Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1229

ตอนที่ 1229

บทที่ 1229 เธอกำลังวางเดิมพัน

ดูเหมือนว่าเหยาจ้าวจะแปลกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย

ฉินซียืนอยู่ด้านหน้ากล้องวงจรปิด เธอชี้ไปที่เหยาจ้าวพลางตะโกนลั่น “เขาจะหนี!”

เธอรู้ว่ากล้องวงจรปิดทั้งหมดในฐานปฏิบัติการนั้นกำลังถูกเฝ้าดูแบบเรียลไทม์ ตัวเองตะโกนลั่นแบบนี้ คาดว่าเดี๋ยวก็คงมีคนสังเกตเห็นในไม่ช้า

ฉินซีกัดริมฝีปากของเธอ

และเธอกำลังวางเดิมพัน

หากเหยาจ้าวต้องการจะไปจริงๆ เขายังใจดีพอที่จะยื่นมือมาให้กับเธอ แต่ตัวเองกลับหักหลังเขา…

แต่เธอเอี้ยวตัวหันกลับมากลับพบว่าเหยาจ้าวยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่เพียงแต่ไม่คิดจะหนีแล้ว สีหน้ายังคงเรียบเฉย ดูเหมือนว่าในแววตาจะเผยให้เห็น…ความชื่นชมอยู่ลึกๆ

ในใจของฉินซีสงบลงทันที

…เป็นไปอย่างที่คิด นี่คือการทดสอบตัวเธอเอง

แต่ก่อนที่เธอจะละสายตา ก็เห็นร่างหนึ่งเดินออกมาจากมุมห้องอย่างช้าๆ

…คือจ้านเซินที่ไม่ได้พบกันนาน

สีหน้าของจ้านเซินเผยให้เห็นถึงความพึงพอใจ เขาเดินมายังด้านข้างของฉินซี มองสำรวจตั้งแต่บนลงล่าง จู่ๆก็เอื้อมมือมาลูบที่บ่าของเธอพลางพูดขึ้น “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องกลับมา”

ฉินซีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้สีหน้าของตัวเองดูแปลกไป แต่สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มไปเท่านั้น

แต่อาจเพราะจ้านเซินกำลังอารมณ์ดีอยู่ จึงไม่ทันสังเกตเรื่องนี้ เขาหันไปพูดกับเหยาจ้าว “ดูเหมือนว่าหลักสูตรที่นี่ของคุณหมอเหยาและฉันซีจะจบลงแล้วล่ะ”

ในใจของฉินซีกำลังมีความสุข เธอพยายามลอบมองเหยาจ้าวโดยไม่ให้ใครรู้

สีหน้าของเหยาจ้าวไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แต่ไม่รู้ว่าทำไมฉินซีกลับเห็นว่าเขาดูจะมีความสุขอยู่ลึกๆ

พวกเขาถูกปิดตาเหมือนตอนที่มาที่นี่ ใช้เวลาเดินทางนานกว่าจะได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง

ไม่พบร่องรอยของเหยาจ้าว ส่วนฉินซีก็มาถึงด้านหน้าหอพักของตัวเอง

เธอมองไปรอบๆหอพักของตัวเอง พลางคิดในใจ นี่อาจจะเป็นหนึ่งในวิธีของจ้านเซิน เพราะเมื่อได้เจอหอพักใต้ดินของฐานปฏิบัติการที่ไม่มีอะไรเลย และได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง แม้จะเป็นเธอก็ตาม ยังรู้สึกได้จากก้นบึ้งของหัวใจว่าหอพักนี้มันดีจริงๆ

แต่ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ จู่ๆเสียงก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ

“ทำไมมัวแต่ดูเฉยๆไม่เข้าไปล่ะ”

ท่าทีของฉินซีหยุดชะงักก่อนจะหันหน้าไปมองคนที่พูด

จ้านเซินค่อยๆเดินตรงมา

ฉินซีปรับสีหน้าทันที เพื่อให้ตัวเองดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น “แค่แวบแรกที่เห็นห้องตัวเอง รู้สึกว่ามันไม่เหมาะก็เท่านั้น”

เป็นเวลานานแล้วที่เธอพูดกับจ้านเซินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเช่นนี้ ดังนั้นสีหน้าของเขาจึงดูสบายๆ

เขาเดินไปที่ข้างกายของฉินซีและมองลงมาที่เธอ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง“ในที่สุดเธอก็กลับมา”

ฉินซียิ้ม ตอบกลับเสียงเรียบ “ใช่แล้ว ในที่สุดที่ฉันก็กลับมา”

การที่เธอหลอกจ้านเซินไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ในทางตรงกันข้าม เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องโกหกจ้านเซิน

แต่เธอก็รู้เช่นเดียวกัน ว่าตัวเองระวังให้มากกว่านี้ถึงจะไม่เผยพิรุธอะไรออกมา

การออกจากฐานปฏิบัติการได้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องทำก็คือการไปจากที่นี่

จ้านเซินยังมีธุระต่อ เขาเข้ามาคุยกับฉินซีสองสามประโยคแล้วค่อยไป จากนั้นเธอเข้ามาที่ห้องของตัวเอง ทิ้งตัวลงบนโซฟา ค่อยๆหลับตาลง หลังจากต้องอยู่กับความตึงเครียดในฐานปฏิบัติการมาตลอดหนึ่งเดือน ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายเสียที

เธอเพิ่งมารู้ในภายหลังว่าจ้านเซินได้ตัดสินใจแล้วว่าถ้าหากฐานปฏิบัติการไม่สามารถเปลี่ยนเธอได้ เขาจะใช้ไฟฟ้าช็อตในการบำบัดเธอ เพื่อทำให้เธออ่อนแอและเกลียดชีวิตโลกภายนอกของตัวเองหรือความรู้สึกที่มีต่อลู่เซิ่น

โชคดีที่คำเตือนของ เหยาจ้าวทำให้เธอไม่สามารถไปจากที่นั่นได้

แต่ชีวิตแบบนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว

ตลอดหนึ่งเดือน แม้แต่การนอนหลับเธอยังอกสั่นขวัญแขวน เพราะที่ห้องนอนยังติดตั้งกล้องวงจรปิด เธอกลัวว่าหลังจากที่เธอหลับแล้วจะฝัน หากพูดความฝันที่ไม่ควรพูดออกมา ความพยายามก่อนหน้านี้ที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าที่จะนอนหลับอย่างผ่อนคลาย ทุกคืนเธอทำได้แค่พักสายตาเพียงชั่วครู่เท่านั้น

ตอนนี้ได้กลับมายังห้องที่ไม่มีระบบควบคุมแล้ว ความเหนื่อยล้าจึงเข้าห่อหุ้มเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นับจากวันที่ออกจากรีสอร์ทชิงหยวน เธออยู่บนเกาะที่โดดเดี่ยวแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่งแล้ว

จ้านเซินไม่อนุญาตให้เธอติดต่อกับโลกภายนอก เพราะอย่างนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าที่โลกภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ลู่เซิ่นจะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เขาสบายดีไหม

เขาจะกระวนกระวายที่หาตัวเธอไม่เจอบ้างหรือเปล่า หรือว่าจะลืมเรื่องการหายตัวไปของเธอและโฟกัสไปที่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคู่หมั้นที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่านะ

คิ้วของฉินซีค่อยๆขมวดขึ้นเป็นปม ที่ฝ่ามือเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

หลักสูตรที่ฐานใต้ดินล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในเวลานี้

ในห้องที่ไม่มีบุคคลที่สองนี้ ในที่สุดฉินซีก็ได้เป็นตัวเอง เธอไม่สามารถห้ามตัวเองได้ นึกถึงความรู้สึกที่ถูกบีบบังคับให้ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน

หลักสูตรไร้สาระพวกนั้นจะทำให้ลืมความรู้สึกที่แท้จริงได้อย่างไร

ความรู้สึกที่มีต่อเหยาหมิ่นเป็นเช่นนี้ ตอนนี้ความรู้สึกที่มีให้แก่ลู่เซ่น…ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

ฉินซีเกิดความเชื่อที่แน่วแน่ในหัวใจ

เธอต้องออกไปจากที่นี่

ไม่ใช่เพื่อที่จะได้อยู่กับลู่เซิ่นอีกครั้ง อย่างน้อยก็ขอให้ได้ถามให้เข้าใจ ในสิ่งที่เธอไม่ได้ถามให้ชัดเจนในวันที่เธอจากไป

จากนั้นก็ยุติความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่เซิ่น

มันอาจจะจบลงเช่นนี้ เธอเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน แต่อย่างน้อย…การบอกลาที่แท้จริง จะไม่ทำให้ความสัมพันธ์นี้กลายเป็นปมในใจเธอและไม่มีวันลบเลือนไปตลอดกาล

แต่โชคยังดี…ที่จ้านเซินเต็มใจที่จะปล่อยให้เธอออกมาจากฐานปฏิบัติการใต้ดิน เพราะอย่างน้อยมันก็อธิบายได้ว่า เขามีความเชื่อใจในตัวเธอ

จากนี้ไป ตัวเองจะหยั่งเชิงตามอำเภอใจไม่ได้อีกแล้ว ต้องคอยระมัดระวังทุกอย่างก้าวและต้องไม่ทำลายความพยายามตลอดหนึ่งเดือน

เธอนึกถึงคำพูดในโน้ตของ เหยาจ้าวได้อีกครั้ง

ยิ่งภักดี ก็ยิ่งมีความหวัง

ฉินซีเม้มริมฝีปาก ในใจได้ตัดสินใจแล้ว

……

หลังจากที่เธอกลับมาที่สำนักงานใหญ่ หลักสูตรก็กลับมาดำเนินเหมือนก่อนหน้านี้

คลาสสมรรถภาพทางกายและคลาสทักษะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกครั้ง แม้ว่าหลักสูตรที่ใช้ในการล้างสมองจะลดลงไปมาก แต่ก็ยังไม่หายไปทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินซีจำได้อย่างชัดเจน ตอนที่เธอเข้าร่วมองค์กรแรกๆ หลังจากที่ “คลาสจิตวิทยา”เสร็จสิ้นแล้ว จึงจะเริ่มเข้าถึงงานที่ใช้สติปัญญา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตราบใดที่ตัวเองยังคงอยู่ในหลักสูตรนี้ นั่นก็หมายความว่าจ้านเซินยังไม่เชื่อใจตัวเองอย่างสมบูรณ์

แต่…เรื่องแบบนี้จะรีบร้อนไปไม่ได้

เธอทำได้แค่อดทน ค่อยโน้มน้าวให้จ้านเซินเชื่อใจ ฉันจะไม่สองจิตสองใจอีกต่อไปและเป็นคนขององค์กรโดยสมบูรณ์

แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับจ้านเซิน

ดังนั้น นอกจากหลักสูตรประจำวันของฉินซีแล้ว “การทดสอบ”บ้างเป็นครั้งคราว ก็ยังจำเป็นอยู่

คล้ายกับครั้งนั้นที่จู่ๆเหยาจ้าวก็เสนอวิธีหนีขึ้นมา บางครั้งฉินซีก็บังเอิญได้ยิ้มคำว่าหนีโดยที่ “ไม่ได้ตั้งใจ”

แต่เธอจำคำพูดนั้นของเหยาจ้าวเสมอ เพราะอย่างนั้นคิ้วของเธอจึงไม่ขยับและเลือกที่จะรายงานกับคนพวกนั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท