Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1241

ตอนที่ 1241

บทที่ 1241 ไม่อยากจะเชื่อเลย

การบันทึกหยุดลงที่นี่อย่างกะทันหันและใบหน้าของอารองเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“นี่…คุณ…สิ่งของเหล่านี้ของคุณมาจากไหน ” เขาชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือของอาสามนิ้วก็สั้นเล็กน้อย

อาสามเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ไยดี ฉันติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในห้องนอนที่ลู่เซิ่นนอน ก็แน่นอนว่าเสียงมาจากที่นั่น

ภายในตัวของอารองปรากฏขึ้นถึงร่องรอยของความกลัว “คุณ…ติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในห้องนอนของลู่เซิ่น ทำไมคุณ ทำไมคุณกล้าทำแบบนี้”

“ทำไมฉันถึงจะไม่กล้า!” น้ำเสียงของอาสามมีความหงุดหงิด เขาเดินเข้าไปใกล้อารองกระชิบว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก่อนพวกเรามักถูกภรรยาของพี่ใหญ่ที่น่าสมเพชกดดันไว้ และตอนนี้ถึงคราวที่ลูกชายของพวกเขาก็สามารถจัดการพวกเราได้ด้วยพี่รอง คุณไม่คิดว่าพวกเราอยู่แบบนี้มันน่าหงุดหงิดหรอ ? ทุกๆเดือนได้แต่หวังว่าลู่เซิ่นจะจ่ายเงินปันผล ถ้าเกิดเขาไม่แบ่งให้ พวกเราทุกคนก็ต้องดื่มลมตะวันเฉีนงเหนือ ชีวิตแบบนี้ คุณยังใช้ไม่เพียงพอ ฉันคิดว่ามันเพียงพอแล้ว ! ”

อารองตัวสั่นเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาพูด “คุณ…คุณอยากทำอะไร ? ”

อาสามยิ้ม “ไม่ได้ยินเหรอ ? สูหยิงพูดว่า ตราบใดที่เขาลู่เซิ่นกล้าฝ่าฝืนเธอและไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น จากนั้นสูหยิงจะไม่สนับสนุนลู่เซิ่นอีกต่อไป ลู่เซิ่นอายุยังน้อย ในตอนนั้นทุกคนปกป้องเขา ส่วนใหญ่เป็นเพราะทุกคนไว้หน้าสูหยิงกันทั้งนั้น ? ตอนนี้แม่ลูกหันหลังให้กันแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเราไม่ใช่หรือ”

อารองยังรู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย “คุณจะใช้ประโยชน์จากการทะเลาะของพวกเขา….ยึดอำนาจ ?”

ดวงตาที่ร้ายกาจเปล่งประกายในดวงตาของอาสาม “ใช่แล้ว ฉันใช้มากพอแล้วชีวิตที่ต้องมองหน้าผู้อื่นแล้วก้มหน้า หากตอนนั้นพ่อของลู่เหวย ยืนยันที่จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับพี่ใหญ่ ตลอดหลายปีที่ผ่านฉันคงไม่ต้องหงุดหงิดแบบนี้ ! ”

อารองได้หยุดไปสองสามวินาที จากนั้นถึงพูดต่อ ด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง “แต่ว่านะ ถึงแม้อายุของลู่เซิ่นจะน้อย แต่เขาทำหน้าที่ที่บริษัทลู่ซื่อได้ดีในช่วงไม่กี่วันนี้ ตอนนี้แม่ลูกที่เรียบๆง่ายๆทะเลาะกัน คุณจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าตนเองจะสามารถเขย่าตำแหน่งของเขาได้ ? ”

อาสามหัวเราะเบาๆ “ที่จริงฉันก็ไม่มีความมั่งใจอะไร แต่ฉันรู้ ถ้าฉันไม่ไปลองฉันจะไม่ ได้เลย ”

อารองพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ อารมณ์ค่อยๆดีขึ้นและสงบลง เขายืนตัวตรง “ในเมื่อคุณยืนยันที่จะทำเช่นนี้ฉันก็ขอให้คุณโชคดี

“พี่รอง” อาสามได้ขัดจังหวะคำพูดของเขา มองเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณคิดว่าฉันพูดสิ่งเหล่านี้ให้คุณฟังเพื่ออะไรเหรอ ?”

อารองขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่าไง”

อาสามพูดอย่างสบายๆ “ฉันพูดมามากขนาดนี้ และคุณก็รู้มากขนาดนี้” ดังนั้น…คุณกับฉันคงต้องลงเรือลำเดียวกันแล้ว

คิ้วของอารองย่นแน่นขึ้น “คุณ….นี่คือคุณบังคับกันชัดๆ”

อาสามได้หัวเราะขึ้นมา “ใครขอให้คุณถามคำถามขึ้นมามากมายขนาดนั้นล่ะ ฉันไม่มีเวลามาอธิบายให้คุณฟังก่อนเลย อยากได้คำตอบจากฉันตรงนี้ แน่นอนว่าต้องเสียสละบ้าง”

อารองมองเขาท่าทางที่พูดไม่หยุด ใบหน้าได้มืดมนทันใด ทำไมฉันต้องมาถูกควบคุมโดยคุณ

อาสามยังคงหัวเราะอยู่ เขย่าโทรศัพท์ให้อารอง “บ้านเก่าที่เมืองหนานของตระกูลลู่ ส่วนใหญ่เป็นที่ของคุณ และคนใช้ที่บ้านก็น่าจะเป็นคุณที่คัดเลือก ถ้าเกิดลู่เซิ่นรู้เรื่องล่ะก็ ในห้องของเขาถูกคนใช้แอบใส่เครื่องดักฟังไว้…คูณคิดว่า เขาจะสงสัยใครล่ะ”

“คุณ !” อาสามหน้าแดงไปด้วยความโกรธจากคำพูดที่ไร้เหตุผลของเขา “คุณจะใส่ร้ายป้ายสีฉัน ! ฉันบอกเลย ว่าไม่มีทาง !” สีหน้าของอาสามที่เย็นลง เขาโน้มตัวไปใกล้หูของอารอง กระชิบว่า “ถ้างั้นพี่รอง หรือว่าคุณต้องการหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายที่คุณทำมาตลอดหลายปีนี้ ? ถ้าคุณต้องการจริงๆ ฉันมีมันอยู่ที่นี่จริงๆด้วย”

อารองหันหน้ามามองเขาอย่างแรง “คุณ !”

อาสามหัวเราะอย่างไม่แยแส ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่พวกเขาอยู่ที่เมืองหนาน อยู่ไกลลับฟ้า ไม่เคยทำอะไรเลวร้ายเป็นพิเศษ แต่ในขอบเขตเล็กๆนี้เคยทำเรื่องเลวร้ายไว้ไม่น้อยเลย

อารองที่ไม่ได้คาดคิด อาสามยังมีไม้เด็ดอยู่ หลักฐานยังคงเก็บไว้

“พี่รอง” อาสามเขย่าโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างลวกๆ “ฉันว่าแล้ว เดิมทีคุณและฉันเป็นแค่ตั๊กแตนในเส้นดาย อย่าคิดที่จะหนีอย่างไรในเวลานี้ ทำไมไม่ลองคิดดูว่า…จะทำให้ลู่เซิ่นล้มลงได้อย่างไร”

อารองก็ยังรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่รีบที่จะออกไป แต่นั่งลงด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

ที่ในสำนักงานผู้จัดการใหญ่

ลู่เซิ่นเอื้อมมือออกไปและปิดเสียง หน้าจอมอนิเตอร์ของห้องประชุมเล็กยังเปิดอยู่ แต่ก็ไม่มีเสียงแล้ว

ใบหน้าของสูหยิงและลู่เหวย ดูน่าเกลียดมาก จากนั้นไม่นาน ลู่เหวยก็พูดว่า พวกเขามีความคิดอย่างนี้นี่เอง

ในความเป็นจริงทรัพย์สินของตระกูลลู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกอารองและอาสามเลย แต่เป็นสมบัติที่พ่อของลู่เหวยสะสมไว้ ความสัมพันธ์พวกเขากับ เป็นแค่ญาติห่างๆ

ในตอนแรกพ่อของลู่เหวย เพียงแค่อยากช่วยเหลือพี่น้องของเขา ดังนั้นเขาจึงจัดสรรหุ้นให้พวกเขา ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่มีจิตใจอสรพิษเช่นนี้ ไม่คิดว่าพวกเขาจะมีความคิดต่อตระกูลลู่แบบนี้

ลู่เหวยรู้ตั้งแต่เด็กว่าสองพี่นี้มีความคิดที่กระฉับกระเฉงเล็กน้อย แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะมีจุดประสงค์เช่นนี้ มีแต่ใบหน้าของลู่เซิ่นเท่านั้นที่ถือว่าดูเป็นเรื่องที่ปกติ

เขายิ้มจางๆ “พวกเขาคงไม่รู้ ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน จะมีนิสัยที่ให้หลินหยังตรวจเช็คห้องก่อนทุกครั้ง ดังนั้นเครื่องดักฟังที่พวกเขาแอบวางไว้ ฉันพบมันตั้งนานแล้วและยังให้คนแอบเอาเสียงของปลอมไปวางไว้”

ลู่เหวย พยักหน้า

ถ้าอย่างนั้น เสียงที่บันทึกไว้ในมือของพวกเขา ทั้งหมดก็ของปลอมล่ะสิ

“พวกเขาจะใช้ประโยชน์ที่พวกเราขัดแย้งกันในภายใน หาพวกและโอกาสโค่นล้มฉัน” ลู่เซิ่นเม้มปากและหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ทำให้ฉันไม่ต้องเปลืองแรง ก็สามารถหาคนที่ไม่ภักดีต่อฉันออกมาได้ ”

” ลู่เซิ่น นายเคยคิดไหมว่า ถ้าเกิดพวกเขาโค่นล้มนายได้จริงๆจะทำยังไง?” ลู่เหวยยังไงก็ต้องระมัดระวังตัวหน่อย” ลู่เซิ่นหัวเราะอย่างเบา “พ่อ ตราบใดที่คุณกับแม่ของฉันไม่ได้โกรธฉันจริงๆพวกเขาก็ไม่สามารถโค่นล้มฉันได้อย่างแน่นอน ”

น้ำเสียงของเขาฟังดูปกติมาก แต่ว่าลู่เหวยรู้สึกถึงความหมายของคำพูดนั้น

ต่อหน้าของสูหยิง เขาไม่อยากที่จะพูดอะไร เขาทำได้เพียงใช้สายตาที่ปกปิดอยู่เพื่อเตือนสติลู่เซิ่น ให้เขาทำตัวให้เหมาะสมหน่อย แต่สูหยิงไม่รู้สึกถึงความแปลกประหลาดในนั้นและพูดกับตนเอง “แน่นอนพวกเราไม่ได้จะโกรธนายจริงๆนายเป็นลูกชายเรา! มันจะเหมือนกันกับคนแปลกหน้าพวกนั้นได้ยังไง! ”

รอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จฉายผ่านใบหน้าของลู่เซิ่น แต่ก็ถูกเขาเก็บซ่อมมันไว้อย่างรวดเร็วด้วยตนเอง

แม้ว่า ลู่เหวยจะมองเห็นได้ชัดเจน แต่มันยากที่จะพูดอะไร ได้แต่จิบริมฝีปาก

“ พ่อ แม่ ฉันจะรอให้พวกเขาลากตัวคนที่ไม่ซื่อสัตย์กับฉันออกมาทั้งหมด แล้วก็… ” ลู่เซิ่นได้หัวเราะและยังพูดไม่จบ สูหยิงเข้าใจแล้วเขาหมายถึงอะไรและพยักหน้า” นายมีความอดทนก็ดี ถึงเวลานั้นถ้าต้องการความช่วยเหลือจากเราก็บอกมาได้เลย ”

ลู่เซิ่นยิ้มและพยักหน้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท