Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1219

ตอนที่ 1219

บทที่ 1219 เขาเป็นตัวอะไร

คนที่ถ่ายคลิป ฟังเสียงแล้ว เป็นผู้ชาย

ลู่เซิ่นแทบไม่ต้องเดา คนนั้นคือ จ้านเซินแน่นอน

เมื่อนึกถึงจุดนี้ ลู่เซิ่นรู้สึกว่าความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ปะทุขึ้นในใจ

เขาอยู่ที่นี่คิดถึงฉินซีแทบขาดใจ เพราะฉินซีเขาไม่กล้าทำอะไรมาก แต่ผู้ชายคนนั้นมายืนอยู่ต่อหน้าฉินซีง่ายๆ อยู่ตรงหน้าเธอ มองเห็นเธอ พูดกับเธอ กระทั่งสัมผัสเธอ…

ลู่เซิ่นหลับตา ห้ามตัวเองไม่ให้คิดต่อไป

รอจนอารมณ์กลับมาปกติแล้ว เขาค่อยกดเปิดคลิปอีกครั้ง

รอจนคลิปเล่นจบ เขาก็กดให้คลิปเล่นอีกครั้ง

คลิปสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งนาที เขาดูไปเกือบชั่วโมง

จนสุดท้าย เขาจดจำทุกคำพูดของฉินซีได้ทุกคำไม่ผิดเพี้ยน

คิ้วของเขายังคงขมวดแน่นเหมือนผูกโบว์

เพราะเขาเข้าใจเจตนาของถังย่าที่ส่งคลิปนี้ให้เขาแล้ว

ในคลิป จ้านเซินถามฉินซีอยากจะออกทะเลไหม ฉินซีปฏิเสธจ้านเซินก็พูดว่าอยากไปเมื่อไหร่ให้ไปหาเขาได้ตลอด ฉินซีรับคำ

นี่หมายความว่าอย่างไรกันนะ

คำตอบชัดเจนมากกว่าไปนี้ไม่มีแล้ว

ฉินซีมีอิสระ

อย่างน้อยเธอเลือกได้ว่าจะทำอะไร

ลู่เซิ่นรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง ถ้าหากต้องการออกจากเกาะนั้น ถ้าหากต้องการออกจากเกาะ ต้องนั่งเรือเท่านั้น

ฉินซีสามารถเลือกได้

เธอเลือกไม่ออกไปได้ และอยากออกจากเกาะเมื่อไรก็ไปหาจ้านเซินได้

ลู่เซิ่นรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว มือกำหมัดโดยไม่รู้สึกตัว

ถ้าหากฉินซีมีอิสระ อย่างนั้นที่เขาเป็นห่วงกังวลและทุ่มเทตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เขาเป็นตัวอะไร

เธอเหมือนกันกับถังย่าหรือไม่ มองดูเขาถูกองค์กรปั่นหัวอย่างไม่แยแส หรือถึงขั้นรวมหัวกับถังย่าเยาะเย้ยเขากันนะ

เมื่อลู่เซิ่นคิดถึงตรงนี้ ขนาดหายใจยังลำบาก

เขาโยนมือถือไปทางหนึ่ง ดื่มน้ำอึกใหญ่ สูดลมหายใจลึกหลายครั้ง ค่อยฝืนสงบสติอารมณ์ได้

ใจเย็น เขาพูดกับตัวเอง

อย่าลืมถังย่าเป็นคนส่งคลิปนี้มา

ถ้าหากเขาเกรี้ยวกราด ก็จะเข้าทางเธอ

เธออยากจะบอกเขาไม่ใช่หรือ ตอนนี้ฉินซีเป็นอิสระ แต่ไม่กลับมาหาเขา

ลู่เซิ่นก้มมองปฏิทินที่วางบนโต๊ะทำงาน เม้มปาก

เขาวงวันที่ของวันนี้ไว้

ไม่ใช่เพียงเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉินซีหายตัวไปสามเดือนเต็ม ยังเป็นเพราะ…เขาเคยสัญญากับหลินยี่

ถ้าหากสามเดือนแล้วยังคงไร้เงาของฉินซี เขาจะเชื่อคำแนะนำของหลินยี่ ปล่อยข่าวเรื่องที่เขาจะแต่งงานกับเวินจิ้ง

พิจารณาทุกอย่างในตอนนี้ เขาควรจะทำเช่นนี้จริงๆ

เขาไม่มีทางยอมปล่อยฉินซีไปง่ายๆ

ดังนั้น ถึงแม้ฉินซีจะเป็นอิสระ เขาใช้วิธีนิดหน่อย ล่อให้เธอปรากฏตัว ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้ศีลธรรมอะไร

ในเมื่อเธอ…หายตัวไปสามเดือนแล้ว

ลู่เซิ่นหลับตา ตัดสินใจแน่วแน่

……

ด้านฉินซี ไม่ระแคะระคายตอนนี้ลู่เซิ่นตัดสินใจทำอะไร

เธอนอนบนเตียง จ้องมองฝ้าเพดาน ในใจคำนวณเวลา

สามเดือนแล้ว

เธอครุ่นคิดในใจ

เธอมาอยู่ที่นี่ครบสามเดือนเต็มแล้ว

ในตอนแรกเธออยากจะไปจากลู่เซิ่น ต่อให้ไม่มี จ้านเซินเข้ามาวางแผน เธอก็ต้องย้ายออกแน่

แต่ทำไมนะ…ไม่ได้เจอเขาสามเดือน ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบๆ

เหมือนกับมีอาการตรอมใจ

ฉินซีถอนหายใจ พลิกตัว

สามเดือนที่เธออยู่ที่นี่ ทั้งกายและใจเหนื่อยล้า

สองวันแรก จ้านเซินกักบริเวณเธอในห้อง มาส่งข้าวส่งน้ำตามเวลา ให้เธอเคลื่อนไหวเฉพาะในห้องพัก มีคนเฝ้าหน้าประตูสองคนตลอดเวลา จนเธอไม่มีทางหนี

ในช่วงสองวัน นอกจากอาหารมื้อแรกที่เขามาส่งเอง ฉินซีก็ไม่เห็นเขาอีก

ฉินซีคิดว่าเขาใช้วิธีกักบริเวณเพื่อทำลายขวัญกำลังใจ เช้าวันที่สาม จู่ๆ จ้านเซินก็ปรากฏตัวที่ห้อง

ตอนนั้นฟ้ายังไม่สว่าง เขาแต่งตัวเต็มยศแล้ว

เขาเรียกฉินซีตื่นโดยไม่เกรงใจ ออกคำสั่ง “ตื่นมาอาบน้ำ เตรียมไปฝึก”

ฉินซีสะลึมสะลือตื่นนอน อาบน้ำเสร็จแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า จ้านเซินเคยพูด…เธอต้องรับการฝึกใหม่อีกครั้ง

ฉินซีนึกถึงคลาสที่ตัวเองต้องเจอ เซลล์ทั่วร่างกายของเธอพากันปฏิเสธ

แต่ตอนนี้เธอไม่มีอิสระ ปฏิเสธไปก็ไม่ได้ผล

จ้านเซินอยู่ข้างๆ มองอย่างบังคับให้เธอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็จับเธอส่งไปหาอาจารย์

ส่วนที่ต่างกับคลาสเมื่อก่อนก็ตรงที่ เธอรับการฝึกครั้งนี้ แบบตัวต่อตัว

ห้องเล็กมาก ไม่มีหน้าต่าง ไฟส่องสว่างขาวซีด

อาจารย์ที่มาสอนไม่ใช่คนที่เธอเคยเห็นหน้า แต่เนื้อหาก็แทบไม่มีอะไรต่างกัน

ทำไมพวกเขาต้องเข้าร่วมกับองค์กร ทำไมต้องสร้างประสิทธิภาพให้องค์กร

คำพูดพวกนี้สำหรับฉินซีเมื่อก่อนนี้ เป็นเรื่องสดใหม่ ตอนนั้นเธอตั้งใจเรียน จดบันทึก

แต่สำหรับฉินซีในวันนี้ เป็นเพียงคำพูดที่มีรูปแบบซ้ำๆ ไม่เข้าไปในหัวของเธอสักนิด

จังหวะที่อาจารย์ไม่เห็น ฉินซีหาว ประกอบกับต้องตื่นเช้ามากจึงรู้สึกเหนื่อยล้า เธอค่อยๆ ผล็อยหลับไป

ไม่รู้หลับไปนานเท่าไร เป็นจ้านเซินนั่นเองที่ปลุกเธอให้ตื่น

“คุณยืนดูเธอหลับหรือไง” ฉินซีสะลึมสะลือเงยหน้า เห็นแต่สีหน้าจ้านเซินตึงเครียด กับอาจารย์ที่ยืนตัวสั่นอยู่มุมหนึ่ง

“ฉัน…ระดับของเธอสูงกว่าฉัน…จึงไม่กล้าเรียก…” น้ำเสียงของอาจารย์คนนั้นสั่น ก้มหัวงุด ไม่กล้าเงยหน้า

ฉินซีขมวดคิ้ว แย้งขึ้น “ฉันเป็นคนหลับ คุณดุเธอทำไม”

จ้านเซินค่อยๆ หันมามองเธอ “คุณก็ต้องถูกลงโทษด้วย ไม่ต้องรีบพูดแทนคนอื่น”

ฉินซียักไหล่ไม่แยแส “อ้อ”

จ้านเซินเห็นเธอทำท่าดื้อดึง เหมือนหัวหน้าชั้นมองเด็กไม่เชื่อฟัง สีหน้าผิดหวัง

แต่ยังดีเขาไม่ได้ทำให้ครูคนนั้นลำบากอะไร เพียงแต่เหลือบมองฉินซี กำชับเสียงต่ำ “ไป”

จากนั้นไม่หยุดสักวินาที ก้าวเท้าออกไปนอกห้อง

ต่อมาฉินซีถึงรู้ ตั้งแต่วันนั้น จ้านเซินก็สั่งครูทุกคน ตอนที่สอนเธอ ไม่ต้องสนใจระดับของเธอ คลาสเรียนหลังจากนั้น ครูไม่หดหัวเหมือนครูคนแรกอีก

แต่เวลานี้เธอยังคงไม่รู้

เธอเพียงแต่เดินตามหลังจ้านเซินออกไปนอกห้องเล็ก

เธอใจลอยและหาวอีก เกือบชนเข้ากับจ้านเซินที่หยุดเดินกะทันหัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท