Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1295

ตอนที่ 1295

บทที่ 1295 ภายหลัง

หนึ่งปีต่อมา

เมื่อฉินซีตื่นขึ้นมา หน้าจอโทรศัพท์ข้างเตียงก็สว่างวาบขึ้น

เธอลุกขึ้นหยิบมันมาเปิดดู เป็นข้อความจากจ้านเซิน ส่งมาว่า “มาที่นี่” เพียงสองคำ

ข้อความของเขาสั้นและกระชับมาโดยตลอด ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาดูจะโดดเด่นมากขึ้น ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ฉินซีก็จะเข้าใจเองได้

ฉินซีถอนหายใจเบาๆ ลุกจากเตียงไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะเดินออกจากห้อง

ที่ทางเดินเธอได้พบกับคนหน้าใหม่ที่ปีนี้เพิ่งได้เข้าร่วมในองค์กร

มีเพียงไม่กี่คนที่กระซิบคุยกัน พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองฉินซีจากนั้นก็เงียบลง ก่อนค้อมศีรษะเพื่อทักทายฉินซี

สีหน้าของฉินซีไม่แสดงอารมณ์ใด เธอเพียงพยักหน้าตอบรับโดยไม่หยุดเดิน ทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่จ้องมองมายังเธอจากข้างหลัง

“เธอเจ๋งมาก” หญิงสาวเพียงคนเดียวในผู้มาใหม่พึมพำ

เด็กผู้ชายสองคนข้างๆเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ …เหมือนใครกันนะที่ฉันเห็นเมื่อวาน!”

หญิงสาวทำหน้างงเป็นครั้งที่สอง ก่อนหันไปถามว่า “ถังย่าเหรอ?”

เสียงของเธอเบามากราวกับว่ากลัวคนอื่นจะได้ยิน

เด็กชายพยักเป็นพัลวัน “ใช่แล้ว คือเธอ”

ถังย่าพยายามอย่างสุดกำลังในปีนี้ ตำแหน่งของเธอก็ยิ่งจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายในองค์กรก็คงเป็นแค่จ้านเซินเท่านั้นที่เธอยังเป็นรองอยู่

ดวงตาของเธอเย็นชาทว่ารอยยิ้มของเธอสุภาพ ทั้งเฉียบขาดและดุดัน แค่เพียงสายตาของเธอเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนที่มองมาหวาดกลัว

ทว่าฉินซีกลับมองเห็นแค่ความไร้พลังในตัวเธอ

เธอเดาได้ว่าทำไมถังย่าถึงทำเช่นนี้

ถ้าไม่สามารถเป็นคนที่ถูกเขารักได้ ก็จงเป็นคนที่เขาขาดไม่ได้

เมื่อเห็นถังย่าเป็นแบบนี้ ในฐานะคนเดียวที่รู้ความจริง ฉินซีไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก

แต่เธอก็รู้ ว่าหลังจากใช้เวลาทั้งปีในองค์กร จากสายตาของคนอื่นๆที่มองมา ฉินซีกับถังย่าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

ไม่ต้องบอกว่าเธอผิดหวังแค่ไหน ความเฉยเมยที่เธอแสดงออกมันก็แค่เปลือกนอก เธอก็คล้ายกับถังย่า บางครั้งฉินซีก็ไม่รู้ ว่าจริงๆแล้วเธอเป็นแบบนั้นหรือไม่

เพราะว่าจริงๆแล้วเธอก็ไม่ใช่คนของในองค์กร หัวใจเธอ อยู่กับใครบางคนที่อยู่ไกลออกไป

เธอก็แค่แสร้งทำตัวกลมกลืนเท่านั้น

โชคดีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น …กระทั่งจ้านเซินก็ไม่

ฉินซีหยุดอยู่ตรงหน้าห้องทำงานของจ้านเซิน เธอเคาะประตู

เสียงของจ้านเซินดังมาจากข้างใน “เข้ามา”

ฉินซีผลักประตูเข้าไป เธอเดินเข้าไปหาจ้านเซินที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เธอนั่งลง หลังจากจ้านเซินทำท่าทางให้เธอนั่งตรงข้ามเขา “นี่คือข้อมูลของภารกิจนี้ ลองอ่านดู”

ฉินซีไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจ เธอแค่ก้มลงไปอ่าน

ข้อมูลนั้นเรียบง่าย มีรายละเอียดมากมายที่เธอต้องไปอ่านเพิ่ม เธอแค่ดูผ่านๆก่อนเงยหน้า

“เข้าใจไหม?” จ้านเซินถาม

ฉินซีพยักหน้า “อืม”

จ้านเซินดูท่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์มือถือของเขากลับดังขึ้นก่อน

เขาขมวดคิ้ว ถ้าไม่สำคัญพอเขาจะตัดสายทิ้ง แต่เมื่อก้มลงมองไปที่โทรศัพท์ เขาก็ทำไม่ได้ แค่เม้มปากก่อนมองไปทางฉินซี “ถ้าอย่างนั้นเธอไปเตรียมตัวเถอะ ถ้ามีคำสั่งอะไรอีกฉันจะบอกเธออีกที ”

ฉินซีพยักหน้าเบาๆ ก่อนลุกขึ้นเดินจากไป

ถ้าเธอดูไม่ผิด คนที่เธอมาคือพ่อของจ้านเซิน

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จ้านเซินควรจะยึดอำนาจการควบคุมทั้งหมดขององค์กรมาจากพ่อของเขา แล้วทำไมถึงเห็นโทรศัพท์จากพ่อของเขา ทำไมจะต้องติดต่อกันอีก

ฉินซีได้แต่สงสัยในใจ ก่อนจะเก็บมันไว้ ไม่ได้ใส่ใจอีก

พอถึงห้องเธอก็เปิดเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างจริงจัง

จริงๆแล้วข้อมูลมีเพียงแต่สองแผ่นบางๆเท่านั้น ในห้องทำงานของจ้านเซินเธอดูแค่ผ่านๆเท่านั้น มีเพียงเหตุผลเดียวที่เธอจะต้องศึกษาอย่างรอบคอบ –

งานนี้สามารถเปิดโอกาสให้เธอได้พบกับลู่เซิ่น

ครั้งนี้เป้าหมายคือ เจ้าของบริษัทสำรวจแหล่งแร่ เขามีเอกสารลับอยู่ในมือ เอกสารลับนั้นมีผลต่อการสำรวจแหล่งน้ำมัน นี่คือสิ่งที่ฉินซีจะต้องหาวิธีการเพื่อที่จะได้มันมา เอกสารพวกนี้โดยทั่วไปจะได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนาและถูกเก็บไว้ในตู้นิรภัยหรือห้องนิรภัยของธนาคาร ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้มันมาง่ายๆ

แต่เมื่อเจ้าของจำเป็นต้องเอาเอกสารนี้ออกไปทำธุรกรรม โอกาสนี้ก็มาถึง

ในเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “อีกห้าวัน เรือสำราญในท่าเรือเมืองหนานจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ เขาคนนั้นจะนำเอกสารไปทำธุรกรรม”

ฉินซีมองไปที่คำหลักสองคำ “เมืองหนาน” และ “ฐานขุดเจาะน้ำมัน” พลันดวงตากลับเป็นประกาย

ตระกูลลู่ร่ำรวยจากเมืองหนาน เมื่อมาจับธุรกิจค้าขายน้ำมัน

มันเกี่ยวข้องกันหรือไม่?

คู่ค้าที่เป้าหมายต้องการร่วมลงมือ จะเป็นลู่เซิ่นหรือเปล่า?

ใบหน้าของฉินซีสงบ แต่หัวใจยังคงพองลมเหมือนลูกโป่งอัดแก๊สที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ถึงแม้ในปีที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟังทั้งหมดจะถูกนำออกไปหมดแล้ว ทว่าฉินซีกลับไม่เชื่อใจที่แห่งนั้น เธอมักจะสงสัยว่าโทรศัพท์เธอมีเครื่องดักฟังหรือเปล่า ประวัติเข้าอินเทอร์เน็ตจะถูกตรวจสอบหรือไม่ ดังนั้นเธอมักจะระวังทุกย่างก้าว เหมือนก้าวเดินอยู่บนพื้นน้ำแข็งบางๆ ไม่กล้าติดต่อลู่เซิ่น ไม่กล้าดูข่าวต่างๆของเขาที่ออกทางสื่อ กักเก็บความคิดถึงเขาไว้ในใจ คอยหาเรื่องที่จะได้เจอกันทุกครั้งที่มีภารกิจเข้ามา

เธอเหนื่อยมาก แต่ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

ถ้าหากคนที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้จะมุ่งไปที่ลู่เซิ่น ถ้าหากสองคนนั้นได้พบกัน ก็จะสะดวกขึ้นน่ะสิ… ?

ฉินซีพยายามระงับความคิดในใจของเธอ เพราะกลัวว่าถ้าคาดหวังเกินไป มันจะไม่เป็นดั่งหวัง แน่นอนว่าเธอไม่กล้าติดต่อลู่เซิ่น ดังนั้นจึงทำได้เพียงลุกขึ้นไปดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง และตั้งใจเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจนี้

เฝ้าดูวิดีโอที่กล้องวงจรจับมาได้ของเป้าหมายในภารกิจนี้ เพื่อหาว่าเขามีพฤติกรรมยังไง ดูช่องทางของลูกน้อง เรื่องที่ต้องทำมีอีกมาก

ดวงตาของฉินซีค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจริงจัง

เมื่อเธอจัดเรียงข้อมูลเสร็จ ท้องฟ้าข้างนอกก็มืดลงเสียแล้ว

ฉินซียืดตัวลุกขึ้น ท้องที่ร้องครวญครางขออาหาร ทำให้เธอตระหนักได้ว่าวันนี้ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

ตอนนี้ในแคนทีนคงไม่มีอะไรเหลือแล้ว

ฉินซีหน้ามุ่ย วางแผนที่จะหาอาหารแห้งเพื่อเติมเต็มท้องที่หิวของเธอ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก ฉินซีคุ้นเคยกับเสียงและความถี่ของการเคาะประตู ครั้งนี้เธอลุกขึ้นไปเปิดโดยไม่มีความลังเลทันที

เมื่อประตูเปิดออก คือถังย่านั้นเองที่ยืนอยู่ข้างนอก

ไม่มีอารมณ์บนใบหน้าของคนทั้งสอง ราวกับการพบกันมันคือภารกิจอย่างหนึ่ง

ฉินซีพยักหน้าเบาๆ ก้าวถอยหลังเพื่อให้ถังย่าเดินเข้ามาด้านใน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท