Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1218

ตอนที่ 1218

บทที่ 1218 ระงับอารมณ์

ลู่เซิ่นรับสายในที่สุด

“ประธานลู่คะ” เสียงถังย่ายังคงไม่เปลี่ยน เสียงที่อ่อนหวานเต็มไปด้วยความเกรงใจ

เขาเคยคิดว่าน้ำเสียงของถังย่าฟังแล้วมืออาชีพมาก แต่ฟังตอนนี้ ในใจรู้สึกถึงแต่ความรังเกียจ

หลังจากที่ถังย่ามาคุยอวดอำนาจขององค์กร เขาไม่ได้ลงมือกับถังย่าไม่ใช่เพราะหวั่นกลัวองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเธอ ที่จริง เขารู้ดีทั้งหมด ให้ถังย่ามาพูดอย่างนั้น ไม่ต้องแปลกใจหลังจากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ให้ถังย่าเป็นคนส่งข่าว

สมัยโบราณมักจะมีคำกล่าวทูตถูกบั่นหัวเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ จ้านเซินส่งเธอมา แสดงให้เห็นว่า เขาไม่สนใจความเป็นความตายของถังย่าลู่เซิ่นจะจัดการอย่างไรก็ได้

แต่ลู่เซิ่นระงับอารมณ์ตนเอง

เขาอยากจะหาช่องทางระบายความคับแค้นของตนเอง เขาอยากจับถังย่ามากกว่าใคร ทรมานเธอ ระบายความโกรธและขมขื่นที่เขาหาฉินซีไม่เจอ ออกมาให้หมด

แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น

เพราะถังย่ายังมีประโยชน์

ถ้าไม่มีถังย่าการติดต่อของเขากับองค์กรก็จะถูกตัดขาด เขาจะยิ่งไม่มีเบาะแส ที่จะหาร่องรอยของฉินซีเจอ

ลู่เซิ่นในช่วงสามเดือนนี้ ไม่ได้ทำอะไรกับถังย่าเพียงแต่ส่งคนไปจับตาทุกการกระทำและความเคลื่อนไหวของเธออย่างใกล้ชิด ไปจนถึงดักฟังโทรศัพท์ของเธอ และแฮคคอมพิวเตอร์ของเธอ

ยังดีที่ เขาไม่ถึงกับคว้าน้ำเหลว

ถังย่ามักจะติดต่อกับคนที่ไม่แสดงเบอร์โทร บางครั้งคอมพิวเตอร์ก็จะได้รับอีเมล์ที่เพิ่มการเข้ารหัสแอดเดรส แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่สามารถถอดรหัสได้ ไม่มีทางตามหาอีเมล์แอดเดรสได้ แต่แทบจะยืนยันได้ คนนั้น จะต้องเป็นคนขององค์กร หรืออาจเป็นจ้านเซินเองก็เป็นได้

แม้ว่าจะรู้ข้อมูลพวกนี้…แต่ก็ไม่ช่วยให้เขาหาร่องรอยของฉินซีได้

บางครั้งเขาถึงกับสงสัยถังย่าน่าจะรู้ว่ามือถือและคอมพิวเตอร์ของเธอถูกแฮค ปล่อยข้อมูลบางอย่าง เพียงเพื่อทำให้เขาสับสน ให้ความหวังเขานิดหน่อย จากนั้นก็คอยดูเขาทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์ หัวเราะเยาะเขาลับหลัง

เขาจึงคิดไม่ถึงถังย่าจะโทรมาหาเขาในเวลานี้

แน่นอนว่าลู่เซิ่นไม่พินอบพิเทาถังย่าเพียงแต่ทำเสียงสั้นๆ ให้รู้ว่าเขากำลังฟัง

ถังย่าดูเหมือนจะไม่ใส่ใจที่ประมาทฉินซี เธอหัวเราะนิดหนึ่ง ถามขึ้น “จำที่ฉันบอกครั้งก่อนได้มั้ยคะ หลังจาก คุณฉินกลับมาปกติ ฉันจะให้เธอได้คุยกับคุณ จำได้มั้ยคะ”

ลู่เซิ่นเบิกตากว้างทันที

แน่นอนว่าเขาจำได้

แต่เขารู้สึกมาตลอดว่าคำพูดของถังย่าเป็นแค่คำลวง เป็นข้ออ้างไม่ให้เขาติดต่อกับฉินซีในตอนนั้น

หรือว่า เขาจะได้คุยกับฉินซีจริงๆ

ถังย่าเหมือนจะอ่านความคิดของลู่เซิ่นทะลุปรุโปร่ง ประโยคต่อไปประหนึ่งราดน้ำเย็นลงบนสมองของลู่เซิ่นที่กำลังดีใจ

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้ฉินซียังไม่ฟื้นฟูจนถึงระดับที่จะคุยกับโลกภายนอกได้โดยตรง”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว

ถังย่ากำลังทำอะไร แหย่เขาเล่นหรือไง

ความโกรธของเขาดูเหมือนถังย่าจะรับรู้ได้ทางโทรศัพท์ แต่เธอยังคงยิ้มไม่รีบร้อน พูดต่อไป “แต่ ฉันมีคลิปของฉินซี ไม่รู้ว่าคุณสนใจอยากดูมั้ย”

สีหน้าของลู่เซิ่นเคร่งขรึมยิ่งขึ้น

เขารู้ดีว่า คลิปสามารถตัดต่อได้ถังย่าคงไม่ได้ใจดีส่งข่าวฉินซีโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ เธอต้องมีเป้าหมายอะไรสักอย่างแน่

แต่ถ้าจะปฏิเสธ…ลู่เซิ่นไม่อาจปฏิเสธได้

เขาไม่ได้เจอหน้าฉินซีมาสามเดือนแล้ว

เขาต้องการข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับฉินซีใจจะขาด

ถึงแม้จะไม่ได้คุยกับฉินซี สักรูปภาพหนึ่ง เสียงและข้อความ ต่อให้รู้ว่าเป็นของปลอม รู้ว่าถังย่ามีแผนอะไร เขาก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ลง

ลู่เซิ่นรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเดินทางที่เดินในทะเลทรายมายาวนาน น้ำหมดนานแล้ว ปากแห้ง เดินสะเปะสะปะตาพร่าลาย คอแห้งผาก หิวน้ำจนแทบจะล้มลงเพราะขาดน้ำ

ถ้าในตอนนี้ เขาหิวน้ำแทบตาย มีคนยื่นน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง แม้จะรู้ว่าในน้ำนั้นมีพิษ เขาก็ไม่ลังเลที่จะดื่มมัน

ในเมื่อ…ดื่มยาพิษก็ดับกระหายได้เช่นกัน

เขาเงียบงันชั่วขณะหนึ่ง ก็ตอบว่า “ดู”

ถังย่าหัวเราะเบาๆ เหมือนจะคาดเดาคำตอบของเขาอยู่แล้ว จึงพูดขึ้น “ฉันจะส่งคลิปให้คุณ คุณคอยรับนะคะ แต่…คุณอาจจะดูแล้ว ในเมื่อ คอมพิวเตอร์ของฉัน คุณคอยจับตาดูอยู่”

พูดจบ เธอก็หัวเราะคิกๆ ไม่รอลู่เซิ่นพูดอะไร ก็วางสาย

สีหน้าของลู่เซิ่นยุ่งเหยิงกว่าเดิม

เขารู้ว่าถังย่ารู้ดีเรื่องที่มือถือและคอมพิวเตอร์ของเธอ ถูกเฝ้าติดตาม

หมายเลขและอีเมล์นั้น อาจจะเป็นของจริง เพราะมั่นใจว่าลู่เซิ่นสืบไม่ได้ หรืออาจเพราะ…เป็นแค่ระเบิดควัน

ลู่เซิ่นเกลียดที่สุดที่ตัวเองถูกปั่นหัวอย่างคนโง่ แต่ถังย่าบอกเขาชัดเจน เขาถูกเล่นเข้าแล้ว

ลู่เซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น

ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซี

ถ้าฉินซีไม่ได้อยู่ในมือพวกเขา ลู่เซิ่นคงไม่งอมืองอเท้าอย่างนี้

อย่างน้อยก็คงไม่เหมือนตอนนี้ ถูกคนบีบชะตาชีวิต ถูกข่มเหงตามใจ

ตอนที่ความโกรธของลู่เซิ่นสะสมขึ้นมาทีละน้อย มือถือของเขาสว่างขึ้น

ถังย่านั่นเองที่ส่งคลิปมา

ลู่เซิ่นแทบจะสลัดความคิดเมื่อครู่ออกไปทันที รีบเปิดคลิปดู

คลิปใช้เวลาโหลดช้าๆ อยู่สองสามวินาที เขาเห็นว่านิ้วมือของตัวเองสั่น

แค่ไม่กี่วินาที คลิปก็เริ่มเล่น

คลิปใช้มือถืออัด

ภาพในคลิปนั้น ฉินซีนั่งที่โซฟาตัวหนึ่ง มือประคองหนังสือ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือ

คนที่ถือมือถือถ่ายคลิปเรียกชื่อเธอ “ฉินซี!”

เธอค่อยเงยหน้าขึ้นช้าๆ

เธอมองมือถืออย่างงงๆ จากนั้นมองเหนือกล้องขึ้นไป คงจะมองคนที่ถ่ายคลิป ถามขึ้น “ถ่ายฉันทำไม”

คนถ่ายคลิปหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับถามเธอ “ตอนบ่ายออกทะเล ไปมั้ย”

ฉินซีคิดนิดนึง ส่ายหน้า “ไม่ไป วันนี้แดดแรง ออกไปเดี๋ยวไหม้แดด”

คนถ่ายคลิปทำเสียง “อ้อ” พูดกับเธอ “งั้นคุณอยากไปเมื่อไร ค่อยบอกผมละกัน”

ฉินซีพยักหน้า มองกล้องอีกครั้ง

คลิปเล่นถึงตรงนี้ก็หยุดไป

ลู่เซิ่นมองหน้าจอมือถือนิ่งอึ้ง

เขาไม่ได้เห็นฉินซีมานานมากแล้ว

เธอมองกล้องพอดี ทำให้ลู่เซิ่นมองเห็นเธอได้ชัดเจน

ไม่ได้เจอหน้ากันสามเดือนแล้ว ฉินซีดูผอมลง แต่สภาพจิตใจดีมาก อย่างน้อยสายตาก็สดใส

แต่เห็นชัด ความตั้งใจของถังย่าไม่ใช่ให้เขาเห็นฉิน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท