Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1277

ตอนที่ 1277

บทที่ 1277 ไม่ผูกใจเจ็บ

ลู่เซิ่นยังจำคำที่สูหยิงขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย และบีบบังคับให้ฉินซีไปจากตนเองได้เสมอ

เพราะอย่างนั้นจิตใต้สำนึกของเขาจึงไม่วางใจสูหยิงอีกเลย อีกทั้งยังไม่กล้าคุยเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฉินซีให้เธอฟัง

เขารู้ดีกว่า ในเมื่อมาถึงจุดๆนี้แล้ว สูหยิงเองก็น่าจะทราบนานแล้วว่าเขาอยากจะจัดงานแต่งงานจริงๆ แต่เขาเองก็เชื่อว่าด้วยวิธีการของสูหยิงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าเจ้าสาวที่แต่งงานกับเขาในวันนี้คือใคร

เขาไม่คิดจะสารภาพกับสูหยิง แค่รอให้สถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แล้วจึงค่อยอธิบายอย่างช้าๆให้เธอฟัง

แต่เขาเชื่อใจลู่เหวย

เขาจำมิตรภาพดีๆระหว่างลู่เหวยและแม่ของฉินซีได้ อีกทั้งยังจำตอนที่ฉินซีประสบอุบัติเหตุได้ ตอนนั้นลู่เหวยค่อยช่วยเหลือตัวเองในหลายๆเรื่องอย่างลับๆ ดังนั้นเขาจึงบอกความจริงแก่ลู่เหวย

แต่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าลู่เหวยจะเป็นคนสารภาพทุกอย่างกับสูหยิง

เขาไม่รู้ว่าสูหยิงจะต่อต้านฉินซีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าสูหยิงยืนกรานที่จะคัดค้านล่ะ จะทำยังไง

แล้วถ้าสูหยิงคิดจะทำอะไรไม่ดีขึ้นอีก จะทำยังไง

คำถามมากมายผลุดเข้ามาในหัวของลู่เซิ่น ส่งผลให้การแสดงออกของเขาดูจะแข็งกระด้างเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของเขาแฝงไปด้วยการป้องกันตัว

ลู่เหวยสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเขาได้อย่างชัดเจน แต่การแสดงออกของลู่เหวยยังคงดูผ่อนคลาย เขาเพียงแค่ตบบ่าของลู่เซิ่นพลางเอ่ยขึ้น “อย่ากังวลไป เพราะพ่อรู้นิสัยแม่ของลูก ถึงได้กล้าจะอธิบายให้เธอฟัง”

ลู่เซิ่นมองไปที่ลู่เหวยอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งและไม่ได้พูดอะไรออกไปในทันที

ลู่เหวยพูดอย่างยิ้มๆ “ลูกคิดว่าแม่ของลูกเป็นคนโง่ที่จะคาดเดาอะไรไม่ได้เลยจริงๆสินะ แม่ของลูกรู้ดีว่าจุดประสงค์ในการแต่งงานในนี้ของลูก ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ลูกพูดไว้ แต่แม่บอกพ่อหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า แม่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายทางเลือกที่ลูกเลือกในตอนนี้”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของ ลู่เซิ่นก็ยังคงไม่ผ่อนคลาย คิ้วของเขาขมวดขึ้นเป็นปม มองลู่เหวยอย่างพินิจพิเคราะห์

ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นาน ท้ายที่สุดลู่เหวยก็เป็นฝ่ายง้อก่อน

“พ่อไม่รับประกันอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ” ลู่เหวยลดสายตาต่ำลง พลางเอ่ยขึ้น “ก่อนหน้านี้พ่อเคยลองหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าแม่ของลูกจะไม่รังเกียจฉินซีอีก พ่อถึงได้กล้าพูดชื่อของเธอออกมาในที่สุดไงล่ะ”

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่สายตาที่ระแวดระวังตัวของเขา ในที่สุดก็ผ่อนปรน

“เรื่องของฉินซี สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากตัวพ่อ” ลู่เหวยพูดต่อ “แม่ของลูกตั้งเป้าไปที่แม่ของเธอ มากกว่าจะเป็นตัวฉินซี เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะพ่อ และมันควรเป็นความรับผิดชอบของพ่อเอง แต่ตอนนี้ พ่อได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดโดยละเอียดแล้ว แม่เองก็ยอมทิ้งความผูกใจเจ็บที่มีต่อเหยาหมิ่นเช่นกัน เพราะอย่างนั้นลูกไม่จำเป็นต้องกังวลถึงทัศนคติของแม่ที่มีต่อฉินซีอีกต่อไป”

ลู่เซิ่นเงยหน้าขึ้น มองไปยังลู่เหวย

หลังจากที่สูหยิงล้มป่วย เพราะความเข้าใจผิดของฉินซึ่งเทียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเหยาหมิ่นและลู่เหวย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหยาหมิ่นต่อหน้าเขา

ลู่เซิ่นรู้ดีว่าตั้งแต่ตอนที่สูหยิงออกจากโรงพยาบาล จนตอนนี้เป็นก็เวลากว่าครึ่งปีแล้ว ที่สูหยิงและลู่เหวยท่องเที่ยวมาโดยตลอด เหตุผลนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเขาอ้างว่าออกไปเจอโลกภายนอก ลู่เซิ่นพอจะเดามันออกว่าพวกเขาคลายปมของกันและกัน

ที่มุมปากของลู่เหวยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “พ่อคิดว่า ในเมื่อลูกรักฉินซีด้วยใจจริง อย่างนั้นแล้วพ่อก็หวังว่าการแต่งงานของลูกและเธอ จะดำเนินไปด้วยคำอวยพรของเราสองคนนะ”

ลู่เซิ่นหยุดนิ่ง

เขาเข้าใจความโกรธของสูหยิงดี ดังนั้นจึงยิ่งยากที่จะจินตนาการว่าลู่เหวยต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ถึงทำให้สูหยิงยอมทิ้งปมในใจของเธอที่มีต่อเหยาหมิ่นไปอย่างสิ้นเชิง

ที่ลู่เหวยทำไปทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็เพื่อไม่ให้เกิดข้อบกพร่องในงานแต่งของเขาแม้แต่น้อย

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจเขารู้สึกได้ถึงความขมขื่น

“พ่อ” ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นาน จู่ๆ ลู่เซิ่นก็พูดขึ้น “พาแม่เข้าไปข้างในเถอะครับ ข้างนอกมันมีแดด”

ดวงตาของลู่เหวยเบิกกว้างทันที

นี่ ลู่เซิ่นหมายความว่า

แต่ลู่เซิ่นไม่ได้ตั้งใจที่จะอธิบายอะไรเพิ่มเติม ทันทีที่เขาพูดจบก็หันหน้าไป เดินไปทางหลินยี่และอธิบายการเปลี่ยนแปลงให้แก่เขา

ความอบอุ่นพุ่งตรงเข้ามายังหัวใจของลู่เหวย มุมปากเขาค่อยๆยกยิ้มขึ้น รีบเดินไปหาสูหยิงและหยุดข้างๆเธอ

“เข้าไปด้านในเถอะ” เขาไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เพียงแค่พูดกับสูหยิงอย่างเรียบง่าย

เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของสูหยิงหยุดชะงัก ลู่เหวยเห็นร่องรอยแห่งความสุขในดวงตาของเธอ

แต่ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรออกมาอย่างคนรู้ใจกัน สูหยิงเพียงแค่เอื้อมมือไปจับที่แขนของลู่เหวยทั้งสองเดินเคียงข้างกันเข้าไปยังโถงพิธี

หลังจากที่หลินยี่ได้ฟังแผนที่เปลี่ยนใหม่ของ ลู่เซิ่นจนจบ สีหน้าของเขากลับแปลกใจอย่างปกปิดไว้ไม่อยู่

“นี่หมายความว่าแม่ของนายยอมรับฉินซีแล้ว” หลินยี่ควบคุมระดับเสียงอย่างระมัดระวัง แต่ในน้ำเสียงของเธอยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แทบไม่อยากจะเชื่อ

ลู่เซิ่นพยักหน้า

ใบหน้าของหลินยี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ได้ยังไง”

เขารู้ดีว่าก่อนหน้านี้สูหยิงใช้วิธีที่สุดโต่งมากแค่ไหนในการบีบบังคับให้ฉินซีและลู่เซิ่นแยกจากกัน แต่แล้วจู่ๆก็ได้รู้ข่าวว่าสูหยิงยอมรับฉินซีได้แล้วอย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ในทันที

ลู่เซิ่นส่ายหน้า “ดูเหมือนจะมีแค่พ่อของฉันเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

หลินยี่พยักหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก จู่ๆก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “แต่ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็แสดงว่ามีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ที่รู้ว่าเจ้าสาวคือใครสินะ”

ในบรรดาสี่คน มีเพียงหลินยี่และลู่เซิ่นเท่านั้นที่รู้สาเหตุที่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของฉินซีได้ นอกจากที่ลู่เซิ่นจะยืมชื่อของเวินจิ้งมาจัดงานแต่งงานแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็เพราะฉินซีไม่สามารถให้องค์กรของเธอรู้ว่าเธอมาปรากฏตัวที่นี่

ไม่ใช่ว่าหลินยี่ไม่เชื่อใจสูหยิง แต่ในเมื่อมีคนรู้เพิ่มมากขึ้นหนึ่งคน ดังนั้นความเสี่ยงจึงเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งระดับ

ลู่เซิ่นยกมือขึ้นถูคิ้วที่ผูกติดกันเป็นปม เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่แน่ใจนัก “ที่พ่อฉันทำลงไปก็เพื่อตัวฉัน แต่แล้วฉันจะอธิบายให้พวกเขาฟังอีกที”

หลินยี่เป็นเดือดเป็นร้อนกับปัญหานี้อีกต่อไปและกลับมายืนยันแผนอีกครั้ง “ก็คือ เมื่อฉินซีมาถึง แทนที่จะพาเธอไปที่ประตู และจูงมือเธอจากประตูโบสถ์พาไปให้นายตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ แต่ให้พาเธอเข้าไปในโบสถ์ และหยุดที่ปลายพรมแดงใช่ไหม”

ลู่เซิ่นพยักหน้า

หลินยี่ทำสัญญาณมือ สื่อความหมายว่าตนเองหลินยี่เข้าใจแล้ว

ลู่เซิ่นยกข้อมือขึ้นและมองไปที่นาฬิกา จวนจะได้เวลาแล้ว

หลินยี่ไม่รอช้า เขากลับไปที่ที่สกู๊ตเตอร์จะมาถึงเพื่อรอฉินซี ส่วนลู่เซิ่นก็หันหลังกลับ เดินเข้าไปในโบสถ์

โบสถ์ขนาดใหญ่ แต่ไม่มีใครอยู่ด้านใน มันช่างดูว่างเปล่า บาทหลวงยังไม่เข้ามา มีเพียงสูหยิงและลู่เหวยที่นั่งอยู่แถวแรก

ลู่เซิ่นไม่ได้หยุดฝีท้าและเดินตรงไปยังทั้งสองคน

ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งตัวลงไปนั่งยองๆ ยกสายตาขึ้นเล็กน้อย สบตากับลู่เหวยและสูหยิง

“พ่อครับ แม่ครับ” น้ำเสียงของลู่เซิ่นแฝงไปด้วยความจริงจัง “ทั้งสองคนอวยพรให้ผมกับฉินซีด้วยใจจริง ใช่ไหมครับ”

เสียงของลู่เซิ่นดังสะท้อนท่ามกลางโบสถ์ที่ว่างเปล่า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท