Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1274

ตอนที่ 1274

บทที่ 1274 กล้องวงจรปิด

แม้ว่าลู่เซิ่นจะเดินไปที่ห้องโถง แต่ท่าทางเขาก็ดูเหม่อลอยตลอด

“ลู่เซิ่น” สูหยิงรอให้คนตรงหน้าเดินจากไปจากนั้นก็หันหน้ามาและจ้องไปที่ลู่เซิ่น “เช้าแล้วนะ ท่าทางเหม่อลอยตลอดเลยเป็นอะไร”

ภายในใจของลู่เซิ่นเต็มไปด้วยฉินซีที่อยู่ในห้องแต่งตัวเพียงลำพังกับถังย่าเขาเอ่ยกับสูหยิงอย่างสบายๆว่า “ไม่มีอะไรครับ จะแต่งงานแล้วเลยดีใจนิดหน่อยน่ะ”

สูหยิงเหล่ตาและขยับเข้ามาใกล้ “เจ้าสาวพร้อมหรือยัง?”

ลู่เซิ่นรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่ามีบางอย่างอยู่ในคำพูดของเธอ แต่เห็นว่าต้องเตรียมตัวสำหรับพิธีแล้ว เขาไม่ต้องการมีปัญหาใหม่แทรกเข้ามาจึงไม่ได้สารภาพใดๆออกไป เพียงแค่ตอบกลับอย่างคลุมเครือ “พร้อมแล้วๆ”

เมื่อเห็นเขาลังเลที่จะพูดมากขึ้นสูหยิงก็ลอบถอนหายใจในใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บังคับเขาเพียงแค่โบกมือ “ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ลูกควรเตรียมตัวให้พร้อมแล้วอีกสักพักเจอกันที่ห้องโถง”

ใจของลู่เซิ่นปรารถนาที่จะรีบบินไปหาฉินซีที่อยู่ข้างบน ฟังสูหยิงพูดเช่นนี้เขาจึงรีบพยักหน้าและหันจากไป

สูหยิงมองด้านหลังของเขาและมุมปากของเธอก็ค่อยๆลดลง รอจนลู่เซิ่นเดินจากไปไกลแล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและโทรหาผู้ช่วยของเธอ “ทำไมไฟล์กล้องวงจรปิดตอนที่ลู่เซิ่นเข้ามาในตอนเช้ายังไม่ส่งมาให้ฉันอีก”

เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย ลู่เซิ่นได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ เขาทั้งเอาหุ้นคืนจากลุงคนสองและสามรวมถึงซื้อหุ้นจำนวนมากจากตลาดในราคาต่ำหากงานแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะสร้างความมั่นคงในตำแหน่งของเขาในตระกูลลู่ ถ้างั้นจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาทุกอย่างก็สามารถหยุดได้แล้ว

การยุติงานแต่งงานชั่วคราวอาจไม่ใช่เรื่องจริงแต่ก็ดีกว่าจัดงานแต่งงานจริงที่มีการประโคมข่าวไม่เป็นจริงอย่างน้อยสูหยิงในฐานะแม่คนหนึ่งก็ยังคงเป็นห่วงลู่เซิ่น

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขากับฉินซีจะเคยแต่งงานกันมาแล้วครั้งหนึ่ง หากแต่นั่นยังเป็นความลับน้อยคนที่จะรู้ว่าลู่เซิ่นเคยแต่งงานแล้ว มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแต่งงานครั้งต่อไปของลู่เซิ่นแต่ครั้งนี้เขาได้แต่งงานอย่างเปิดเผยถ้าเขาแต่งงานอีกครั้งเกรงว่าจะมีอุปสรรคมากมาย

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดแม้แต่ลู่เหวยก็บอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่าหยุดมัน

ลู่เหวยเคยบอกเธออย่างคลุมเครือก่อนหน้านี้ว่าการแต่งงานของลู่เซิ่นครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อหุ้นเท่านั้นลู่เซิ่นยังมีแผนอื่น

แผนอื่นงั้นเหรอ

สูหยิงคิดอยู่นานเดาได้แค่ว่า ลู่เซิ่นอาจจะมีใจให้กับผู้หญิงที่ชื่อเวินจิ้งและแค่อยากจะใช้โอกาสนี้เพื่ออยู่กับเธออย่างถูกต้องเหมาะสม

เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดว่าไม่โกรธ แต่สูหยิงก็รู้ว่าเธอไม่สามารถควบคุมลู่เซิ่นได้อีกต่อไปดังนั้นเธอจึงเตรียมใจมานานก่อนที่จะพูดกับลู่เซิ่นเมื่อวานนี้

เดิมเธอคาดว่าตัวเองจะแสดงความอ่อนแอแล้วจะมีความเป็นไปได้สูงที่ลู่เซิ่นจะอธิบายความจริงกับเธอ แต่ไม่ได้คิดว่าสองวันมานี้แม้แต่ตัวเองจะแสดงได้ดี แต่ลู่เซิ่นก็ยังไม่พูดอะไรเช่นเดิม

โชคดีที่เธอเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว

เมื่อคืนเธอได้ยินว่าลู่เซิ่นพักอยู่ในรีสอร์ทชิงหยวนมีการจับตาดูและป้องกันแน่นหนา

ใกล้จะงานแต่งแล้ว เวินจิ้งก็อยู่ที่นี่ ลู่เซิ่นกลับไปทําอะไร?

สูหยิงมีความคิดมากมายในใจของเธอ แต่ล้วนต้องการหลักฐานเพื่อพิสูจน์

แต่เธอไม่สามารถจัดการรีสอร์ทชิงหยวนได้ สูหยิงทำได้เพียงต้องบอกผู้ช่วยของเธอเพื่อให้ตามติดเส้นทางลู่เซิ่นอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เขาเข้ามาก็ดึงไฟล์กล้องวงจรปิดออกมาทันที

แท้จริงเขาคิดอะไรกันแน่ ถ้าเขาไม่พูดก็จะไม่รู้รึเปล่า

ไม่คิดเลยว่าผู้ช่วยที่มีความคล่องแคล่วมาโดยตลอดผ่านมานานขนาดนี้ จะยังไม่ส่งไฟล์กล้องวงจรปิดมาสูหยิงจึงทนไม่ไหวต้องโทรไปถาม

น้ำเสียงของผู้ช่วยลังเลเล็กน้อยและเขาพูดอย่างระมัดระวัง “ประธานสูครับ ไฟล์กล้องวงจรปิดส่วนนั้น…หายไปแล้วครับ”

“หายไปงั้นเหรอ” สูหยิงแทบจะไม่สามารถควบคุมระดับเสียงของตัวเองได้ เธอขมวดคิ้วแน่นและถามว่า “ทำไมถึงหายฉันไม่ได้ให้นายรอลู่เซิ่นลงมาแล้วขึ้นไปคัดลอกทันทีรึไง”

น้ำเสียงของผู้ช่วยดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย “ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น…ผมจ้องไปที่ห้องคุมกล้องวงจรปิดตลอดเวลา รอจนรถประธานลู่เข้ามา ผมก็เตรียมที่จะคัดลอกทันทีแต่ช่วงที่เสียบยูเอสบี ไฟล์กล้องก็หายไปจากคอมพิวเตอร์อย่างไร้ร่องรอย”

ใบหน้าของสูหยิงค่อยๆจริงจัง: “หายไปแล้วเท่าไหน”

ผู้ช่วยรีบตอบกลับ “ตั้งแต่เมื่อรถของประธานลู่หยุดจนถึงตอนที่ประธานลู่เดินเข้าไปทุกอย่างก็หายไป”

คิ้วของสูหยิง ยังคงขมวดเข้าหากันเช่นเดิม

ที่ในกล้องวงจรปิดมองไม่เห็น…คือภาพของลู่เซิ่น

หรือนี่คือคำสั่งของลู่เซิ่น?

กลัวว่าไฟล์กล้องวงจรปิดจะตกไปอยู่ในมือของผู้สื่อข่าว และถามเขาว่าทำไมคืนก่อนแต่งงานถึงไม่อยู่บ้านตระกูลลู่

ความเป็นไปได้นี้ไม่ใช่ไม่มี แต่สูหยิงมักจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ตอนที่นายเห็นกล้องวงจรปิด เห็นคนที่ลงมาจากบนรถลู่เซิ่นมีกี่คน” เธอถาม

ผู้ช่วยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “ผมจำได้ว่าน่าจะมีมากกว่าสี่คน”

“มีผู้หญิงไหม” สูหยิงถามราวกับว่าเธอได้เห็นความหวังบางอย่าง

“มีครับ” ผู้ช่วยพยักหน้า “น่าจะมีผู้หญิงสองคน”

ริมฝีปากของสูหยิงบึ้งตึง

ผู้หญิงสองคน

ลู่เซิ่นระมัดระวังตัวมากพอที่จะทำให้ผู้คนไม่สามารถหาเบาะแสใดๆได้

แม้แต่สูหยิงก็ไม่รู้ว่าลู่เซิ่นทำเช่นนี้เพื่อปกป้องตัวเองหรือผู้หญิงคนนั้น

อารมณ์ของสูหยิงค่อนข้างซับซ้อนในขณะที่รู้สึกภาคภูมิใจกับการเติบโตของลูกชายเธอก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยด้วย

“ประธานสูครับ”เสียงของผู้ช่วยดังมาจากโทรศัพท์เรียกความสนใจของสูหยิงให้กลับมา “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมจะหาไฟล์กล้องต่อไปหรือ.. ”

“ไม่ต้องแล้ว” สูหยิงขัดเขา “ไม่ต้องหาแล้ว”

ผู้ช่วยยังคงงุนงงแต่เขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว สูหยิงวางสายลูบโทรศัพท์สองสามครั้งและยิ้มบาง ๆ

ในเมื่อเขาปกป้องคนคนนั้นสุดชีวิตขนาดนี้ อย่างนั้นเธอก็อยากจะเห็นว่าเขาจะปกป้องได้อย่างไร

……

ทางด้านลู่เซิ่นก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องของเขาทันทีเพื่อเตรียมตัว แต่เขาหลีกเลี่ยงคนอื่น ๆ และเดินไปที่ประตูห้องแต่งตัวของฉินซี

บอดี้การ์ดทั้งสองยังคงเฝ้าประตู พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ตัวเองกำลังมองไปคือใครเมื่อเห็นลู่เซิ่นเดินมาพวกเขาก็รีบรายงาน “ประธานลู่ครับ ไม่มีใครเข้าไปและไม่มีใครออกมา”

ลู่เซิ่นพยักหน้าและส่งสัญญาณให้พวกเขาหลีกไป จากนั้นจึงเคาะประตูและพูดว่า “ฉินซี”

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงของฉินซีก็ดังออกมาจากข้างใน “ฉันอยู่นี่ เกิดอะไรขึ้น จะเริ่มแล้วเหรอ”

ก่อนที่ลู่เซิ่นจะตอบถังย่าก็พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก “ประธานลู่ไม่วางใจจริงๆ ฉินซีอยู่ที่นี่แล้วและทุกอย่างที่ควรเตรียมก็พร้อมแล้วดังนั้นทำใจให้สบายเถอะ”

ลู่เซิ่นเพิกเฉยต่อคำเยาะเย้ยของถังย่าและพูดกับฉินซี “ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว รอสักแปปหนึ่งพักสักนิด เมื่อมันเริ่มอย่างเป็นทางการฉันจะให้คนมาเรียกเธอ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท