Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1272

ตอนที่ 1272

บทที่ 1272 เหตุใดต้องไปคฤหาสน์ตระกูลลู่

ฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง

ลู่เซิ่นสวมเสื้อคลุมอาบน้ำหลวม ๆ ผมของเขายังไม่แห้งสนิทและยังมีน้ำหยดอยู่เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าฉินซีลุกขึ้นนั่งจากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “ตื่นแล้วเหรอ?”

ก้อนหินในใจของฉินซีจึงพังทลายลง

ไม่มีใครรู้ ในช่วงสามเดือนที่เธออยู่บนเกาะเธอฝันถึงลู่เซิ่นกี่ครั้งแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่สามารถนับได้นั่นคือเหตุผลที่เธอสงสัยในทุกสิ่งที่เธอพึ่งพบในตอนนี้

เมื่อคืนทุกอย่างสวยงามมากจนดูเหมือนความฝัน

แต่เธอระงับความวิตกกังวลไว้ในใจเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ลู่เซิ่น “ฉันตื่นแล้ว”

“ไปอาบน้ำ พอบ้านเตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทานเสร็จจะได้ไปบ้าน “ลู่เซิ่นยกมือขึ้นเช็ดผมของเขาในขณะที่เดินเข้าไปใกล้เตียงก่อนที่ฉินซีจะตอบเขาก้มศีรษะลงแล้วจูบที่ริมฝีปากของเธอพร้อมกับยิ้มออกมา “อรุณสวัสดิ์”

ฉินซีรู้สึกเพียงว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแพรวพราวยิ่งกว่าแสงแดดภายนอกและการเต้นของหัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะไป

เธอกลัวว่าเธอจะนอนลงไปบนเตียงอีกครั้งหรือเธออาจจะไม่สามารถควบคุมมันได้หรือเธอจะทำอะไรกับลู่เซิ่นในเช้าวันแต่งงานเธอจึงรีบหันกลับและลุกจากเตียง

แต่ใบหูที่แดงก่ำของเธอยังคงเผยความคิดของเธอ

ลู่เซิ่นยอมรับทันทีที่เห็นเขาไม่ได้ไล่ตามฉินซีแค่หัวเราะเยาะเย้ย เขาแค่มองไปที่ใบหน้าที่แดงก่ำของเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้า

ฉินซีรีบอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองและลงไปข้างล่างเพื่อทานข้าวกับลู่เซิ่น

พ่อบ้านจัดเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นคนทั้งสองจับมือกันและลงมาชั้นล่างรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง

“มามา ห้องครัวไม่ได้มีชีวิตชีวามานานแล้ว” พ่อบ้านดึงเก้าอี้ออกไปเพื่อให้ทั้งสองนั่งลง “ประธานลู่ไม่ได้กลับมานักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคนในครัวเบื่อกันมากเลยครับ”

ฉินซีมองไปที่อาหารเช้ามากมายบนโต๊ะในใจรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ปรากฏว่าอาหารเช้าน่ากินมากมาย

เธอยิ้มให้กับพ่อบ้านและก้มหน้าเริ่มทานอาหารเช้า ลู่เซิ่นก็หยิบตะเกียบขึ้นมาด้วยเช่นกัน เมื่อทั้งสองคนกำลังรับประทานอาหารพวกเขาไม่ชอบพูดคุย มีเพียงพ่อบ้านเท่านั้นที่พูดอยู่ตลอดเวลา

เขาไม่เคยรบกวนพวกเขาสองคนในช่วงอาหารค่ำ แต่คราวนี้มันเป็นสถานการณ์พิเศษนานแล้วที่ไม่ได้เห็น เขาจึงอนุญาตตัวเองสักครั้งในที่สุดก็ไม่มีใครอยู่ในห้องอาหารเลย เขาจึงยืนอยู่ข้างโต๊ะและเริ่มพูดเพ้อเจ้อ

“ประธานลู่ ในเมื่อเดิมทีคนที่จะแต่งงานด้วยคือคุณผู้หญิงงั้นก็จัดงานแต่งงานที่นี่ไม่ได้เหรอครับ แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงเปิดเผยตัวตนของคุณผู้หญิงให้คนรู้ไม่ได้ แต่นี่คือสถานที่ที่คุณผู้หญิงและคุณอาศัยอยู่มาโดยตลอดการจัดงานแต่งงานที่นี่จะไม่มีความหมายมากกว่าเหรอครับ”

คำถามนี้ถูกถามโดยฉินซีเสมอมา แล้วทำไมลู่เซิ่นถึงเลือกคฤหาสน์ตระกูลลู่สำหรับจัดงานแต่งงาน?

หลังจากฟังพ่อบ้านพูดจบเธอก็หยุดคีบอาหารและหันไปมองลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นค่อยๆกลืนสิ่งที่อยู่ในปากของเขาก่อนจะพูดช้าๆ “ในรีสอร์ทชิงหยวนแห่งนี้มีของของเธออยู่ทุกแห่ง บรรดาคนรับใช้ก็เรียกเธอว่าคุณผู้หญิง เมื่อแขกมาถึงเธอคิดว่าจะสามารถปิดบังความลับได้อยู่ไหม”

ฉินซีเลิกคิ้วเล็กน้อยมองไปที่ลู่เซิ่น

เธอมีลางสังหรณ์ว่าลู่เซิ่นไม่ได้บอกความจริง

ภายใต้สายตาจ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์ของฉินซี ลู่เซิ่นนิ่งไปชั่วขณะลดสายตาลงและพูดอีกครั้งด้วยเสียงทุ้มต่ำลงมาก “นอกจากนี้ที่นี่คือความทรงจำทั้งหมดของฉันและเธอ ฉันไม่ต้องการพาคนนอกมาที่นี่ถ้าหากไม่มีเธอแล้ว … ที่นี่จะกลายเป็นที่ที่เศร้าที่สุดของฉัน”

ฉินซีนิ่งไป

เธอไม่คิดเลยว่าลู่เซิ่นจะตรงไปตรงมาขนาดนี้

แต่หลังจากอาการงุนงงไม่นาน ในใจก็เต็มไปด้วยความเสียใจนับไม่ถ้วน

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไร ก็ไม่ได้ความว่าจะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับลู่หลังจากที่เธอจากไป แม้ว่าการจากไปของเธอจะไม่ใช่ความตั้งใจของเธอเอง แต่ฉินซีก็ไม่คิดว่าจะสามารถปัดความรับผิดชอบของเธอได้

แต่เธอเองก็ไม่รู้จะปลอบเช่นไร จึงทำได้เพียงยื่นมือออกไปกุมมือลู่เซิ่นเอาไว้

เมื่อสัมผัสได้ถึงการกระทำของฉินซี ลู่เซิ่นจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมส่งรอยยิ้มบาง ๆ ไปให้ฉินซีและวางมือไว้บนหลังมือของฉินซี “แต่เธอก็มาแล้วไม่ใช่เหรอ มาแล้ว ทุกอย่างก็ดีหมดแล้วล่ะ”

ฉินซีเม้มริมฝีปากและยิ้มออกมา

พ่อบ้านรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกางขวางคออยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเห็นสายตาของทั้งสองคนมองกันด้วยความหวานซึ้งในใจเขาก็เต็มไปด้วยความพอใจ

ดังนั้นเมื่อประสบความสำเร็จเขาจึงถอยออกมาและออกจากร้านอาหารไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ฉินซีก็ออกจากบ้านหลังใหญ่พร้อมกับลู่เซิ่น

เธอฟังลู่เซิ่นสั่งงานเล็กน้อยกับพ่อบ้าน แต่เขากลับไม่เคยอธิบายอะไรให้เธอฟังและแท้จริงแล้วในใจยากแท้หยั่งถึง

เมื่อทั้งสองคนขึ้นรถแล้วเธอก็เข้าไปหาลู่เซิ่นอีกครั้งและพยายามถามว่า: “ลู่เซิ่น ฉัน…”

ลู่เซิ่นเอื้อมมือออกและกดริมฝีปากของเธอ “อย่ากลัวฉันจะบอกเธอเมื่อไปถึงคฤหาสน์ลู่”

แววตาของเขาอ่อนโยนราวกับว่าเป็นยากล่อมประสาทที่ดีที่สุดทำให้ความกระสับกระส่ายในใจของฉินซีสงบลง

ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถามอะไรต่อเพียงแค่พยักหน้ารับ

เธอและลู่เซิ่นลงจากรถจึงพบว่าคนขับตรงไปจอดที่ลานด้านใน

ที่จริงแล้วเธอเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง และไม่มีเวลาเดินรอบ ๆ ภายในบ้านตระกูลลู่ จึงรู้สึกแปลกมากเมื่อลงจากรถในตอนนี้

“ตามฉันมา” ลู่เซิ่นเดินมาหาเธอด้วยความกังวลว่าบ้านตระกูลลู่มีคนจำนวนมาก ทั้งสองจะไม่ได้เดินเคียงข้างกัน แต่เพราะเดินเซไปหนึ่งก้าวจึงค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านกันทีละก้าว

ฉินซีและลู่เซิ่นเดินผ่านทางเดินที่คดเคี้ยวก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานหนึ่ง

“ชุดแต่งงานกับเครื่องสำอาง ฉันให้คนมาเตรียมไว้ที่นี่ก่อนแล้ว” น้ำเสียงของลู่เซิ่นอ่อนโยน “แต่เพื่อความปลอดภัย ฉันเลยไม่ได้เรียกช่างแต่งหน้าจากบริษัทชั้นนำมา ถ้าเธอทำคนเดียวไม่ได้ก็โทรศัพท์มาฉันจะให้เวินจิ้งมาช่วยเธอ

ฉินซีตอบสนองไม่นาน ก่อนที่จะนึกได้ว่าเวินจิ้งคนนี้เป็นใคร

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ควรจะบอกว่าลู่เซิ่นเป็นคนใจกว้างหรือเขาไม่สนใจเวินจิ้งจริงๆดีนะ

มีเรื่องเช่นนี้ที่ไหน ขอให้คนอื่นช่วยเขาปกปิดและยังให้คนอื่นช่วยแต่งหน้าเจ้าสาวตัวจริงของเขา

เพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ฉินซีก็รู้สึกว่าทุกอย่างผิดปกติ

แต่เมื่อเธอกำลังจะพูดเสียงแผ่วเบาก็ดังมาจากด้านข้างของเธอ “ความคิดของประธานลู่ไม่เหมือนใครจริงๆให้เจ้าสาวคนปัจจุบันแต่งหน้าให้อดีตภรรยาของตัวเอง เรื่องแบบนี้…มีแค่คุณเท่านั้นที่ทำได้สินะ”

ทันทีที่เสียงพูดออกมาการแสดงออกของลู่เซิ่นและฉินซีก็ตึงเครียดขึ้นทันที

ใบหน้าของลู่เซิ่นบึ้งตึงและฉินซีก็ตึงเครียดขึ้นมาทันทีเช่นกันทั้งสองหันศีรษะมองไปยังทิศทางที่มาของเสียง

“ทำไม ไม่เจอกันนาน จำฉันไม่ได้แล้วรึไง”

น้ำเสียงของถังย่าหยอกล้อเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ฉินซี

ฉินซีนิ่งไปชั่วขณะ

สีหน้าระแวดระวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลู่เซิ่นและเขาก็ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัวเพื่อกันฉินซีไว้อยู่ข้างหลังเขาและถามถังย่าว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่”

ถังย่าเขย่าการ์ดเชิญในมือไปทางเขา “ฉันมาที่นี่เพื่อร่วมงานแต่งงานของคุณ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท