Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1265

ตอนที่ 1265

บทที่ 1265 คุณยังคงรักผมอยู่

“แต่ว่า…..ก่อนที่ผมจะตอบคำถามพวกนี้ของคุณ คุณควรจะตอบคำถามผมสักสองสามข้อก่อนใช่หรือไม่” ลู่เซิ่นเปลี่ยนหัวข้อสนทนากะทันหัน สายตามีแววดุร้ายขึ้นหลายส่วน

ฉินซีชะงัก

แต่สุดท้ายแล้วก็พยักหน้า

มือทั้งสองข้างของลู่เซิ่นวางอยู่บนหัวเข่า โน้มร่างมาด้านหน้าเล็กน้อย แสดงท่าทางที่เห็นได้บ่อยๆบนโต๊ะเจรจา กลิ่นอายเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาหลายส่วน

“ฉินซี ทำไมคุณถึงได้ไปจากที่นี่” น้ำเสียงของลู่เซิ่นราบเรียบ แต่สายตากลับยังคงจับจ้องมา “คุณไม่ต้องอธิบายมากมาย ผมรู้ดีว่า ตอนสุดท้ายที่คุณจากไป ไม่ใช่ความสมัครใจของคุณ แต่ว่า…..ก่อนที่คุณจะถูกพาไปจากที่นี่ ก็มีความคิดที่จะจากไปแล้ว ถูกต้องไหม”

คิ้วของฉินซีกลับขมวดเล็กน้อย

ความทรงจำที่ไม่มีความสุขเหล่านั้น เป็นเพราะน้ำเสียงที่หนักแน่น เป็นเหตุเป็นผลของลู่เซิ่นไหลเข้าสู่สมอง

คลิปเสียงและวิดีโอเหล่านั้น เป็นหลักฐานที่ลู่เซิ่นหักหลังตัวเอง ทั้งหมดล้วนลอยกลับเข้ามาในสมองของตัวเอง

“ลู่เซิ่น” น้ำเสียงเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเช่นกัน “ตอนที่คุณจากที่นี่ไปเมืองหนานไม่กี่วันนั้น ไปทำอะไรหรือ”

คราวนี้ลู่เซิ่นชะงักบ้างแล้ว

เขาไปทำอะไรที่เมืองหนาน…….

ถ้าหากว่าต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ ความเชื่อมั่นของลู่เซิ่นก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้นแล้ว

ภาพที่เขาหลบสายตาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นความละอายใจอย่างหนึ่ง เมื่ออยู่ในสายตาของฉินซี

แต่เมื่อสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งก็จบลงกะทันหันในระยะเวลาอันสั้น ไม่ควรจะใส่ใจสิ่งที่ต้องสูญเสียในตอนนี้ แผ่นหลังฉินซีจึงยืดตรงขึ้นมา

“ลู่เซิ่น” เธอถอนหายใจเสียงเบา “ฉันไม่อยากจะพูดจาไร้สาระ อ้อมไปอ้อมมากับคุณ สาเหตุที่ฉันต้องการจากไป มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คุณทำในไม่กี่วันนั้น”

นัยน์ตาลู่เซิ่นสั่นไหว

ฉินซีรู้ได้อย่างไร

คนที่รู้ถึงเป้าหมายในการไปเมืองหนานของเขาในไม่กี่วันนั้น นอกจากตัวเขาเองและหลินยี่ ก็แทบจะไม่มีใครรู้แล้ว ฉินซีจะเข้าใจได้อย่างไร

“คุณ…….” สุดท้ายแล้วลู่เซิ่นก็อดไม่ไหว ถามคำถามนี้ออกมา “คุณรู้หรือ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินซีแฝงการประชดประชันอยู่หลายส่วน “ใช่แล้ว การที่ฉันรู้เรื่องนี้ อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ใช่หรือไม่”

“ทำไมคุณ……” ชั่วขณะหนึ่งที่ลู่เซิ่นยังไม่มีสติ แต่เมื่อถามออกไปได้ครึ่งประโยคแล้ว ตัวเองก็ได้สติขึ้นมา “องค์กรของคุณบอกคุณหรือ”

ฉินซีเห็นว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธในสิ่งที่เขาทำทั้งหมด เพียงแค่เลือกที่จะถามว่าตัวเองรู้ได้อย่างไรกันแน่ ในใจก็ยิ่งเฉยชากว่าเดิม และไม่อยากจะพูดมาก จึงทำเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น

ลู่เซิ่นหมดคำพูดไปชั่วขณะ

สมองของเขาคิดถึงคำพูดที่ลู่เหวยพูดกับตัวเองขึ้นมาได้กะทันหัน

ตอนนั้นลู่เหวยเตือนเขา ถามเขาว่า ถ้าหากเรื่องนี้ถูกฉินซีรู้เข้า จะเกิดผลลัพธ์อะไรขึ้นมา

ตอนนั้นเขายังพูดด้วยความมั่นใจว่า ฉินซีไม่มีทางรู้

ใครจะรู้ว่า……เรื่องแบบนี้ จะเป็นความจริงตามที่พูดไว้

“ฉินซี” เขาถอนหายใจเสียงเบา เอ่ยเสียงอ่อน “คุณ…..ค่อยๆฟังผมอธิบาย”

ฉินซีไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

เธอเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวง จากระยะทางยาวไกลมาถึงที่นี่ ก็แค่เพื่อจะฟังคำอธิบายไม่กี่ประโยคของลู่เซิ่นด้วยหูตัวเองเท่านั้นเอง

ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดว่าไม่ต้องการอย่างแง่งอน แต่กลับไม่มีความเข้มแข็งมากพอที่จะพูดให้ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยออกมา เหมือนที่ตัวเองประมาณการเอาไว้แบบนั้น

เธอพบว่าสุดท้ายแล้ว ตัวเองยังคงหวาดกลัว ถ้าหากว่าความจริงที่ลู่เซิ่นพูดออกมานั้นโหดร้ายมากเกินไป ตัวเองจะรับมันไหวได้อย่างไร

ลู่เซิ่นเรียบเรียงคำพูดในใจสักครู่ สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจพูดเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น

“ถ้าจะให้อธิบายเรื่องนี้ ต้องเริ่มเล่าจากหลินยี่ก่อน ผมได้พบหน้ากับหลินยี่เป็นครั้งแรกในค่ายทหาร…….”

เขาติดค้างหลินยี่ชีวิตหนึ่งได้อย่างไร รับปากเขาอย่างไร และหลินยี่ที่ชีวิตของตัวเองตกอยู่ในอันตราย กลับให้ตัวเองไปช่วยเวินจิ้งออกมาจากคุกอย่างไร

“จริงๆแล้ว การจะช่วยเธอออกมานั้นมีวิธีมากมาย แต่ว่า……แสร้งทำเป็นแต่งงานกับเธอ เป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาได้เร็วที่สุดจริงๆ” ลู่เซิ่นเอ่ยถึงตรงนี้ ในน้ำเสียงมีแววขอโทษและเสียใจอยู่หลายส่วน “เป็นผมที่คิดไม่รอบคอบเอง คิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ช่วยเธอออกมาได้ก็พอแล้ว ดังนั้น……จึงไม่ได้บอกคุณ นี่เป็นความผิดของผม”

สายตาของเขาจ้องมองฉินซีเขม็งตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้นจึงไม่ได้พลาดความรู้สึกที่แปรปรวนใดๆบนใบหน้าของเธอ

และในตอนนี้ ความรู้สึกที่อยู่บนใบหน้าของฉินซีดูแล้วสงสัย…..อยู่บ้าง

“ฉินซี” ลู่เซิ่นหยั่งเชิงเรียกประโยคหนึ่ง

ฉินซีนั้นเหมือนกับได้สติกลับคืนมาอย่างไรอย่างนั้น หันหน้ามามองเขาทันที “คุณบอกว่า ที่ตอนนั้นคุณพูดว่าจะแต่งงานกับเวินจิ้ง เป็นข้ออ้างในการช่วยเธอออกมาจากคุกอย่างนั้นหรือ”

ลู่เซิ่นไม่รู้แน่ชัดถึงสาเหตุความแปรปรวนทางอารมณ์ของเธอ แต่ก็ยังพยักหน้า “ถูกต้อง ผมทำเพื่อช่วยเธอออกมาเท่านั้นเอง”

ฉินซีนึกย้อนไปถึงคลิปเสียงที่ได้ยินและวิดีโอที่ได้ดูเหล่านั้น ถ้าหากอ้างอิงจากคำพูดของลู่เซิ่น ก็ไม่ใช่ว่าไม่สามารถอธิบายได้ แต่ว่า…….ยังมีอีกคำถามหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการจัดการ

“ในเมื่อคุณทำเพื่อช่วยเธอออกมา อย่างนั้นเรื่องที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ คืออะไร” สายตาของฉินซีคมปลาบขึ้นมาเล็กน้อย “ในเมื่อเป็นข้ออ้าง ทำไมจะต้องแต่งงานกับเธอ”

ลู่เซิ่นมองสีหน้าของเธอแล้ว บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มแปลกๆพาดผ่าน

“คุณใส่ใจมันมากหรือ” เสียงของลู่เซิ่นเบามาก คล้ายกับกลัวว่าจะทำให้อะไรบางสิ่งเกิดความตื่นตระหนก “ผมแต่งงานกับคนอื่น คุณใส่ใจมาก ถูกต้องไหม”

ฉินซีเกือบจะกลอกตามองบนในใจแล้ว

ถ้าหากว่าเธอไม่ใส่ใจ จะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรกัน

แต่ให้พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆ ก็น่าขายหน้าเกินไปหน่อย ดังนั้นฉินซีจึงเม้มปากแน่น ไม่ยอมพูดจา

เพียงแต่สีหน้าความรู้สึกของเธออธิบายได้ชัดเจนหมดแล้ว

รอยยิ้มในแววตาของลู่เซิ่นเห็นได้ชัดกว่าเดิม เขาเขยิบเข้ามาใกล้อีกเล็กน้อย ปลายจมูกแทบจะแตะกับปลายจมูกของฉินซี “เป็นเพราะว่าคุณยังใส่ใจผม ปล่อยผมไปไม่ได้ จึงได้กลับมา ใช่ไหม”

ฉินซีเกิดภาพลวงตาว่าตัวเองถูกเขาบีบให้จนมุมขึ้นมา จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปผลักเขา แต่มือที่ยื่นออกไป กลับถูกลู่เซิ่นจับเอาไว้

“ผมรู้ว่า คุณยังรักผมอยู่”

น้ำเสียงของลู่เซิ่นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนกับว่าไม่เหลือช่องว่างให้ฉินซีได้โต้กลับ เพิ่งจะสิ้นเสียง ก็ยื่นมือไปจับคางฉินซีไว้ ไม่อนุญาตให้เกิดความสงสัยใดๆ ก็จูบลงไป

เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากคู่นั้นแนบลงมา ฉินซีก็ยังไม่ปฏิกิริยาตอบสนอง

เธอยังเบิกตาโตขึ้น ไม่สามารถโฟกัสใบหน้าของลู่เซิ่นที่อยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ได้

จูบที่ห่างหายไป 3 เดือน ความรู้สึกที่ได้จากการสัมผัสเหมือนกับความจำที่ร่างกายเคยสัมผัส ราวกับยาพิษประเภทหนึ่ง ที่ไหลเข้าสู่สมองของเธอในทันที

เธอไม่มีแม้กระทั่งกำลังที่จะแบ่งมาปฏิเสธ ก็ถูกม้วนเข้าไปในความเคยชินที่ท่วมไหลเข้ามาแล้ว จมอยู่ในสัมผัสใกล้ชิดที่ห่างหายไปนาน

เมื่อรู้สึกถึงการคล้อยตามของฉินซี การกระทำที่รุกรานของลู่เซิ่นก็รุนแรงขึ้น จูบจูบหนึ่งเหมือนกับสงครามฉากหนึ่ง ที่ต้องการปราบฉินซีให้สิ้นฤทธิ์

คนสองคนที่เคยรักกันอย่างดูดดื่มในอดีตมานานขนาดนั้น จูบก็เป็นเหมือนความเคยชินอย่างหนึ่ง สอดประสานจังหวะเหมือนกับการเต้นแทงโก้เพลงหนึ่ง ดุเดือด หยั่งเชิง และแฝงไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งที่ไม่อาจไม่สนใจได้

ถ้าหากไม่ใช่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของลู่เซิ่น ฉินซีก็ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจูบนี้จะดำเนินไปอีกยาวนานแค่ไหน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท