีบพาฉินซีไปพบกับคุณหมอที่นัดเอาไว้

คุณหมอดูแล้วเยาว์วัยกว่าในข้อมูลเล็กน้อย เขาเชิญให้ฉินซีนั่งลง พูดคุยสอบถามคำถามเธอไปหลายข้อ

ฉินซีคล้ายกับว่าสงสัยเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอานหยันต้องการมาหาหมอ แต่ทำไมถึงได้ถามคำถามเธอกัน

คุณหมอหันไปมองอานหยันครั้งหนึ่ง อานหยันก็เข้าใจความหมายในทันที จึงหันหน้าไปเอ่ยกับฉินซีว่า “เธอไปรอฉันที่หน้าประตูแปปนึงได้ไหม”

ฉินซีคิดเพียงแค่ว่า ในที่สุดอานหยันก็จะเริ่มตรวจอาการป่วยแล้ว จึงลุกขึ้นยืนและเดินออกไป โดยไม่ได้โต้แย้งอะไร

รอจนประตูปิดลงแล้ว อานหยันก็พูดคุยกับคุณหมอเกี่ยวกับอาการของฉินซีในหลายวันมานี้

คุณหมอก้มหน้าจดบันทึก พลางสอบถามอีกหลายอย่าง รอจนถามไปพอสมควรแล้ว ถึงได้ถอนหายใจ และเอ่ยออกมาประโยคหนึ่งว่า “อาการแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะได้รับความสะเทือนใจมากเกินไป ชั่วขณะหนึ่งจึงไม่สามารถยอมรับความจริงได้ครับ”

ในใจอานหยันก็เดาได้รางๆ ดังนั้นจึงรีบเอ่ยถามต่อว่า “อย่างนั้น แบบนี้จะต้องทำอย่างไร ถึงจะสามารถทำให้เธอกลับเป็นปกติได้คะ”

คุณหมอพลิกเอกสาร “ให้ผู้ป่วยพักที่โรงพยาบาลสักสองสามวัน เพื่อที่ผมจะได้สังเกตอาการอีกหน่อย ส่วนเรื่องที่ว่าจะรักษาอย่างไรนั้น…..ผมยังต้องดูสภาพร่างกายของผู้ป่วยก่อนครับ”

อานหยันประหลาดใจและลำบากใจอยู่บ้าง “แค่ให้เธอออกมาจากบ้านในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว จะให้เธออยู่ที่นี่…..อาจจะยากมากหน่อยนะคะ”

สีหน้าความรู้สึกของคุณหมอกลับสงบนิ่งมากกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้มาก เขาเพียงแค่เงยหน้ามองอานหยันครั้งหนึ่งอย่างเฉยเมย พลางเอ่ยปากว่า “ให้เธอเข้ามา ผมจะพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวสักครู่ก็ได้แล้วครับ”

แน่นอนว่าอานหยันรับปาก และออกไปเรียกฉินซีเข้ามา

ฉินซีไม่ทราบสาเหตุก็เดินตามเข้าไปในห้องตรวจ

อานหยันค่อยๆปิดประตูลง

แม้ว่าตัวอานหยันจะอยู่ในสำนักข่าวกรอง แต่ก็ไม่ได้คิดว่า คุณหมอมีปัญหาอะไร

จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะคิดไม่ถึงว่า คุณหมอคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นคุณหมอผู้มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนในองค์กรอีกด้วย

ที่จริงแล้ว การที่ฉินซีได้พบกับชายสวมชุดกาวน์สีขาวในภายหลัง

ไปจนถึงเรื่องที่เธอพาฉินซีมาพบกับคุณหมอท่านนี้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ในฐานะที่ฉินซีเป็นพนักงานหลักคนหนึ่งในองค์กร ขณะที่สติสัมปชัญญะของเธอเข้าสู่ช่วงที่ไม่มั่นคงขึ้นมาในหลายวันนี้ เธอก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดมากที่สุดจากองค์กรมาโดยตลอด

คนในองค์กรกลัวว่าภายใต้จิตใจที่ไม่มั่นคงของเธอ เธอจะเปิดเผยสถานการณ์ขององค์กรออกไป ดังนั้นจึงจับตามองเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในบ้านของอานหยันเป็นพิเศษ เมื่อพบว่าเธอมีความคิดที่จะพาฉินซีไปโรงพยาบาล ก็รีบส่งข้อมูลไปในทันที ค่อยๆชักนำเธอให้พาฉินซีมาส่งให้กับคุณหมอที่อยู่ในองค์กรในที่สุด

ดังนั้นอานหยันจึงไม่รู้ว่า ภายหลังจากที่เธอผลักประตูออกไปอีกครั้งในไม่มีกี่นาทีนั้น ฉินซีก็รับปากว่าจะพักอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างว่าง่าย เพราะคุณหมอเพิ่มการสะกดจิตกับเธอ

เดิมตอนนี้จิตใจของเธอก็ไม่ค่อยมั่นคง ดังนั้นการถูกสิ่งเร้าจากภายนอกกระทบก็เป็นเรื่องง่ายมาก

แม้ว่าอานหยันจะสับสนอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่รู้ว่า ทำไมฉินซีถึงได้เปลี่ยนความคิดกะทันหัน และก็ไม่เข้าใจว่าอาการของฉินซีในตอนนี้จำเป็นต้องพักดูอาการที่โรงพยาบาล แต่ถึงอย่างไร เธอก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ฟังคุณหมอ ให้ฉินซีพักอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการสักสองสามวัน

แน่นอนว่าการให้ฉินซีพักอยู่ที่โรงพยาบาลก็เป็นการจัดการขององค์กร

หากให้ฉินซีกลับไปที่บ้านของอานหยัน ก็จะหลุดพ้นจากการควบคุมดูแลขององค์กร พวกเขาไม่สามารถเสี่ยงอันตรายในจุดนี้ได้

ขั้นตอนการเข้าพักในโรงพยาบาลนั้น ดำเนินการเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากฝากฝังให้นางพยาบาลช่วยดูแลฉินซีแล้ว อานหยันออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับไปจัดการเก็บเสื้อผ้าของฉินซีมาเล็กน้อย

ขณะที่เธอออกจากโรงพยาบาลไปได้ไม่นาน ห้องพักผู้ป่วยของฉินซีก็มีคนเดินเข้ามาสองคน

………คนที่เดินนำอยู่ด้านหน้านั้น แน่นอนว่าไม่ใช่คนอื่น แต่คือจ้านเซินที่ฉินซีไม่ได้พบหน้านานแล้ว ส่วนคุณหมอที่รักษาอาการให้กับฉินซีคนนั้น กำลังพูดอะไรอยู่ด้านหลังเขา

เมื่อฉินซีเห็นเขาแล้วก็ขมวดคิ้วในทันที

แต่จ้านเซินกลับไม่ทันได้สังเกตเห็น ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของเธอ ในตอนนี้เขากำลังตั้งใจฟังผลการรายงานของคุณหมอ

“……..ตอนนี้ยืนยันได้ว่า เพราะไม่สามารถยอมรับความจริงได้ เพื่อปกป้องตัวเอง สมองจึงเกิดภาพหลอนขึ้นมาครับ อาการถัดไปนั้น ผมยังคงต้องสังเกตต่อไป”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท