Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1255

ตอนที่ 1255

บทที่ 1255 ถอนตัวไม่ทัน

“ชนะแล้ว!” สุดท้ายแล้วสภาพอารมณ์ของหลินหยังก็ยังไม่มั่นคงเฉื่อยชาเท่ากับลู่เซิ่นขนาดนั้น ตอนที่เห็นผลลัพธ์ จึงอดไม่ได้ที่จะเผยความปีติยินดีออกมา

ผลลัพธ์แบบนี้อยู่ภายใต้การคาดเดาของลู่เซิ่นแต่เนิ่นๆแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงคลื่นความรู้สึกอะไรออกมามากนัก เพียงแค่พยักหน้าเรียบๆ เอ่ยถามว่า “ซื้อเข้ามาทั้งหมดเท่าไร”

หลินหยังก้มหน้าอ่านข้อมูลที่นักเก็งกำไรทางฝ่ายนั้นส่งมา พลางรายงานว่า “วันนี้ช่วงเช้ารวมกับตอนนี้ ทั้งหมด 8% ครับ”

ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว “แค่แปดเองหรือ ฉันนึกว่า 10% เสียอีก อาสามของฉันคนนี้…….ขี้เหนียวกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”

หลินหยังยิ้ม “บวกกับ 8% นี้ สัดส่วนหุ้นที่คุณถือก็ยากที่จะก้าวข้ามไปได้แล้วครับ”

รอยยิ้มของลู่เซิ่นกลับเพิ่มความเหี้ยมโหดอยู่หลายส่วน

“ใครบอกว่า…….มีเพียงแค่ 8% นี้กัน”

หลินหยังชะงัก เงยหน้ามองลู่เซิ่น “อย่างนั้นคุณ…….”

น้ำเสียงของลู่เซิ่นไม่ใส่ใจอยู่หลายส่วน “รออีกครู่หนึ่ง นายก็จะรู้แล้ว”

หลินหยังมีความสงสัยอยู่เต็มท้อง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยับยั้งมันลงไป แล้วพยักหน้า

แต่ว่า เขาไม่ต้องรอนาน

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ประตูห้องทำงานของลู่เซิ่นก็ถูกเคาะด้วยความโมโห

ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว ส่งสัญญาณให้หลินหยัง

หลินหยังเดินไปเปิดประตูตามคำสั่ง

ประตูเพิ่งจะถูกบิดให้เปิดออก ก็ถูกผลักให้เปิดออกด้วยแรงโทสะจากด้านนอก จนเกือบจะผลักหลินหยังให้ล้มลง

ลู่เซิ่นเงยหน้า ประจวบเหมาะกับที่อาสามที่เต็มไปด้วยโทสะพาอารองที่ก้มหน้าตัวสั่นบุกเข้ามาด้วยกัน

“ลู่เซิ่น!” อาสามหน้าแดงก่ำ ตะโกนใส่ลู่เซิ่นอย่างไม่สนใจอะไร “แกกล้าดีอย่างไร! กล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้อย่างไร”

ลู่เซิ่นกลับยิ้มสุภาพ “อาสาม อากำลังพูดอะไรน่ะครับ ผมฟังแล้วไม่เข้าใจเลย”

อาสามหัวเราะเสียงเย็น “หลานชายแสนดีของฉัน แกอย่าพูดนะว่า หุ้นของบริษัทลู่ซื่อในวันนี้ไม่ใช่แกที่วางกลอุบาย”

“อ่อ” ลู่เซิ่นเอียงคอ เหลือบตาขึ้นมองเขา “อาสามพูดแบบนี้ บริษัทลู่ซื่อเป็นถึงบริษัทของผม เห็นว่ามีคนคิดร้ายจะทำกำไรจากหุ้นที่ราคาตก การที่ผมปกป้องราคาหุ้นของบริษัท มันมีปัญหาอะไรหรือครับ”

อาสามถูกโต้กลับ ก็ไม่รู้จะตอบอะไรไปชั่วคราว

แววตาของลู่เซิ่นมีประกายความเหี้ยมโหดพาดผ่าน ทว่าน้ำเสียงกลับยังคงไม่ใส่ใจ “อาสาม คุณก็เป็นพนักงานของบริษัทลู่ซื่อคนหนึ่งไม่ใช่หรือ ไม่ควรจะเป็นกังวลในเรื่องการผันผวนอย่างผิดปกติของหุ้นบริษัทลู่ซื่อเหมือนกับผมหรือ ทำไมถึงได้พลิกกลับมาตำหนิผมเสียอย่างนี้ล่ะ”

อาสามอ้าปาก แต่น้ำท่วมปากพูดไม่ออก

รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เซิ่นเลือนหายไปอย่างช้าๆ นั่งตัวตรง แววตาคมปลาบยิ่งกว่าเดิม “หรือจะบอกว่า……อาสามรู้ว่า คนหลายฝ่ายที่จงใจขายหุ้นบริษัทลู่ซื่อในราคาต่ำพวกนั้นเป็นใคร”

อาสามชะงักไปครู่หนึ่ง แผ่นหลังชื้นเหงื่อเย็นในเสี้ยววินาที

เมื่อครู่ที่เขามีโทสะ สมองจึงไม่แจ่มใสเท่าไร

ถ้าหากบอกว่าตอนเช้า การแสดงออกของฝ่ายตรงข้ามทำให้เขารู้สึกว่ามีความคิดที่ว่าทำผิดพลาดแล้วจะไม่ถูกจับได้อยู่บ้าง แต่การเปิดตลาดในช่วงบ่าย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือใคร

ความเผด็จการแบบนี้ วิธีการที่ไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย ไม่สามารถเป็นคนอื่นไปได้ เป็นเพียงแค่วิธีการของลู่เซิ่นเท่านั้น

เพียงแต่แม้ว่าตอนนี้จะมั่นใจในฐานะของฝ่ายตรงข้ามแล้ว เขาก็ถอนตัวไม่ทันแล้วเช่นกัน

เขาโยนเงินทุนและเงินกู้ทั้งหมดของตัวเองลงไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะถอนตัวได้แล้ว

ถ้าหากว่าตัวเองแพ้กระดานหนึ่ง เขาไม่ได้เพียงแค่สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีเงินติดตัวสักบาท กระทั่งยังต้องเป็นหนี้ล้นตัวด้วย

ดังนั้นเขาจึงต้องกัดฟันทำต่อไป

สิ่งน้อยนิดเพียงอย่างเดียวที่เขาใช้ปลอบประโลมตัวเองก็คือ ตอนนี้ลู่เซิ่นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ของเขา ดังนั้นเงินทุนที่อยู่ในมือของเขา และตัวเองนั้นไม่ได้มีความแตกต่างมากมายนัก

แต่คาดไม่ถึงเลยว่า……..

กำลังเงินของลู่เซิ่นกลับดีกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากเกินไป

เขาทำได้เพียงแค่มองตัวเองกระสุนหมด เสบียงเกลี้ยงอย่างนั้น คิดถึงหนี้จำนวนมหาศาลที่ตัวเองแบกเอาไว้บนหลังแล้ว จึงมีโทสะพวยพุ่ง และมาโวยวายถึงบริษัทลู่ซื่ออย่างไม่สนใจอะไร

แม้ว่าลู่เซิ่นจะไม่สามารถจับจุดอ่อนของตัวเองเอาไว้ได้ แต่ตัวเองก็ยังประเคนตัวมาให้อีกฝ่ายอย่างโง่เง่า มีความหมายเหมือนกับโยนตัวเองเข้าไปในแหอย่างเลี่ยงไม่ได้

ลู่เซิ่นไม่รอเวลาให้อาสามทำความเข้าใจ เขาโน้มตัวไปด้านหน้า เผยท่าทางก้าวร้าวออกมาเล็กน้อย

เขากลับไม่ได้พูดกับอาสามต่อ แต่หันหน้าไป ตะโกนขึ้นมากะทันหันว่า “อารอง อาร้อนมากหรือ ทำไมถึงเหงื่อออกตลอดเลย”

อารองคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกขานชื่อกะทันหัน ร่างกายจึงสั่นระริกเล็กน้อย ใบหน้าไร้สี หันไปทางลู่เซิ่น พลางยิ้มให้อย่างอ่อนแอ “ไม่ ระหว่างทางรีบมา อาเลยเหนื่อยเล็กน้อย……”

“อ่อ” ลู่เซิ่นแสร้งพยักหน้า “ผมยังคิดว่าอาทำเรื่องไม่ดีอะไรเสียอีก ดูแล้วถึงได้สั่นระริกแบบนี้”

ความรู้สึกบนใบหน้าของอารองแข็งทื่อในทันที รอยยิ้มแข็งค้าง “หลาน……หลานล้อเล่นอะไรน่ะ…….”

ลู่เซิ่นยิ้มเรียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ

แต่บทสนทนาระหว่างพวกเขากลับลอยเข้าหูของอาสาม

ความคิดของอาสามฉับไว ระลึกความทรงจำภายในไม่กี่วินาทีว่า เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้พี่รองมีความเคลื่อนไหวต่างๆ

อาการร้อนตัวอย่างผิดปกติ การหลบสายตา บวกกับคำพูดเมื่อครู่นี้ของลู่เซิ่น………

ตอนเช้าเขายังสงสัยว่า ลู่เซิ่นรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าตัวเองจะทำอะไร

ถ้าหากว่าอารองหักหลังตัวเองล่ะก็……ทั้งหมดนี้ก็ได้รับการอธิบายที่สมเหตุสมผลแล้ว

อาสามหันหน้าไปมองอารองอย่างเร็ว “เป็นนายหรือ” สองคำนั้นเล็ดลอดออกมาจากไรฟันอย่างดุร้าย

อารองถอยหลบไปด้านหลัง ส่ายหน้าอย่างแรง “อะไรน่ะ…….นายกำลังพูดอะไร……”

อาสามถลึงตามองเขาอย่างดุร้าย “นาย! นายมันคนทรยศ! ล้วนเป็นเพราะนาย……ล้วนเป็นเพราะนายที่ทำให้เรื่องพัง! ทำไมฉันถึงได้ลากคนที่ไม่เอาอ่าวแบบนายเข้ามากันนะ!”

เขาพูดไป พลางเดินเข้าประชิดอารอง หมัดก็ยกขึ้นมา

อารองถอยร่างหลบไปด้านหลัง คิดจะหลบหนีจากกำปั้นของเขา

แต่กำปั้นของอาสามกลับไม่ได้พุ่งเข้ามา

อารองหันหน้าไปมอง ก็พบว่า ไม่รู้เมื่อไรที่ลู่เซิ่นเดินออกมาจากหลังโต๊ะทำงาน

มือข้างหนึ่งคว้ากำปั้นของอาสามเอาไว้ พลางส่ายหน้าให้กับอาสาม “อาสาม อย่าชกต่อยกันในห้องทำงานของผมจะดีกว่า”

อาสามคิดจะสลัดกำปั้นของเขาให้หลุด แต่พละกำลังของลู่เซิ่นเยอะมาก เขาจึงยังสลัดไม่หลุดไปครู่หนึ่ง

“ปล่อย!” สุดท้ายแล้วอาสามก็เอ่ยปาก “ฉันไม่ต่อยแล้ว!”

ลู่เซิ่นถึงค่อยๆผ่อนแรงลง

อาสามดึงมือตัวเองกลับไปอย่างแรง จัดแต่งเสื้อผ้าของตัวเอง มองอารองตาขวางอย่างเย็นชา แล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“ดูท่าแกจะรู้นานแล้วสินะ” อาสามหมุนตัวหันหลังให้กับลู่เซิ่น เอ่ยต่อว่า “ช่วงเช้าและช่วงบ่าย แกล้วนเจตนาหยอกฉันเล่นหรือ”

ได้ยินน้ำเสียงของเขาแล้ว น่าจะผลักความรับผิดชอบทั้งหมดในการเผยข้อมูลออกมาให้กับอารอง

นี่ก็ไม่ถือว่าเป็นการโทษอารองผิดๆ ดังนั้นลู่เซิ่นก็ขี้เกียจจะช่วยเขาอธิบาย

เขาเพียงแค่หัวเราะเสียงเบา “อารอง นี่คุณยอมรับแล้วว่า เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคุณที่ทำ”

อาสามหันหน้ากลับไปชำเลืองมองเขา “ฉันไม่รับผิดชอบแล้วยังมีประโยชน์อะไรด้วยหรือ เบื้องหลังถูกคนเผยออกไปแล้วไม่ใช่หรือ”

อารองเห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง ก็รีบพูดว่า “ฉันไม่ได้……”

“หุบปาก!” อาสามเอ่ยพูดหยุดเขาอย่างหงุดหงิดใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท