Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1222

ตอนที่ 1222

บทที่ 1222 อย่างค่อยเป็นค่อยไป

จ้านเซินเองก็รับมาด้วยความเต็มใจ ปล่อยให้ฉินซีโค้งปากคว่ำทำหน้าบูดบึ้งอยู่คนเดียว

ราวกับว่าเธอเป็นคนที่ไม่จำเป็นต้องรู้สภาพร่างกายของตัวเองมากที่สุดอย่างไรอย่างนั้น

แต่โชคยังดีที่พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้หลีกเลี่ยงเธอ อีกทั้งวิเคราะห์ผลรายงานนั่นต่อหน้าเธอ เพราะอย่างนี้ต่อให้เธอจะดูหรือไม่ดูก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่

จากการวิเคราะห์ของคนสวมชุดกาวน์ระบุว่าสภาพร่างกายของเธอไม่มีอะไรผิดปกติ ทั้งยังมีความมั่นคงทางจิตใจมากอีกด้วย

“เป็นเรื่องปกติที่สภาพร่างกายจะไม่เป็นไปตามในชั่วขณะ” คนสวมชุดกาวน์ชี้ไปที่ตัวบ่งชี้ “จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ความอดทนของกล้ามเนื้อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เพราะอย่างนั้นแผนที่กำหนดไว้ก็ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

ฉินซีลอบเลิกคิ้วขึ้น

ที่เธอบอกกับจ้านเซินว่าตัวเองไม่สามารถทนต่อการฝึกที่หนักหน่วงได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความขี้เกียจของตัวเอง แต่เพราะอะไรคนในเสื้อกาวน์ถึง…พูดแบบนี้ล่ะ

จู่ๆเธอก็รู้สึกได้ว่าคนสวมชุดกาวน์นั้นเต็มไปด้วยปริศนา

แต่เห็นได้ชัดเจนว่าเวลานี้ไม่เหมาะที่จะสำรวจ เธอทำได้แค่ควบคุมสายตาของเธอให้หยุดนิ่งและตั้งใจฟังต่อไป

จ้านเซินพยักหน้า ดูเหมือนว่าจะทำตามคำแนะนำของคนสวมชุดกาวน์

ทั้งสองคนคุยกันอีกสองสามประโยค จ้านเซินก็เก็บรายงานของฉินซีเอาไว้ราวกับว่ามีแพลนจะกำหนดแผนใหม่

เขาไม่ใช่คนที่จะมัวพูดเรื่องสัพเพเหระ เมื่อได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วก็หันหลังจะเดินออกไป

เดินไปได้ครึ่งทาง เมื่อเห็นว่าฉินซีไม่ได้เดินตามไปด้วยจึงฝีเท้าพลางหันหน้ามามองที่เธอ

เมื่อฉินซีเห็นว่าตัวเองไม่มีโอกาสได้พูดคุยและอยู่กับคนในเสื้อกาวน์ตามลำพัง จึงทำได้แค่เพียงมองไปที่คนในเสื้อกาวน์ด้วยความสับสน จากนั้นก็หันตัวกลับเดินตามจ้านเซินไป

จ้านเซินที่เดินไปข้างหน้าสองสามก้าว รอให้ประตูด้านหลังปิดสนิทแล้วจึงเอ่ยปากถาม

“เธอสนใจเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ”

แน่นอนว่าฉินซีไม่ยอมรับ เพียงแต่ส่ายหัวไปอย่างนั้น “ฉันก็แค่นึกชื่อของเขาไม่ออก ก็เท่านั้น ”

จ้านเซินมองไปที่เธอด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ดูไม่ออกว่าเขาเชื่อคำพูดของเธอไหม เพราะเพียงแค่พยักหน้าอย่างขอไปที ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ฉินซีเดินตามการก้าวเท้าของเขา ไปข้างหน้า

จ้านเซินเดินตรงไปถึงประตูหอพักของฉินซี

“พักผ่อนซะนะ ตารางวันพรุ่งนี้ของเธอจะอิงตามแผนใหม่” สายตาที่หนักแน่นของจ้านเซิน ราวกับกำลังจับจ้องไปที่ฉินซี “ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะไม่ถูกทำโทษอีกนะ”

แต่ฉินซีกลับหัวเราะเยาะ “ฉันจะโดนลงโทษหรือไม่โดนลงโทษ มันก็ขึ้นอยู่กับนายไม่ใช่หรือไง”

เมื่อพูดจบ เธอไม่ได้สนใจสีหน้าของจ้านเซินผลักประตูและเดินเข้าไปอย่างไม่หันกลับมามองอีก

แต่จ้านเซินกลับเดินตามเข้ามา

ฉินซีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพลางหันหน้าไปหาเขา ทั้งๆที่ตั้งใจจะพูดดีๆด้วย แต่แล้วจ้านเซินก็กลับขึ้นเสียงและพูดขึ้นมาก่อน

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ยามที่ประตูของเธอจะออกอย่างเป็นทางการ”

ฉินซีขมวดคิ้ว

ตอนนี้ไม่ต้องการยามเฝ้าแล้วอย่างนั้นเหรอ

ช่วงเวลานี้…เร็วกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ตอนที่เธอถามจ้านเซินว่าทำไมต้องมีคนคอยจับจ้อง เขาตอบกลับอย่างหนักแน่นว่าเป็นเพราะเกรงว่าความลับจะรั่วไหล

เดิมที่ฉินซีคาดการณ์ไว้ว่า อย่างน้อยเขาคงรอให้ตัวเองถูกล้างสมองจนหมดถึงจะค่อยๆปลดยามเฝ้า

นี่ผ่านมาแค่วันเดียวเอง ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนใจล่ะ

ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นความสงสัยของฉินซี จ้านเซินพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพลางโบกรายงานของเธอที่อยู่ในมือ “เหตุผลหลักก็คือ…ตอนนี้ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเธอไม่มีความสามารถที่จะออกจากที่นี่”

มุมปากของฉินซีเหยียดจนเป็นเส้นตรง พูดขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า “ฉันอยากพักผ่อน”

เธอไล่เขาอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่แยแสและแน่นอนว่าจ้านเซินเองก็ดูออก เขายิ้มอย่างสุภาพพลางเอ่ยปาก “งั้นเธอก็พักผ่อนซะนะ”

เมื่อพูดจบเขาก็ออกจากห้องไป

ฉินซีขมวดคิ้ว สายตาจับจ้องไปที่บานประตูที่ปิดอยู่

…ถึงแม้เหตุผลที่จ้านเซินเพิ่งพูดเรื่องการยกเลิกการควบคุมเธอนั้นจะดูมีความน่าเชื่อถืออยู่บ้าง แต่ฉินซีกลับไม่คิดปักใจเชื่อ

สองสามวันที่ผ่านมา สภาพร่างกายของเธอแย่มากจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เธอเองยังสงสัยด้วยซ้ำว่าเวลานั้นตัวเองจะมีแรงมากพอที่จะออกไปจากทางเดินนี้ได้ไหม

แต่ในกรณีนั้น ที่ทางเข้าของตัวเองยังมียามเฝ้าอีกสองคน

ตอนนี้ตัวเองเป็นเช่นนี้แล้ว…แต่กลับไม่มีข้อกำหนดอะไรเลยงั้นเหรอ

ฉินซีรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

เบื้องหลังเรื่องนี้…เกรงว่าจ้านเซินจะมีแผนอื่นอีก

แต่ในเวลานี้ ฉินซีไม่มีกะจิตกะใจจะครุ่นคิดเลยจริงๆ

ถึงแม้เสี่ยวAจะดูเข้าใจสัดส่วนได้เป็นอย่างดี แต่การลงโทษในตอนเช้าก็ส่งผลกระทบต่อเธออยู่ไม่น้อย

เมื่อเทียบกับทางกายภาพแล้ว มันส่งผลต่อสภาพจิตใจมากกว่า

ความรู้สึกน่าอึดอัดแบบนั้น มันทำให้เธอนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนที่ตัวเธอพยายามฆ่าตัวตายที่ทะเลสาบหลังรีสอร์ทชิงหยวน

เธอไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร เพราะมันทำให้เธอนึกถึงความตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด หรือเพราะ…มันทำให้เธอคิดถึงลู่เซิ่น

แต่เหตุผลมันไม่สำคัญอีกต่อไป ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

และอยากจะนอนหลับสบายๆ

……

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินซีค่อยๆลืมตาขึ้น ในวินาทีต่อมาการตอบสนองก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม…ว่ามีคนอยู่ข้างกายเธอ

เธอลืมตาขึ้นทันที สายตาบังเอิญสอดประสานเข้ากับจ้านเซิน

จ้านเซินไม่รู้สึกเคอะเขินเลยแม้แต่น้อยที่เข้าไปในห้องของคนอื่นโดยไม่บอกกล่าว สายตาจับจ้องไปที่ฉินซีอย่างเงียบๆ มองเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยปาก “ตื่นแล้วก็ลุกสิ”

ฉินซีนั่งตัวตรงพลางขมวดคิ้ว เงยหน้ามองจ้านเซิน “ทำไมนายถึงชอบเข้ามาในห้องคนอื่นโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้กันนะ”

สายตาของจ้านเซินกลับยังคงสงบนิ่ง “ที่นี่ล้วนแต่เป็นที่ของฉัน ไม่มีห้องของใครอะไรทั้งนั้น จริงไหม”

ฉินซีเม้มปาก เธอเลิกต่อล้อต่อเถียงกับเขาและลุกไปล้างหน้าล้างตา

เมื่อเธอเดินออกมาก็พบกับอาหารเช้าง่ายๆสองสามอย่างวางอยู่บนโต๊ะกาแฟตัวเล็ก

“กินสิ” จ้านเซินเฉยคางเธอขึ้น “ฉันจะบอกเกี่ยวกับแพลนใหม่ให้เธอฟัง”

ฉินซีเข้าใจโดยทันทีว่านี่คือจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของเขา

เธอรู้ว่าในเวลานี้ควรจะทำตามคำสั่ง เธอนั่งลงและกินอาหารโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

จ้านเซินพอใจกับการว่านอนสอนง่ายของเธอ เขามองดูเธอหยิบช้อนขึ้นมาและกินอาหารพลางเอ่ยปากพูด “แผนการฝึกโดยคร่าวๆไม่แตกต่างกับแผนเดิมมากนัก โดยยึดถือตามคำแนะนำของหมอคือจะลดการฝึกร่างกายของเธอให้น้อยลง…”

ฉินซีฟังโดยที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เธอไม่ต้องการฝึกอบรม“หลักสูตร”พวกนี้เลยแม้แต่น้อย

เธอรู้ดีว่าก่อนหน้านี้ ตัวเองอาศัยความรักของฟางและเหยาหมิ่นที่มีต่อตนเองเป็นตัวหนุนไม่ให้หลักสูตรพวกนั้นเข้ามาควบคุมความคิดของตัวเอง

แต่เธอในตอนนี้ แม้ไม่มีความมั่นใจนี้ แต่ก็สามารถอยู่รอดมาได้

เธอไม่อยากเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก

แต่…หากต้องเรียนหลักสูตรพวกนั้นจริงๆ ตอนนี้เธอเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดผลอะไรตามมาหลังจากนี้

เมื่อนึกถึงการลงโทษแบบเมื่อวาน ไม่จำเป็นต้องให้จ้านเซินเน้นย้ำเลย เพราะตัวเธอเองก็ไม่อยากจะสัมผัสมันอีกครั้ง

อย่างนั้นแล้ว…ต้องทำอย่างไรถึงจะไม่ได้รับผลกระทบจากหลักสูตรนี้ล่ะ

ฉินซีที่กำลังคิดหาคำตอบของคำถามนี้อยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจ้านเซินตะโกนเรียกชื่อของตัวเองอยู่ “ฉินซี?”

ฉินซีเงยหน้าขึ้น มองไปที่เขา “ว่าไง”

จ้านเซินเม้มปาก แววตาของเขาดูจะไม่พอใจนักเมื่อเห็นท่าทางที่ดูเหม่อลอยของเธอ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท