Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1278

ตอนที่ 1278

บทที่ 1278 ไปยังโบสถ์

ลู่เหวยพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนใบหน้าของสูหยิงดูจะขัดๆขืนๆ แต่ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ

ลู่เซิ่นไม่ได้ลุกขึ้นยืนในทันที แต่กลับจับจ้องไปที่ทั้งสอง ก่อนจะพูดเอ่ย “ที่ผมเลือกแต่งงานกับฉินซีแต่ประกาศว่าเจ้าสาวเป็นเวินจิ้งมันมีเหตุผลที่ผมบอกไม่ได้”

สูหยิงขมวดคิ้วทันที “บอกไม่ได้”

สีหน้าของลู่เซิ่นสงบนิ่ง “ครับ แม้แต่พ่อกับแม่ ผมก็บอกไม่ได้”

ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของสูหยิง ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่แล้วก็ถูกลู่เหวยคว้ามือเอาไว้

เขาหันหน้ามามองสูหยิง

ราวกับว่ากองเพลิงในใจของสูหยิงถูกดับด้วยก๊าซออกซิเจนอย่างไรอย่างนั้น โดยมันค่อยๆมลายหายไป

ช่วงเช้าของวันนี้ เธอเห็นว่าลู่เซิ่นคอยระมัดระวังตัวเองแม้กระทั่งกับเธอ มันทำให้สูหยิงรู้สึกขมขื่นและเจ็บปวด

ลู่เหวยสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนสูหยิงก็ไม่คิดจะปิดบังลู่เหวย เธอเอ่ยปากตัดพ้อ บอกว่าลู่เซิ่นไม่แม้แต่จะเชื่อใจเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแย่เอามากๆ

ลู่เหวยครุ่นคิดและพยายามหลายต่อหลายครั้งที่จะอธิบาย ท้ายที่สุดก็อธิบายไปว่าสิ่งที่ลู่เซิ่นทำไปทั้งหมด ก็เพื่อจะได้จัดงานแต่งงานกับฉินซี

แรกเริ่มสูหยิงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แต่แล้วก็กลับไปรู้สึกเสียใจอีกครั้ง

“อย่าโทษเด็กๆเรื่องที่ไม่ได้บอกคุณเลย” ลู่เหวยพูด “ตอนนั้นเป็นคุณเองที่เอาแต่ไล่คนโน้นคนนี้ตามอำเภอใจ มันแน่นอนอยู่แล้ว ที่ลูกจะไม่เปิดใจให้คุณอีก”

สูหยิงสำลักในคำพูดของลู่เหวยแต่ก็ไม่รู้จะแย้งกลับไปอย่างไร

“ผมเห็นว่าวันก่อนแม่ดูจะไม่อยากเข้าใจเรื่องราวซักเท่าไหร่” ลู่เซิ่นพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง “ลู่เซิ่น เองก็โตมาแล้ว ตอนนี้ลูกไม่อยู่ในการควบคุมของเราอีกแล้วนะ อีกอย่าง สิ่งที่ลูกทำก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ลูกก็แค่อยากอยู่กับคนที่รัก ถ้าคุณอยากจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราและบริษัทลู่ สิ่งเดียวที่คุณทำได้ ก็คือสนับสนุนในสิ่งที่เขาเลือก ผลของการเข้าไปก้าวก่าย คือตัดสะพานการสื่อสารระหว่างพวกคุณ ทำให้รอยแยกของทั้งสองคนยิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ”

ตอนแรกดูท่าสูหยิงจะไม่ยอมรับสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเธอก็ค่อยๆลดตามองต่ำและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

ลู่เหวยรู้ดีว่าตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว

และแน่นอนว่าเขาเองก็รู้เช่นกันว่านิสัยของสูหยิงไม่สามารถเปลี่ยนได้ในทันที แต่การที่ทำให้เธอตระหนักได้ มันก็ยากมากพอแล้ว

แท้จริงแล้ว คำสารภาพของลู่เซิ่นก็เกี่ยวกับความไว้ใจในตัวพวกเขา ไม่ใช่ว่าสูหยิงไม่เข้าใจ เมื่อเทียบกับการต้องหาเหตุผลมาหลอกตัวเอง การที่ลู่เซิ่นพูดออกมาเช่นนี้ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

ภายใต้สายตาเตือนสติของลู่เหวยสูหยิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้ว”

เผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เซิ่น “เพราะอย่างนั้น ผมขอรบกวนพ่อกับแม่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หลังจากที่ออกจากโบสถ์นี้ไป จะไม่มีใครรู้ ว่าคนที่ยืนต่อหน้าบาทหลวงข้างๆผมและพูดว่ารับค่ะ คือฉินซีตกลงไหมครับ”

เห็นได้ชัดว่าสูหยิงกำลังกลั้นความเจ็บปวด แต่ลู่เซิ่นก็ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่อธิบายอะไร มันจึงดูจะไม่สมเหตุสมผลมากนักที่เธอจะถามต่อ ทำได้เพียงพยักหน้าตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจนักที่ด้านหลังลู่เหวย

ในที่สุด ใบหน้าของลู่เซิ่นก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของความพอใจ เขายกตัวลุกขึ้นยืนพลางหันหน้ามองไปนอกโบสถ์

“ได้เวลาแล้ว”

ราวกับเป็นการยืนยันคำพูดของเขา ประตูโบสถ์ทั้งสองข้างค่อยๆเปิดออก

เวลาย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว ที่ห้องแต่งตัวของฉินซี

ความซับซ้อนในการใส่ชุดนั้นมากพอๆกับความงดงามของชุดแต่งงาน แม้จะได้ถังย่ามาช่วย แต่ตั้งสองก็ยังคงยุ่งจนเหงื่อตก

ทั้งคู่ไม่มีประสบการณ์เรื่องงานแต่งงานมาก่อน โดยหลังจากที่สวมชุดเจ้าสาวได้สำเร็จ ก็เพิ่งระลึกได้ว่าฉินซียังไม่ได้แต่งหน้า

ทั้งสองยิ้มให้กัน พลางหยิบเครื่องสำอางขึ้นมา

เครื่องสำอางที่ลู่เซิ่นเตรียมไว้ให้ค่อนข้างครบถ้วน ฉินซีกำลังจะยกมือขึ้นหยิบ แต่กลับถูกถังย่าหยุดไว้

“วันนี้ขอให้มีความสุขกับงานแต่งงานของเธอนะ เจ้าสาว” เธอพูดขึ้นพลางหยิบเครื่องสำอางขึ้นมา

ฉินซียิ้มจางๆ เธอเชื่อฟังในความหมายของเธอ ลดมือลงและหลับตา

ฝีมือการแต่งหน้าของถังย่านั้นเชี่ยวชาญมาก จนฉินซีถึงกับใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าที่บริษัทประชาสัมพันธ์ของเธอ ยังรวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งหน้าด้วยหรือเปล่า

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พูดขึ้น “ลืมตาขึ้นได้แล้ว”

ฉินซีส่องกระจกอยู่นาน เธอได้คำตอบในใจแล้วว่าถังย่าน่าจะรวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งหน้าด้วยจริงๆ

อันที่จริงฉินซีสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้แต่งอะไรมากมายก็ดูดีได้ ดังนั้นถังย่าจึงไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก เพียงแค่แต่งเติมเล็กน้อย เพื่อให้ใบหน้าของเธอดูงดงามยิ่งขึ้น

ดูเหมือนว่า ใบหน้าของฉินซีในกระจก งดงามพอที่จะเป็นชนวนให้บ้านเมืองล่มสลายเลยก็ว่าได้

“มัวแต่ดูอยู่นั่นแหละ” น้ำเสียงของถังย่าฟังดูยิ้มๆ “จวนจะได้เวลาแล้วนะ มาสวมผ้าคลุมหน้าแล้วเตรียมตัวไปกันเถอะ”

ใบหน้าของฉินซีเผยให้เห็นรอยยิ้มเคอะเขิน

ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับทุกคน

ถังย่าที่ปกติมักจะดูเหมือนหุ่นยนต์ แต่วันนี้กลับหยอกเย้าตลอดทั้งวัน ราวกับพยายามซ่อนความคิดที่แท้จริงของเธอผ่านเรื่องตลก ส่วนลู่เซิ่นที่ปกติมักจะพูดเพียงแค่รอบเดียวโดยไม่มีการเน้นย้ำรอบสองอย่างเด็ดขาด ทว่าวันนี้เขากลับเดินเตร็ดเตร่ที่ประตูห้องฉินซีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนฉินซีเองก็เช่นกัน จากนิสัยที่เป็นคนเด็กขาด วันนี้กลับกลายเป็นหญิงสาวตัวน้อยแสนอ่อนโยน ที่เมื่อถูกแซวก็ไม่รู้จะแย้งกลับอย่างไร ได้แต่ยิ้มเขินและหน้าแดงเท่านั้น

หรือนี่จะเป็นเสน่ห์ของงานแต่งงานกันนะ

ดูเหมือนทุกคนจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในขณะนี้

ฉินซีหันหลังกลับและให้ถังย่าสวมผ้าคลุมหน้าให้อย่างว่านอนสอนง่าย

หลังจากสวมผ้าคลุมแล้ว ความไม่ปกติของงานแต่งงานในครั้งนี้ก็ปรากฏเด่นชัดขึ้น

มันแตกต่างจากผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวในชุดตะวันตกที่เป็นเหมือนปีกจักจั่น ไม่รู้ว่าเส้นด้ายเหนือศีรษะของฉินซีทำมาจากอะไร มันมีน้ำหนักเบาแต่กลับปิดบังใบหน้าของฉินซีได้อย่างมิดชิด แม้แต่ถังย่าที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็เห็นเพียงเงารางๆและเดาไม่ออกว่าเป็นฉินซี

ทั้งสองคนรู้ดีว่าทำไมลู่เซิ่นถึงเลือกผ้าคลุมหน้าที่ทำจากวัสดุนี้ แต่ก็ยังแอบบ่นอุบอิบในใจ

ถ้าจะเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ใช้ชุดแต่งงานแบบจีน และใช้ผ้าคลุมศีรษะคลุมให้มิด แบบนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าคนที่อยู่ด้านในคือใคร

แต่ถึงจะบ่นอย่างนั้นก็เถอะ ฉินซีก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยการประคับประคองของถังย่า

ราคาของชุดแต่งงานที่สวยงามนี้ค่อนข้างแรง ชายกระโปรงบานออกจนแทบจะไม่สามารถผ่านประตูได้ ตลอดทางมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนคอยช่วยเหลือ จนกระทั่งฉินซีเดินไปถึงสกู๊ตเตอร์ได้อย่างราบรื่น

ทันทีที่สกู๊ตเตอร์เริ่มเคลื่อนที่ จู่ๆหัวใจของฉินซีก็เต้นตาม

ระหว่างทางนับตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงตอนนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทำให้เธอชุลมุนวุ่นวายไปหมด จนถึงตอนนี้ จากความวุ่นวายก็ค่อยๆสงบลง

“ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว”

จู่ๆความคิดนี้ก็พุ่งเข้ามาในหัวและครอบงำฉินซี

หลังจากที่รู้สึกตัว เธอก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา

อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ฝ่ามือและปลายจมูกมีเหงื่อออก ความถี่ในการกระพริบตาเพิ่มขึ้น

ในขณะที่ฉินซีกำลังประเมินตัวเองในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท