Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1189

ตอนที่ 1189

บทที่ 1189 จะไม่ก้าวไปจนถึงขั้นนั้น

“ผมไม่มั่นใจว่าคุณจะสามารถเข้าใจข้อมูลข่าวสารนี้ได้ ภายใต้สภาวะทางจิตใจของคุณก่อนหน้านี้” คุณหมอตอบอย่างรวดเร็ว “ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้จิตใต้สำนึกของคุณเป็นตัวรับรู้ข่าวสารนี้”

ฉินซีไม่ได้เอ่ยคัดค้านอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้า

แน่นอนว่าเธอทราบว่าคุณหมอก็เป็นคนขององค์กรเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงแทบจะมีความเชื่อถือในตัวคุณหมอท่านนี้ตามสัญชาตญาณ เธอสามารถรู้สึกได้ว่า เขาไม่เหมือนกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในองค์กร ดังนั้นหลายวันมานี้ก็เกือบจะทำตามที่เขาพูดทั้งหมด

ดังนั้นเธอจึงเบนไปที่จ้านเซิน

“คุณบอกว่า ฉันเป็นอิสระแล้ว” หลายวันมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินซีสนทนากับจ้านเซิน ครั้งแรกที่ไม่ทำเป็นมองไม่เห็นเขา ไม่ทำเหมือนเขาเป็นอากาศ “ฉันต้องการคำอธิบายที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้”

จ้านเซินมองฉินซีอย่างลึกซึ้ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็เอ่ยขึ้นว่า “คุณได้ออกจากองค์กรไปชั่วคราว ไม่จำเป็นต้องรับภารกิจใดๆ และไม่ต้องอยู่ภายใต้การจับตามองและดูแลขององค์กรอีก”

ฉินซีกลับพบว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติได้อย่างรวดเร็ว“ชั่วคราวหรือ”

จ้านเซินไม่ได้วางแผนจะอธิบายค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้กับองค์กรหากว่าต้องการจากไปออกมาอย่างชัดเจน เขาเพียงแค่เอ่ยเสียงเรียบว่า “ไปจากองค์กร จำเป็นต้องลงนามในเอกสารที่ซับซ้อนมาก จำเป็นต้องปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับองค์กรของคุณ ขั้นตอนซับซ้อนมาก จำเป็นต้องให้คุณกลับสู่สภาพปกติแล้วถึงจะสามารถจากไปได้จริงๆ ตอนนี้ทำได้เพียงแค่จากไปชั่วคราวเท่านั้น”

ฉินซีฝืนยอมรับคำอธิบายของเขา เธอพยักหน้า “อย่างนั้นการไปจากองค์กรชั่วคราวต้องทำอะไรบ้าง ก็ให้รีบทำ”

เธอแทบจะเขียนคำว่าแทบทนรอไม่ไหวแล้วไว้บนใบหน้า สีหน้าของจ้านเซินยิ่งไม่น่ามองยิ่งกว่าเดิม แต่คำพูดเหล่านี้ก็เป็นตัวเองที่พูด การตัดสินใจนี้ก็เป็นตัวเองที่ตัดสินใจ เขาจึงยากที่จะเสียใจในภายหลัง เพียงแต่มองไปทางคุณหมออย่างแข็งๆ

คุณหมอรีบเอ่ยต่อว่า “การไปจากองค์กรชั่วคราวมีลำดับขั้นตอนที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ผมจำเป็นต้องปิดผนึกความทรงจำที่คุณมีต่อองค์กรชั่วคราว รอจนคุณสุขภาพแข็งแรงแล้ว ประเมินแล้วว่าสภาพจิตใจของคุณกลับมาเป็นปกติทั้งหมด ค่อยให้คุณลงนามในเอกสารที่เป็นสัญญาลับเพื่อไปจากองค์กร ทั้งยังต้องดำเนินการลบความทรงจำทั้งหมดของคุณทิ้งไปด้วย

เขาเขียนอธิบายเรื่องการลบความทรงจำลงไปจนเหมือนกับว่าไม่ใช่เรื่องน่าตึงเครียดอะไร ไม่มีอันตรายอะไรจากการกระทำแบบนั้นแม้แต่น้อย

เพราะว่าเขารู้ว่า ฉินซีจะไม่ได้เดินไปจนถึงก้าวนั้น

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยว่า ฉินซีก็ไม่ได้คิดมาก เมื่อฟังจบแล้วก็พยักหน้าให้กับคุณหมอ “ได้ อย่างนั้นก็เริ่มเลยเถอะ”

พูดจบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณหมอออกคำสั่ง เอนตัวลงนอนบนเก้าอี้ผ้าใบและหลับตาลงในทันที

ทว่าคุณหมอกลับไม่ได้เคลื่อนไหวในทันที แต่หันหน้าไปมองจ้านเซินครั้งหนึ่ง

หลังจากที่ได้รับการพยักหน้าจากบุคคลหลังแล้ว เขาถึงได้เดินไปทางฉินซี

“ครับ ตอนนี้ผ่อนคลายร่างกายของคุณ…….” เขาสูดลมหายใจลึก เริ่มทำงานของตัวเอง

……….

การปิดผนึกความทรงจำ พูดไม่ได้ว่าซับซ้อน แต่ก็จำเป็นต้องอาศัยสมาธิเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องใช้พลังงานมากมาย

ตอนฉินซีอายุสิบขวบก็รู้จักกับองค์กรแล้ว จนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว

ภายในช่วงเวลาสิบปีมานี้ แทบจะถูกผูกติดเอาไว้ด้วยกันกับองค์กร จะต้องปิดผนึกความทรงจำในหลายปีนี้ไปทีละเล็กทีละน้อย ถือได้ว่าเป็นการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง

อีกทั้ง สิ่งที่คุณหมอต้องทำ ก็ไม่ใช่แค่การปิดผนึกเอาไว้

สมองของคนเราเป็นอวัยวะที่น่าสนใจ ถ้าหากว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ปรากฏความทรงจำที่ว่างเปล่ามากมาย จะทำให้ตัวเองรู้สึกว่าผิดปกติ

ดังนั้นคุณหมอจึงจำเป็นต้องสร้างความทรงจำหลอกๆขึ้นมาบางส่วน อำพรางความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ เพื่อไม่ให้ฉินซีรู้สึกว่ามีจุดแปลกๆอะไร เมื่อตัวเองย้อนนึกถึงขึ้นมา

เธอจะรู้สึกกระทั่งว่า ชีวิตของตัวเองนั้นสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

ตอนที่ฉินซีเดินเข้าไปในห้องตรวจนั้นก็ไม่นับว่าเป็นตอนเช้า รอจนงานของคุณหมอสิ้นสุดลง เวลาก็เกือบจะเข้าสู่ช่วงเย็นแล้ว

คุณหมอและฉินซีล้วนไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน ส่วนจ้านเซินก็ไม่ได้ดื่มน้ำสักหยด นั่งอยู่ด้านข้างเงียบๆตั้งแต่ต้นจนจบ

สิ่งสุดท้ายที่ต้องจัดการก็คือ การเสียชีวิตของเหยาหมิ่น

เขาไม่อาจจะให้ฉินซีลืมการตายของเหยาหมิ่นได้ แต่กลับทำให้เธอลืมฟางฟางไปจนหมดสิ้น

กระทั่งตัวเขาเองก็รู้สึกว่าโหดร้ายอยู่บ้าง แต่ไม่อาจไม่ทำแบบนี้

“…….เรียบร้อยแล้วครับ” รอจนเขาจัดการความทรงจำในช่วงสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็เกือบจะรู้สึกว่าตัวเองล้มฟุบไปแล้ว

แต่เห็นได้ชัดว่าจ้านเซินไม่ได้มีทีท่าจะดูแลเอาใจใส่เขาเลย

เขาเพียงแค่ลุกขึ้นเงียบๆ สุดท้ายก็เปิดเปลือกตาที่หลับอยู่ของฉินซีขึ้นมาดู

ความรู้สึกของเธอผ่อนคลายมาก ไม่คลุมเครือ ไร้การใส่ใจ เหมือนกับไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เป็นการผ่อนคลายอย่างแท้จริง

………อาจจะเป็นเพราะว่าการจากไปนั้น สามารถทำให้เธอเป็นอิสระได้จริงๆ

จ้านเซินคิดในใจเงียบๆ

สุดท้ายแล้วเขาก็มองฉินซีอย่างลึกซึ้งครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัว ผลักประตูเดินออกไปจากห้องตรวจ

ตอนนี้ในความทรงจำของฉินซีไม่มีการคงอยู่ของเขา จู่ๆคนแปลกหน้าคนหนึ่งมาปรากฏตัวในห้องตรวจของตัวเองในตอนนี้ จะต้องทำให้เธอรู้สึกผิดปกติอย่างแน่นอน

จ้านเซินไม่กล้าเสี่ยงกับอันตรายที่ไม่จำเป็น

……

อานหยันมาถึงหน้าประตูห้องตรวจตามที่เวลาที่คุณหมอกำชับเอาไว้

เธอเดินไป พลางมองไปยังทิศทางของลิฟต์โดยสารไม่หยุด

เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่า….จะเห็นเพื่อนคนนั้นของคุณหมอที่เดินตามเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยในครั้งนั้นด้วย

ดูท่า จะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากสินะ ถึงได้มาปรากฏตัวในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง

แต่รอจนถึงตอนที่ประตูห้องตรวจเปิดออกมา เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปครุ่นคิดถึงปัญหานี้แล้ว

เธอไปรับฉินซีที่ดูแล้วจะอ่อนแออยู่บ้างมาจากมือของคุณหมอ ถามอย่างเป็นห่วงว่า “เธอรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”

ฉินซีคิ้วขมวด ลูบท้องไปมาอย่างน่าสงสาร “หิวแล้ว….”

เสียงของเธอฟังดูแล้วปกติกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย อย่างน้อยก็ไม่ได้สับสน อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเหมือนกับก่อนๆอีกแล้ว อานหยันเงยหน้ามองคุณหมอ ฝ่ายหลังก็ส่งสายตามั่นใจมาให้เธอ

อานหยันใจชื้นเล็กน้อย พาฉินซีกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย ทั้งสองคนทานอาหารอิ่มไปมื้อหนึ่ง เมื่อฉินซีกลับไปนอนบนเตียงอย่างรวดเร็วแล้ว

อานหยันจึงผลักประตูออกไป เมื่อหาคุณหมอพบแล้ว

คุณหมอก็ดูแล้วอ่อนล้าเป็นอย่างมาก แต่น้ำเสียงที่ใช้สนทนากับอานหยันก็ยังถือว่าดีอยู่

“ปมใหญ่ในใจของฉินซีคลี่คลายแล้วครับ” คุณหมอดื่มน้ำคำหนึ่ง “หลังจากนี้ก็ค่อยๆบำรุงรักษา และจะกลับมาสู่สภาพปกติในที่สุด”

อานหยันรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง “ตอนที่ทานข้าวเมื่อครู่นี้ ฉันเห็นว่าเธอปกติมากแล้วนะคะ แทบจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ยังจำเป็นต้องบำรุงอีกหรือคะ”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเทียบกับอาการเมื่อหลายวันก่อน ฉินซีไม่ได้พูดกับอากาศเลยแม้แต่ครั้งเดียวในเวลาทานข้าว และไม่ได้พูดเหลวไหลถึงชื่อฟางอะไรนั่นด้วย คล้ายกับว่าปล่อยวางภาพหลอนของตัวเองไปแล้ว

แต่คุณหมอกลับส่ายหน้า “ปัญหาของฉินซี ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น”

คิ้วของอานหยันขมวดเป็นปม จ้องมองไปที่คุณหมอเขม็ง

“สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เธอจินตนาการถึงคุณแม่ของเธอออกมา และยังมีคนอื่นๆมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ หลักๆก็เพราะว่าในใจเธอมีการต่อต้านเรื่องเรื่องหนึ่งเป็นอย่างมาก เธอต่อต้านไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องจินตนาการคนมาอยู่เป็นเพื่อนหลอกๆ” คุณหมอตอบช้าๆ “แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอมีเรื่องที่ต้องเผชิญหน้าเพียงแค่เรื่องเดียว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท