Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1204

ตอนที่ 1204

บทที่ 1204 ซีเรียสที่ไม่เคยมีมาก่อน

ไม่ใช่ว่าลู่เซิ่นไม่เคยถามน้องสาวมาก่อน

แต่เขามักจะชอบแกล้งหยอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก

แต่วันนี้ … น้ำเสียงของเขาจริงจัง

ลู่โยวโยวหน้าแดงก่ำ กระซิบเสียงเบา “ทำไมจู่ๆ ถึงถามล่ะ”

ลู่เซิ่นไม่ได้เร่งรัด เขาแค่รอคำตอบของเธอเงียบๆ

ลู่โยวโยวหนีไม่พ้นแล้ว เธอได้แค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าไปกระซิบข้างหูพี่ชาย “ไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น ก็แค่ชอบมาหลายปี จนมันเป็นแค่ความเคยชินน่ะ หลินยี่เขาหล่อ อ่อนโยน นิสัยก็เป็นผู้ใหญ่ แต่มันอาจจะเป็นแค่ความหวั่นไหว มันเป็นเรื่องปกตินี่”

เธอพูดถึงความหลัง

ลู่เซิ่นยิ้มมุมปาก

ตามที่เขาเดาไว้ไม่ผิด

เมื่อลู่โยวโยวเห็นหลินยี่เป็นครั้งแรก เธอถูกดึงดูดด้วยภาพลักษณ์และความเป็นผู้ใหญ่ของหลินยี่ สิ่งนี้ทำให้เธอใจเต้นได้

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อกัน ลู่โยวโยวเพียงชื่นชมในหน้าตาของหลินยี่ แต่แบบนี้ … ลู่เซิ่นเรียกมันว่าความหลงเท่านั้น

ลู่โยวโยวไม่รู้จักตัวตนหลินยี่ว่าเขา จริงๆแล้วเป็นคนแบบไหน และก็ไม่รู้ว่าจะพูดคุยอย่างไรกับหลิน ดังนั้นสิ่งที่เธอคิดว่าชอบทั้งหมด มันจึงขึ้นอยู่กับจินตนาการของเธอเอง

การที่เธอได้พบหลินยี่ เธอสร้างหลินยี่ในฝันขึ้นมาในใจ และตกหลุมรักชายคนที่เธอจินตนาการไปเอง

หากมีโอกาสได้พบปะกับหลินยี่ เขาเกรงว่าความฝันของเธอจะดับสูญไป

ลู่เซิ่นรู้ดีว่าหากเขาเกลี้ยกล่อมลู่โยวโยวให้ปล่อยหลินยี่ไป เธอคงไม่เชื่อฟังและรั้นที่จะปล่อยความรู้สึกที่มีค่าของเธอไป ดังนั้นมันจะส่งผลตรงกันข้าม สิ่งที่เขาต้องทำคือให้ ลู่โยวโยวเห็นเอง ว่าหลินยี่ไม่ใช่คนในภาพฝันที่เธอวาดเอาไว้

เมื่อลู่โยวโยวได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วหลินยี่เป็นคนอย่างไร

ลู่เซิ่นนึกถึงหลินยี่ที่นิสัยพื้นฐานไม่ได้แตกต่างจากเขาเท่าไหร่นัก มันค่อนข้างที่จะเรียกว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดีเสียด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าให้เธอได้เจอหลินยี่เวอร์ชั่นจริงเสียก่อน เธอจะต้องเสียใจอย่างแน่นอนกับความคิดเห็นที่เธอบอกเขาในวันนี้ว่า “อ่อนโยนและมั่นคง” ความชอบของเธอก็ไม่อาจมั่นคงอีกต่อไปเมื่อได้เห็นธาตุแท้

คิดถึงตรงนี้ เขาจึงถามกลับไปด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ในเมื่อมันเป็นความหวั่นไหว ทำไมถึงไม่ลองคุยกับเขาดูล่ะ?”

ลู่โยวโยวคว่ำริมฝีปากของเธอลง “คิดว่าฉันไม่อยากทำหรือไง? เขาอยู่ที่บ้านหลังนี้มาก็นานแล้ว ถ้าหากพี่ไม่มา ฉันก็เข้าไปห้องเขาไม่ได้ ผู้ช่วยน่ารำคาญของเขาก็ขวางไม่ให้ฉันเข้าไป โผล่ไปทีไรก็บอกว่าเขาต้องการพักผ่อนทุกที แต่ฉันก็เห็นเวินจิ้งเข้าไปได้ทุกที เขาปล่อยให้เธอเข้าไปไม่ห้ามด้วยซ้ำ หรือว่าผู้ช่วยคนนั้นเขาไม่พอใจฉัน เลยต้องการแยกจากพวกเราเหรอ?”

สีหน้าของลู่เซิ่นดูจนปัญญาแล้วจริงๆ “ลู่โยวโยว เธอคิดเองได้แล้วนะ ถ้าหากหลินยี่อยากเจอเธอ ผู้ช่วยเขาจะห้ามไหมละ? ”

สีหน้าของลู่โยวโยวแข็งค้างไปชั่วครู่ “เขาไม่อยากเจอฉันเหรอ?”

ขณะที่ลู่เซิ่นกำลังจะพยักหน้า เขาก็เริ่มเห็นแล้วว่าขอบตาของเธอเริ่มแดงก่ำ

เขาถอนหายใจในใจ แย่แล้ว! เขาคิด

เป็นอย่างที่คิด น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงมาเป็นสาย ก่อนที่เสียงแหลมปรี๊ดจะดังขึ้น

“ทำไม! มีสิทธิ์อะไรไม่อยากเจอฉัน! ฉันแย่ตรงไหน!”

ตอนเด็กๆลู่เซิ่นกลัวเสมอเวลาที่ลู่โยวโยวร้องไห้ เพราะทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้และต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

“ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี” น้ำเสียงของเขาทำดูทำอะไรไม่ถูก “แค่เขาไม่ชอบเธอเท่านั้นเอง”

ตาแดงของลู่โยวโยวมองจ้องไปที่ลู่เซิ่น “เขามีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ชอบฉันล่ะ? ฉันไม่คู่ควรกับเขาตรงไหน?”

ลู่เซิ่นส่ายหัว “ลู่โยวโยว รอให้เธอได้พบกับคนที่ทำให้เธอใจเต้นได้ เธอจะเข้าใจ ถ้าหากได้สัมผัสกับอาการใจเต้น คนนั้นที่เธอเจอ จะไม่สามารถบังคับให้เธอไปรับได้อีก”

ลู่เซิ่นแทบจะไม่ได้พูดด้วยอารมณ์เช่นนี้ เขาไม่ได้เป็นคนที่จะชอบพูดอะไรแนวนี้ ดังนั้นเมื่อเขาพูดเช่นนี้ลู่โยวโยวก็หยุดร้องไห้เธอมองตรงไปที่ลู่เซิ่น “พี่ยังชอบฉินซีอยู่ไหม?”

ลู่เซินไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะถามอย่างกะทันหัน “ทำไมถึงถาม”

ลู่โยวโยวยักไหล่อย่างไม่แยแส “ก็แค่รู้สึก… …ว่าพี่ดูอินมากไป ฉันรู้นะว่าครั้งแรกที่พี่หย่ากับฉินซีเป็นเพราะแม่บังคับ แต่พี่ตัดใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

ลู่เซิ่นไม่คิดมาก่อนว่าคนอย่างน้องสาวเขาจะสังเกตได้ แต่เขาไม่ชินกับการสารภาพความในใจให้ลู่โยวโยวฟัง เขาจึงทำเป็นยักไหล่ และตอบอย่างขอไปทีว่า “มั้ง”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่ควรแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้สิ” ลู่โยวโยวเดินวนไปรอบๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะวกกลับมาเรื่องเดิมอีก ลู่โยวโยวกำหมัดแน่น ก่อนพูดด้วยความโกรธ “พี่อายุก็ปูนนี้แล้วยังจะจับคลุมถุงชนอีกหรือไง? พี่ ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ถ้าไม่อยากแต่ง ฉันจะสนับสนุนพี่เอง!”

ใบหน้าของลู่โยวโยวเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา จึงไม่แปลกที่จะพูดขึ้นมาแบบนี้

แต่ใจของลู่เซิ่นก็ไม่ได้เต้นแต่อย่างใด ในโลกของเขา มันจะมีเรื่องง่ายได้อย่างไรกัน

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า” อารมณ์ของลู่เซิ่นไม่ได้เปลี่ยนแปลง “งานแต่งงานครั้งนี้ ฉันเป็นคนจัดการเอง ฉันรับปากไปแล้ว”

ลู่โยวโยวขมวดคิ้วด้วยความงง “พี่! ทำไมทำแบบนี้ล่ะ? ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ชอบพี่ พี่เองก็ยังไม่ลืมฉินซี ทำไมพวกพี่ถึงยังจะแต่งงานอยู่อีก”

ลู่เซิ่นยักไหล่ “เธอไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่ชอบเธอ นี่มันก็แฟร์แล้วนี่ มีอะไรไม่ดีตรงไหนล่ะ?”

ลู่โยวโยวถูกขัดโดยเขา เธอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทำได้แค่มองเขาอย่างโกรธๆ ก่อนจะพูดแย้งออกไป “แต่การแต่งงานมันต้องมีความรักไม่ใช่หรือไง?”

ลู่เซิ่นมองดูการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติของเธอ พลางยิ้มจาง ๆ

ลู่เหวยและสูหยิง ปกป้องเธอเหมือนเป็น อัญมณีล้ำค่าเลยเชียว

เธอจึงโตขึ้นแบบมีความคิดที่ยังคงสวยงามอยู่เช่นนี้

แต่ความไร้เดียงสานี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอก

อย่างน้อย … ลู่เซิ่นก็เต็มใจที่จะปกป้องความไร้เดียงสาของเธอ

เขาส่งยิ้มให้ลู่โยวโยวและพูดว่า “งั้นต่อไปนี้เธอก็ต้องหาความรักจริงๆของเธอให้ได้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท