Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1225

ตอนที่ 1225

บทที่ 1225 ไม่มีหลักฐานแน่ชัด

ฉินซีระวังตัวตามสัญชาตญาณ

คนสวมชุดกาวน์ดูท่าจะไม่แปลกใจเลยที่ตัวเองถูกเรียกตัวมาที่นี่ เขามองไปรอบๆและพยักหน้าให้จ้านเซินอย่างสุภาพเพื่อเป็นการทักทาย “คุณกลับมาแล้วเหรอ”

การแสดงออกของจ้านเซินไม่ได้เฉยเมยอย่างที่เขาเป็น

“คุณหมอ…” เขาลากเสียงสองคำนี้และหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ “เอาแต่เรียกว่าคุณหมอ จนเกือบจะลืมไปแล้วว่านายนามสกุลเหยา”

เมื่อฉินซีได้ยินนามสกุลนี้ก็รู้สึกวูบขึ้นในใจ เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่คนสวมชุดกาวน์

นามสกุลเหยา?นามสกุลของเขาคือเหยาอย่างนั้นเหรอ

บังเอิญหรือเปล่า แต่ว่า…มีเรื่องบังเอิญแบบนี้อยู่จริงๆงั้นเหรอ

คนสวมชุดกาวน์ยังคงไม่ไหวติงพลางพูดขึ้นอย่างยิ้มๆ “มีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมจู่ๆก็พูดถึงนามสกุลผม หรือว่านี่จะเกี่ยวข้องกับการกลับมาก่อนกำหนดของคุณ”

คิ้วของฉินซีขมวดขึ้นเป็นปม

…นี่จ้านเซินกลับมาก่อนกำหนดงั้นเหรอ

ทำไมต้องกลับก่อนกำหนดด้วย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ฉินซีไม่ใช่คนโง่ เธอสังเกตท่าทางของจ้านเซินอย่างละเอียดที่ดูจะเหนื่อยจากการเดินทาง คาดว่าทันทีที่มาถึงก็ตรงมาหาเธอเลย

เพราะอย่างนั้น เหตุผลที่เขากลับมาก่อนกำหนด ต้องเป็นเพราะตัวเธอแน่นอน

ฉินซีไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองไปหาคนสวมชุดกาวน์เมื่อวานนี้

…หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้แล้ว

แต่เมื่อคืน คนสวมชุดกาวน์แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยนี่หน่า!

ฉินซีค่อยๆนึกถึงบทสนทนาระหว่างตัวเองกับคนสวมชุดกาวน์โดยละเอียด แทบจะไม่มีคำพูดไหนที่เป็นสาระสำคัญเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ทำให้จ้านเซินกลัวถึงขนาดต้องกลับมาด้วยตัวเองเลย

ราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นความคิดของฉินซีได้อย่างไรอย่างนั้น จ้านเซินไม่ได้ตอบคำถามของคนสวมชุดกาวน์ แต่กลับหันไปหาฉินซี

“ยังไม่ได้แนะนำให้เธอเลย คนๆนี้คือลูกพี่ลูกน้องของเธอ เหยาจ้าว”

ฉินซีนิ่งไปชั่วขณะ

จ้านเซินพูดว่าอะไรนะ

ลูกพี่ลูกน้องงั้นเหรอ

ลูกพี่ลูกน้องใครนะ

ฉินซีรู้สึกอย่างกับว่าสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้รับในสิ่งที่จ้านเซินพูด

“ตระกูลเหยาหมดอำนาจหลังจากที่เธอเกิดได้ไม่นาน” น้ำเสียงของจ้านเซินฟังดูเรียบเฉย “ก่อนหน้านี้ ผู้นำตระกูลเหยาก็คือคุณลุงของเธอ เขาทนต่อภาระหน้าที่ไม่ไหวจึงกระโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่ลูกชายคนเดียวที่เขาทิ้งไว้นั้นเป็นคนอัจฉริยะ”

เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ ก็หันไปมองที่คนสวมเสื้อกาวน์

ท่าทางของคนสวมชุดกาวน์ หรือเหยาจ้าว กลับดูเฉยเมยมาก อย่างกับว่าเรื่องที่จ้านเซินกำลังพูดอยู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย

“อัจฉริยะคนนี้ข้ามระดับอย่างก้าวกระโดด เข้าเรียนที่โรงเรียนแพทย์ จากนั้นก็ถูกเรียกตัวให้เข้ามาอยู่ในองค์กร ที่ฉันพูด ถูกใช่ไหม เหยาจ้าว” จ้านเซินมองไปที่เหยาจ้าวด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง

เหยาจ้าวพยักหน้ารับพลางยิ้มอย่างสุขุม “คุณรู้เรื่องผมค่อนข้างลึกซึ้งเลยนะครับ”

จ้านเซินพูดไปหัวเราะไป “แต่นายอาจจะไม่รู้ ว่านายได้รับทุนจากใครในการศึกษาทั้งหมดของนาย”

เหยาจ้าวหัวเราะเยาะ “ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าเป็นพวกคุณ คุณคิดจริงๆเหรอ…ว่าผมจะยอมตกลงเข้าร่วมองค์กรนี่”

จ้านเซินเลิกคิ้วขึ้น “หืม?นั่นมันเกินความคาดหมายของฉันไปหน่อยนะ”

ฉินซีที่ยืนฟังอยู่ก็ค่อยๆขมวดคิ้ว

จากข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้…หลังจากที่ตระกูลเหยาล้มละลาย เหยาจ้าวต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก เขาได้รับทุนขององค์กรจนเรียนจบมหาวิทยาลัย จากนั้นก็เข้าร่วมองค์กรเพื่อเป็นการตอบแทน

แต่ว่า…เดิมทีองค์กรต้องการเป็นผู้ให้ทุนโดยไม่เปิดเผยตัวตน และใช้ประโยชน์จากสถานะนี้ในภายหลัง แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกเขามองสถานะออกจนทะลุปรุโปร่งอย่างนี้

เบื้องหลังของคนสวมชุดกาวน์ ต้องมีเรื่องราวอะไรบางอย่าง…

ฉินซีอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เหยาจ้าว

แต่กลับบังเอิญสบตาเข้ากับจ้านเซิน

จ้านเซินยิ้มเยาะ เขาหยิบเครื่องบันทึกเสียงออกจากอ้อมแขนและเคาะมันลงบนโต๊ะกาแฟ สายตามองที่ฉินซีพลางพูดอย่างเยือกเย็น “เมื่อรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอแล้ว ทีนี้ก็เข้าใจเงื่อนงำความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือเธอแล้วใช่ไหม”

ฉินซีมองไปที่เครื่องบันทึกเสียง เพียงชั่วขณะที่ความคิดมากมายผลุดเข้ามาในหัวเธอ ในที่สุดก็กลายเป็นประโยคว่า ไม่มีทางยอมรับได้

เธอมีลางสังหรณ์ว่าถ้าหากบอกว่าตัวเองต้องการขอให้เหยาจ้าวช่วยพาเธอออกไปจากที่นี่ สำหรับเธอคงไม่เกิดเรื่องอะไรมากนัก แต่กลับเหยาจ้าว…เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่

ฉินซียิ้มอย่างเย็นชา “นายต้องการจะพูดอะไร”

จ้านเซินขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทีที่ต่อให้ยอมตายก็ไม่ยอมปริปากของเธอ เขายกเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาจากนั้นก็กดปุ่มเล่นเสียง

ฉินซีรู้แล้วว่า…ที่ห้องตรวจมีอุปกรณ์ดักฟังจริงๆ

เธอกำลังฟังเสียงของตัวเองที่มาจากเครื่องอัดเสียง

“คุณรู้ว่าทำไมฉันถึงมาหาคุณ”

“ฉันไม่รู้”

“คุณรู้วิธีที่จะไปจากที่นี่”

ทันทีที่บทสนทนานี้ดังขึ้น ฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เป็นเพราะความประมาทของตัวเอง แต่คาดไม่ถึงว่า…จะไม่ได้ควบคุมระดับความดังของเสียง

ในขณะที่เธอกำลังคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทันใดนั้นเครื่องบันทึกก็เงียบลง ได้ยินเพียงเสียงของผู้คนเบาๆ แต่ไม่ได้ยินสิ่งที่กำลังพูดอยู่

ฉินซีนึกขึ้นได้ทันทีว่านี่เป็นบทสนทนาของทั้งสองคน ตอนที่เหยาจ้าวเข้ามาใกล้ตัวเองมากๆ

ท่าทางของจ้านเซินในเวลานี้ก็เปลี่ยนไปไม่สู้ดีนัก เขาบังคับหยุดเครื่องอัดเสียง มองไปที่เหยาจ้าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “พวกเธอสองคนคุยอะไรกัน”

เหยาจ้าวที่ดูสงบนิ่งมาโดยตลอด ขณะนี้กำลังถูกจ้านเซินซักไซ้ เขาเพียงแค่พูดพลางยักไหล่ “ก็แค่ตรวจร่างกายเท่านั้น”

แน่นอนว่าจ้านเซินไม่เชื่อคำพูดของเขา พลางยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันแนะนำให้นายรีบพูดให้เคลียร์จะดีกว่า เพราะท้ายที่สุด…แค่ตอนนี้ฉันรีบ ไม่มีเวลามาขยายเสียงที่อัดไว้ เกิดฉันมีเวลาแล้วรู้หมดทุกอย่างว่าพวกนายพูดอะไรกัน ถ้าจะรอไปอธิบายตอนนั้น…เกรงว่ามันจะสายเกินไป”

ท่าทีของเหยาจ้าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “งั้นคุณก็ไปขยายเอาเองเหอะ ผมจำไม่ได้จริงๆว่าพูดอะไรที่ไม่สำคัญออกไปบ้าง”

สีหน้าของจ้านเซินดูไม่สู้ดีนัก เขาหันหน้าไปหาฉินซี “แล้วเธอล่ะ คิดจะพูดอะไรหน่อยไหม”

สมองของฉินซีทำงานอย่างรวดเร็ว

สรุปก็คือ ตอนนี้จ้านเซินไม่รู้อะไรเลย เขาเพียงแค่มีเครื่องอัดเสียงและได้ยินประโยคที่ตัวเองถามว่า “คุณรู้วิธีไปจากที่นี่” ก็เลยสงสัยว่าเธอจะยืมมือของเหยาจ้าวหนีไปจากที่นี่

แต่เขาไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด

เพียงแค่เชื่อมโยงความคิดตัวเองกับประโยคนี้ก็เท่านั้น…

ขณะที่ฉินซีคิดได้เช่นนี้ เธอกระแอมในลำคอ

“เมื่อวานฉันรู้สึกไม่สบายจริงๆ ประเด็นนี้ มีหลายคนสามารถยืนยันกับคุณได้” เธอมองไปที่จ้านเซินพลางเอ่ยปาก

ท่าทางของจ้านเซินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขามองไปที่เธออย่างนิ่งเฉย

สาเหตุที่ฉินซีกล้าพูดเช่นนี้เป็นเพราะเมื่อวาน เธอจงใจแสดงออกว่าไม่สบายต่อหน้าผู้คนมากมายในโรงอาหาร

เมื่อดูจากท่าทีของจ้านเซิน ก็คาดว่าเขาน่าจะตรวจสอบมาก่อนหน้านี้แล้ว

“ฉันกลับไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้กินอะไร แต่หลังจากกลับไปได้สักพักก็รู้สึกไม่ค่อยดี เลยไปหาคุณหมอเหยา” เมื่อฉินซีพูดถึงตรงนี้ เธอก็เหลือบไปมองที่เหยาจ้าวอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันปวดหัวหนักมาก เลยพูดอะไรไร้สาระออกไป ถ้านายไม่อัดเสียงไว้ ฉันก็จำที่ตัวเองพูดไม่ได้หรอก”

สายตาและคำที่เธอพูดนั้นดูเป็นธรรมชาติมาก จ้านเซินพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ “เธอไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา?ฉินซี เธอคิดว่าฉันเป็นไอโง่รึไง ยังจะกล้าใช้ข้ออ้างแบบนี้อยู่อีกงั้นเหรอ!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท