Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1285

ตอนที่ 1285

บทที่ 1285 จากลา

ลู่เซิ่นแสดงออกว่าดูถูกคนพวกนั้นไม่น้อย “คนพวกนี้ขนาดมางานแต่งของผมยังไม่พาภรรยาตัวเองมา เห็นชัดพวกเขาคิดยังไงกับการแต่งงานใช่มั้ยครับ”

สูหยิงเม้มปาก โต้แย้งไม่ออกจริงๆ

“พวกคนที่ล้อเล่นกับการแต่งงานมาร่วมงานของผม ผมรู้สึกว่าไม่เป็นมงคล” ลู่เซิ่นไม่พอใจ

สูหยิงหรี่ตา “ลู่เซิ่น แกอย่าทำเกินไปดีกว่า อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ แกเอาเรื่องนี้มาเฉไฉ”

ลู่เซิ่นถูกเปิดโปงความในใจก็ไม่รู้สึกผิด ได้แต่ยักไหล่พูดกับสูหยิง “ผมไปหาพ่อล่ะ”

สูหยิงได้แต่ทำมือ ปล่อยให้เขาไป

ลู่เซิ่นรู้ว่าเมื่อตัวเองปรากฏตัวแล้ว จะกลับขึ้นไปชั้นบน ปลีกตัวออกจากงานไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เป็นไปตามคาด เขาเดินไปได้ไม่เท่าไร ก็มีหลายคนเดินเข้ามาหาเขา

เขาจึงเลิกล้มความคิดจะกลับขึ้นไป ยกแก้วแชมเปญที่บริกรถือมา สูดลมหายใจลึก ปรับอารมณ์ของตัวเอง เริ่มชนแก้วครึกครื้นกับแขกเหรื่อ

ห้องโถงใหญ่บ้านตระกูลลู่หรูหราโอ่อ่า แขกที่มาร่วมงานล้วนเป็นมหาเศรษฐีและบุคคลสำคัญ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ หญิงสาวสวมชุดสวยสง่า

แต่ลู่เซิ่นกลับรู้สึกว่าที่นี่เหมือนพื้นที่ใหญ่โตว่างเปล่า

ที่ที่ไร้คนสำคัญที่สุด ไม่มีอะไรจะมาเติมเต็มได้

……

ฉินซีลากชุดแต่งงานแสนหนักเลี้ยวตามถังย่าไปหลายเลี้ยว ขณะที่ใกล้ถึงห้องแต่งตัว อยู่ๆ ถังย่าก็ถามขึ้น “ฉันคิดว่าเธอจะไม่กลับไปเสียอีก”

ฉินซียิ้ม “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ”

ถังย่าไม่หยุดเดิน ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้า เปิดประตูให้ฉินซี

รอจนฉินซีเข้าไป เธอค่อยพูดต่อ “เห็นๆ ว่าเธอยังอาลัยอาวรณ์”

ฉินซีรู้ว่าพวกเธอมีเวลาไม่มาก จึงไม่หยุดให้เสียเวลา ขณะที่ถังย่าช่วยถอดชุดเจ้าสาว เธอก็พูดไปด้วย “ถ้าเป็นไปได้ ลู่เซิ่นต้องยืนกรานให้ฉันอยู่แน่ค่ะ”

ถังย่าถอดสายรัดที่หลังออก เดินไปข้างหน้าช่วยเธอจัดชายกระโปรง “เธอแน่ใจขนาดนั้นหรือ”

ฉินซียิ้ม “ฉันแน่ใจค่ะ”

คงจะไม่มีใครเข้าใจสายตาของลู่เซิ่นแปลว่าอะไรได้ดีไปกว่าเธอ

เช้าวันนี้ตอนที่แยกกัน สายตาของลู่เซิ่นบ่งบอกว่าต้องการให้เธออยู่

แต่ตอนที่ลู่เซิ่นอุ้มเธอไปโยนช่อดอกไม้ ฉินซีรู้ว่า เขาตัดสินใจแล้ว จะปล่อยเธอไป

การกระทำที่อยู่นอกเหนือแผนไม่ใช่เรื่องปกติที่ลู่เซิ่นจะทำ

แต่ในเมื่อเขาเลือกทำอย่างนี้ ก็บ่งบอกชัดแล้ว เขาตัดสินใจที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข เขาต้องการทำอะไรอย่างอื่นเพื่อระบายความไม่พอใจของตัวเอง

ถังย่าไม่ตอบ เพียงแต่ก้มหน้าช่วยเธอถอดชุดแต่งงานที่ซับซ้อน

ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ถอดชุดแต่งงานเรียบร้อย

ฉินซีหันไปสวมชุดของตัวเอง หยิบกระดาษเปียกบนโต๊ะเครื่องแป้งมาลบเครื่องสำอาง มองกระจกเริ่มเช็ดเครื่องสำอาง

ถังย่าพินิจชุดแต่งงานที่เพิ่งเอากลับไปแขวน ยืนห่างไปไม่กี่ก้าวมองท่าทางของฉินซีในกระจก

ฉินซีลบเครื่องสำอางคล่องแคล่ว ไม่นานก็เช็ดออกเกือบหมด

เธอทิ้งกระดาษเปียกที่เลอะแล้วลงในถังขยะ ลุกขึ้น ทำท่ากับถังย่าให้รู้ว่าเธอพร้อมแล้ว

ถังย่ากลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

สายตาของเธอดูเหมือนจะทะลุผ่านฉินซี กำลังมองอย่างอื่น

ฉินซียืนอยู่ที่เดิมหลายวินาที ขณะที่เธออดไม่ได้กำลังจะเรียกดึงสติของถังย่า อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา

“เขารักเธอมากจริงๆ”

ฉินซีอึ้งไป

“รัก” คำนี้ออกมาจากปากของถังย่า ฟังแล้วรู้สึกว่าขัดกับตัวเธอ

แต่วันนี้การแสดงออกที่ถังย่าตั้งใจทำเป็นล้อเล่นเวลานี้เลือนหายไปจากใบหน้าของเธอ รอยยิ้มที่ปกติแล้วจะเห็นบ่อยๆ ก็หายไปเช่นกัน การแสดงออกของเธอเวลานี้ว่างเปล่า เหมือนคนกำลังจมน้ำที่คว้าขอนไม้ลอยน้ำไม่ถึง

ฉินซีเม้มปาก ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี

ถ้าหากพยักหน้า เหมือนเป็นการโอ้อวด

การโอ้อวดเช่นนี้กับถังย่าในเวลานี้ ดูเหมือนเป็นคมมีดบาดที่รับไม่ได้

ดีที่ถังย่าไม่ได้คาดหวังให้เธอตอบคำถามอะไร เธอพูดออกมาอย่างนั้นก็เหมือนกับทอดถอนใจเท่านั้น ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอที่ว่างเปล่าก็หายไป รอยยิ้มเหมือนหุ่นยนต์ที่คุ้นเคยก็กลับมาบนใบหน้าของเธออีกครั้ง

“ไปกันเถอะ”

เธอไม่ได้มองฉินซีอีก เดินไปผลักประตูออกไปข้างนอก

ฉินซีไม่ชักช้า เดินตามออกไป

เสียงฝีเท้าของพวกเธอเงียบหายไปที่มุมหนึ่งไม่นาน ก็มีเงาคนหนึ่งเดินลับๆ ล่อๆออกมาจากระเบียงอีกด้านหนึ่งของห้องแต่งตัว

คนผู้นี้มองซ้ายมองขวา แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่แถวระเบียง ก็ผลุบหายเข้าไปในห้องแต่งตัว

ไม่กี่นาทีต่อมา คนรับใช้สองสามคนถูกส่งขึ้นมา ต่างสบตากัน แล้วเคาะประตู

“คุณนายน้อยคะ คุณชายลู่ให้พวกเรามาตามค่ะ”

“เสร็จแล้วค่ะ” เสียงหญิงสาวตอบอย่างรวดเร็ว

พวกคนรับใช้ได้คำตอบแล้วยังไม่ผละไป รออยู่เงียบๆ ที่หน้าประตู

คนที่อยู่ข้างในดูเหมือนจะคาดเดาสถานการณ์นี้ได้ ผ่านไปไม่นานก็เปิดประตูออกมา

เวินจิ้งโผล่หน้าออกมา

“ฉันถอดชุดแต่งงานแล้ว ช่วยจัดการให้เรียบร้อยด้วยค่ะ” เวินจิ้งมองไปทางชุดแต่งงานที่แขวนเรียบร้อย แล้วเดินออกมา

เธอเปลี่ยนเป็นชุดกี่เพ้าสีแดงรัดรูปเรียบร้อยแล้ว ดูแล้วสัดส่วนโค้งเว้ากะทัดรัด รูปร่างอ้อนแอ้น

คนรับใช้หลายคนส่งสายตากัน พยักหน้ากับเวินจิ้ง “ค่ะ”

เมื่อพูดจบ สองคนก็เดินเข้าไปจัดเก็บชุดแต่งงานในห้องแต่งตัว ส่วนที่เหลือก็พาเวินจิ้งลงไปข้างล่าง

ติดที่เวินจิ้งอยู่ตรงนั้น พวกเขาซุบซิบกันไม่ได้ แต่อาศัยตอนที่เวินจิ้งไม่สนใจพวกเธอส่งสายตากัน

บ้านตระกูลลู่ใหญ่โตขนาดนี้ ยากที่จะไม่มีความลับ

แม้ว่าคนรับใช้บ้านตระกูลลู่จะซื่อสัตย์ภักดีกับตระกูลลู่ ไม่มีทางที่จะเปิดเผยความลับแม้แต่เล็กน้อยกับภายนอก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ซุบซิบกันเอง

อย่างเช่นคุณชายลู่พาเวินจิ้งกลับมาบ้านเมื่อหลายเดือนก่อน ช่วงหลายเดือนมานี้เขากลับบ้านมาบ่อยๆ ก็จริง แต่พวกเขาเห็นชัด ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ใสยิ่งกว่าน้ำเปล่า ความรู้สึกเกินขอบเขตไม่มีสักนิด แม้ว่าสองคนจะร่วมโต๊ะกินข้าวกัน แม้แต่สายตาที่มองกันและกันยังไม่มี

อย่างเช่นคุณชายลู่แม้จะประกาศแต่งงานกับเวินจิ้ง แต่หลายเดือนมานี้แยกห้องกันอยู่กับเวินจิ้ง

อย่างเช่นคืนก่อนแต่งงานคุณชายลู่ไม่ได้กลับบ้าน เวินจิ้งก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด

เรื่องที่ลู่เซิ่นกับเวินจิ้งไม่ได้มีใจให้กันแต่กลับแต่งงานกัน คนรับใช้ถกเถียงกันไปหลายทาง บางคนรู้สึกว่าลู่เซิ่นเพียงแต่ใช้เวินจิ้งเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

งานแต่งงานจัดใหญ่โตเอิกเกริกขนาดนี้ แต่เจ้าสาวไม่เปิดเผยหน้าตาตั้งแต่ต้นจนจบ

“คุณชายลู่ทำไมไม่ให้คุณเวินจิ้งออกมาล่ะ” หญิงรับใช้คนหนึ่งถาม “มีอะไรน่าอายหรือไง“

คำถามนี้ของเธอได้รับการสนับสนุนจากหลายคน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท