Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1260

ตอนที่ 1260

บทที่ 1260 ระบายความในใจทั้งหมด

ฉินซีไม่ตอบ

ความจริงแล้ว เธอก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถโต้กลับได้

นับตั้งแต่ที่เธอเข้าสู่องค์กรนั้น จ้านเซินปฏิบัติต่อเธอพิเศษจริงๆ เธอไม่สามารถชี้แจงอะไรได้

“ทุกอาทิตย์ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ล้วนจากไปเพื่อฝึกอบรมเป็นเพื่อนเธอ หลังจากที่เธอเข้าสู่องค์กรอย่างเป็นทางการ ยิ่งโต้แย้งในความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยของผู้คนมากมาย และยืนหยัดในความคิดของตัวเองมากขึ้น ดึงเธอไปอยู่ภายใต้การดูแลของตัวเขาเองโดยไม่สนใจอะไร ไม่ยอมรับการจัดการมอบหมายใดๆจากแผนกอื่น” ถังย่าคล้ายกับว่าสามารถมองเห็นสีหน้าความรู้สึกของฉินซีผ่านความมืดได้ หัวเราะเยาะออกมา “เกรงว่าเธอคงจะไม่รู้สินะว่า เขาทะเลาะกับพ่อของเขาใหญ่โตเพื่อเธอ กระทั่งย้ายแม่เขาออกไป สุดท้ายจึงทำให้พ่อของเขาเห็นด้วยกับวิธีการของเขา”

ฉินซีเม้มปาก

เธอ…..ไม่รู้จริงๆ

มิน่าล่ะ ตอนนั้นฟางฟางถึงได้พูดว่า เธอรู้ว่าสำหรับจ้านเซินแล้ว ฉินซีมีความสำคัญที่ไม่เหมือนกันมาก ที่แท้ก็ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วย

“เธอดูสิ ไม่ว่าอะไรเธอก็ไม่รู้ แต่ว่ากลับทำให้ผู้คนควักหัวใจออกมาได้เพื่อเธอ” น้ำเสียงของถังย่าแฝงไปด้วยการประชดประชัน “คนอื่นล้วนพูดว่า ภายในเวลาไม่กี่ปี บริษัทพีอาร์ของฉันที่ประเทศF บริหารได้ดีมาก ฉันจะต้องพยายามอย่างยากลำบากแน่นอน แต่มีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่รู้ว่า ก่อนที่เธอจะกลับมายังประเทศF บริษัทของฉันล้วนอาศัยฉันดำเนินการรักษาคนเดียว แต่รอถึงตอนที่เธอกลับมาหลังจากที่ปิดผนึกความทรงจำแล้ว เขาก็ทุ่มเททรัพยากรทางการเงิน กำลังคน และทรัพยากรทางกายภาพให้กับบริษัทของฉันเป็นจำนวนมากอย่างกะทันหัน เธอดูสิ ความสำคัญในการคงอยู่ของบริษัทฉันนั้น ก็แค่เพื่อที่เขาจะสามารถมองเธอได้อย่างถนัดเท่านั้นเอง”

ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย

พูดถึงบริษัทพีอาร์แล้ว เธอก็นึกถึงประสบการณ์ที่ตัวเองถูกจ้านเซินบังคับพาตัวไปด้วยอย่างอดไม่ได้

ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร เธอล้วนไม่ให้อภัยคนที่จำกัดอิสระของตัวเอง

“ฉันก็เพิ่งจะค้นพบในตอนนี้ว่า ฉันไม่สามารถหลอกตัวเอง แสร้งทำเป็นว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เขาไม่มีแล้วได้อีก” น้ำเสียงของถังย่าเจือความเย็นชา “ฉันสามารถแสร้งทำเป็นว่า ไม่เคยใจเต้นกับเขามาก่อน แสร้งทำมาหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่เกิดการติดขัดใดๆ แต่ว่า…….ฉันไม่มีหนทางที่จะแสร้งว่า ฉันไม่เกลียดเธอ”

คิ้วฉินซีขมวดเป็นปม หันหน้าไปมองถังย่า

สายตาของเธอไม่ได้มองฉินซี แต่กลับมองความว่างเปล่าที่อยู่เบื้องหน้าเธอ “ฉันเห็นว่า อะไรเธอก็ไม่ต้องทำ แต่สามารถได้เขาทั้งหมด เห็นในสายตาเขามีเพียงแค่ท่าทางของเธอ ฉันก็ไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่า ฉันไม่เกลียดเธอต่อไปได้”

ฉินซีหรี่ตาลงเล็กน้อย อ้าปากพูดเป็นครั้งแรกว่า “แต่ว่าฉันไม่ต้องการความชอบของเขา”

ถ้าหากว่าความชอบของจ้านเซินคือ การบีบบังคับให้เธออยู่ในองค์กร บังคับเธอให้อยู่ข้างกายเขา อย่างนั้นฉินซียอมให้ จ้านเซินเป็นคนที่จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้สำหรับตัวเอง

ถังย่าหัวเราะอยู่หลายที “นี่เธอกำลังโอ้อวดหรือ พูดว่าความชอบของเขานั้นไร้ค่าสำหรับเธอ กับคนที่ชื่นชอบเขา แต่ไม่ได้เขามานั้น ฉินซี เธอแทงมีดได้เก่งจริงๆ”

น้ำเสียงของฉินซีจริงจัง “ฉันไม่ได้…….”

“โอเค” ถังย่าเอ่ยตัดบทเธอ “ฉันไม่สนใจว่าเกิดจากการระมัดระวังอะไรของเธอ สำหรับฉันแล้วไม่สำคัญอะไร เธอไม่ต้องอธิบายกับฉัน ในทางเหตุผล แน่นอนว่าฉันรู้ว่า การที่จ้านเซินชอบเธอ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ แต่ในเรื่องของความรู้สึก ฉันจะแยกได้ชัดเจนได้อย่างไรกัน”

ฉินซีเงียบกริบ

“เธอไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่า ในหนึ่งปีที่เธอสูญเสียความทรงจำ และอยู่ข้างกายลู่เซิ่นนั้น ฉันผ่านคืนวันอย่างไร” น้ำเสียงของถังย่าแหบแห้งเล็กน้อยจากการพูดมากเกินไป “จ้านเซินยุ่งมาก ธุระก็เยอะ ดังนั้นร่องรอยของเธอในทุกวัน เป็นฉันที่รับผิดชอบจับตามองอย่างใกล้ชิด สรุปออกมาแล้วก็รายงานให้กับเขา ตลอดทั้งปี เรื่องที่ฉันทำมากที่สุดในทุกวัน กลับเป็นการจับตาเฝ้าดูศัตรูหัวใจของฉันแทนคนที่ฉันรัก”

ถึงตอนนี้ ฉินซีเข้าใจแล้วว่า “เพียงแค่อยากหาสถานที่ที่สามารถพูดคุยได้แห่งหนึ่ง” ที่ถังย่าพูดถึงนั้น หมายความว่าอะไร

คาดว่าคำพูดเหล่านี้ เธอไม่เคยพูดกับคนรอบข้างมาก่อน และไม่กล้าที่จะพูดกับคนอื่น ทำได้เพียงแค่เก็บเอาไว้ในใจตัวเอง

ฉินซีกลับเป็นเพียงแค่ตัวเลือกเดียวที่เธอสามารถเอ่ยระบายความในใจทั้งหมดออกมาด้วยได้

เธอรู้ว่า ถังย่าน่าจะระบายความรู้สึกที่อดกลั้นเก็บเอาไว้ในใจนานขนาดนี้ออกมาทั้งหมด ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพียงแค่ทำตัวเป็นผู้ฟังเงียบๆคนหนึ่งก็พอแล้ว

“วันที่เธอแต่งงานกับลู่เซิ่น ฉันคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็บอกเขา สุดท้ายวันนั้น เดิมจ้านเซินควรจะพูดคุยเจรจาอยู่อีกประเทศหนึ่ง ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ยังเป็นฉันที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดว่า เธอกับลู่เซิ่นเพียงแค่ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน เขาถึงได้ยกเลิกความคิดที่จะรับเธอกลับองค์กรในทันทีไป” ถังย่ายิ้มเจื่อนๆ “เธอเริ่มจริงใจกับลู่เซิ่นตั้งแต่เมื่อไร ฉันไม่รู้ แต่ว่าฉันไม่ใช่คนโง่ หลายเดือนมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่เซิ่น ไม่ใช่การใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันจากการแต่งงานง่ายๆแบบนั้นแน่นอน”

ฉินซิรู้สึกว่า แม้ว่าจะได้ยินชื่อลู่เซิ่นออกมาจากปากคนอื่น แต่หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะอย่างอดไม่ได้

“แม้ว่า การเฝ้าดูเธอในหนึ่งปีนี้ จะเป็นปีที่ฉันได้ติดต่อกับจ้านเซินมากที่สุดปีหนึ่ง แต่ว่า……แต่ว่าฉันพอแล้วกับการใช้ชีวิตแบบนี้!” เสียงของถังย่าสั่นเล็กน้อย “ดังนั้น ฉันจึงรายงานแผนงานนิทรรศการภาพถ่ายที่ยังคงสภาพเดิมไว้ โดยไม่ได้มีการแตะต้องให้เขารู้”

ในที่สุด ปัญหาที่รบกวนฉินซีมาเป็นเวลานาน ก็ถูกเปิดเผยออกมา

เธอประหลาดใจมาโดยตลอด ถ้าหากว่าจ้านเซินเฝ้าดูตัวเองตลอดเวลาล่ะก็ อย่างนั้น ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับลู่เซิ่นใกล้ชิดกันมาก มีร่องรอยให้ติดตามนานแล้ว ทำไมเขาถึงเลือกโอกาสนี้มาพบกับตัวเอง

ที่แท้ก็เป็นเพราะถังย่า……

“นับตั้งแต่ตอนที่เธอแต่งงานกับลู่เซิ่น ฉันก็รู้แล้วว่า ขอเพียงแค่เธอมีความเคลื่อนไหวอะไร จ้านเซินจะต้องคิดหาวิธีพาเธอกลับไป ก่อนหน้านี้ฉันลังเลมาตลอด แม้ว่าการเฝ้าดูเธอจะเป็นเรื่องทรมานสำหรับฉัน แต่เทียบกับการส่งเธอกลับไปอยู่ข้างกายจ้านเซินแล้ว ความทรมานนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น” ถังย่าเอ่ย “แต่เมื่อพบว่าเธอเกิดความรู้สึกหวั่นไหวกับลู่เซิ่นทั้งหมดแล้ว กระทั่งวางแผนจะสารภาพต่อหน้าผู้คนในนิทรรศการภาพถ่าย ฉันก็รู้ว่า ตัวเองไม่สามารถทำแบบนี้ต่อไปได้แล้ว”

หางเสียงของถังย่าสั่น หลังจากที่เธอหยุดพูด ภายในเวลาไม่กี่วินาที ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก

“การกลับไปสำนักงานใหญ่ของฉันในครั้งนั้น เดิมตั้งใจจะไปหาเธอ แต่ว่าเธอถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ฉันไม่มีช่องทางในการติดต่อเธอ และก็ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะแก่การพูดคุย” ถังย่าเงียบไปนานมาก ค่อยเอ่ยพูดต่อว่า “ดังนั้น ได้ยินว่าเธอจะมาปฏิบัติภารกิจที่ประเทศF ฉันถึงได้เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นพิเศษ”

ภายในห้องมืดสนิท กลับไม่มีใครลุกขึ้นมาเปิดไฟ แสงไฟที่อยู่ในอาคารที่อยู่อาศัยไกลๆ กลับส่องมุมเล็กๆมุมนี้ให้สว่างไม่ได้

“ทำไมเธอ…..จะต้องพูดเรื่องพวกนี้กับฉันด้วยล่ะ” สุดท้ายแล้วฉินซีก็ยังเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกมา

นอกจากที่ตัวเองอาจจะเป็นตัวเลือกเดียวที่ถังย่าสามารถระบายความในใจได้แล้ว เธอจะต้องมีเหตุผลอะไรอย่างอื่นแน่นอน

ถังย่ายิ้ม “ฉันนึกว่าเธอจะถามฉันก่อนเสียอีกว่า เลือกที่นี่ มีเหตุผลอื่นอะไรอีกใช่หรือไม่”

ฉินซีชะงัก หันหน้าไปมองถังย่า

ท่ามกลางความเลือนราง เธอมองเห็นเพียงแค่เค้าโครงร่างของถังย่า และก็สามารถมองเห็นเธอยักไหล่ให้กับตัวเอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท