Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1319

ตอนที่ 1319

บทที่ 1319 ตรวจสอบเวินจิ้ง

เป็นฉินซีที่ปล่อยมือก่อน หันไปจ้องหน้ากับลู่เซิ่นที่ยืนนิ่ง : “หลังจากกลับไปแล้ว…..อย่าลืมโทรหาฉันนะ”

ลู่เซิ่นเม้มปาก ใบหน้าอมทุกข์อย่างเห็นได้ชัดเจน แต่หลังจากเงียบอยู่สักพัก ก็พยักหน้าขึ้น

หลินหยังถึงได้ถอนหายใจโล่งอกออกมา มองดูทั้งคู่ที่อยู่ตรงหน้าแล้วจึงคิดว่าพวกเขาทั้งคู่คงต้องการร่ำลากันตามลำพัง และรู้ว่าควรทำอย่างไร จึงได้เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป จากนั้นก็ปิดประตูห้องลง

ลู่เซิ่นเดินก้าวไปข้างหน้าทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หลินหยังปิดประตูลง แล้วยื่นมือไปคว้าฉินซีมากอดไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง

ฉินซียอมรับการกอดลาชั่วคราวนั้นแต่โดยดี และรู้ดีว่าการพรากจากลากันครั้งนี้คงไม่น่าจะนาน การพบเจอกันใหม่คงจะอยู่ในเร็วๆนี้ ความเจ็บปวดจากการกอดลาในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ

เวลาที่กอดกัน ทั้งคู่ต่างไม่พูดไม่จา

หลินหยังที่รอต่อไปไม่ไหว จึงได้มาเคาะประตูเบาๆ ฉินซีถึงได้โผล่ศีรษะออกจากอ้อมกอดของลู่เซิ่น แล้วค่อยๆผลักตัวออก : “ได้เวลาที่คุณต้องไปแล้ว”

ลู่เซิ่นเม้มปาก แล้วก้มหน้าลงจูบที่ริมฝีปากของฉินซีเบาๆ ทิ้งบางประโยคที่ข้างหูของฉินซีราวกับให้คำมั่นสัญญา : “รออีกหน่อยนะ ผมไม่ยอมให้ชีวิตดำเนินไปแบบนี้อีกต่อไป”

เมื่อพูดจบ เขาก็ได้ปล่อยมือแล้วก้าวถอยออกไป

ฉินซียิ้มเบาๆ

เธอก็อยากจะพูดประโยคนี้เช่นกัน

เธอรู้ดีกว่าใครๆว่าทำไมลู่เซิ่นถึงต้องพยายามมากเช่นนี้ แต่ว่าเรื่องนี้…..เป็นเพราะเธอ ถ้าต้องพยายามจริงๆ เธอต่างหากที่สมควรต้องเป็นคนพยายามมากกว่าถึงจะถูก

รอฉันหน่อยนะลู่เซิ่น รอให้ฉันมีโอกาสที่เหมาะสม ฉันจะต้องถอนตัวออกจากองค์กรอย่างแน่นอน

ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันอยู่สักพัก จนกระทั่งหลินหยังเคาะประตูอีกครั้ง ลู่เซิ่นถึงหันไปบิดประตู

ไม่มีใครกล่าวคำอำลา ลู่เซิ่นก็ไม่มีการหันหลังกลับมามอง ผลักประตูแล้วก็เดินจากไป

แต่กลับเป็นหลินหยังที่พยักหน้าให้กับฉินซี จากนั้นก็เดินตามลู่เซิ่นไปอย่างรีบร้อน

ฉินซีถอนหายใจ และค่อยๆก้มศีรษะลง เมื่อเสียงฝีเท้าของลู่เซิ่นได้หายไปในที่สุด

ตอนนี้เมื่อลู่เซิ่นจากไปแล้ว เธอกลับสงบสติแล้วคิดทบทวนอย่างใจเย็น

ความจริงเวินจิ้งก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยตอนที่อยู่ในห้องผู้ป่วย เพียงแต่ตัวเองแค่อคติกับสถานะของเธอ ถึงได้อ่อนไหวเช่นนั้น

แต่สิ่งนี้ได้เตือนเธอขึ้น

ฉินซีดูเหมือน…..ไม่เคยมีการตรวจสอบเวินจิ้งมาก่อน

ข่าวสารของเวินจิ้งที่เธอรับรู้นั้นล้วนมาจากลู่เซิ่น

ไม่ใช่เกิดความสงสัยในตัวเวินจิ้ง เพียงแต่จู่ๆฉินซีแค่รู้สึกอยากรู้เรื่องของเวินจิ้งเท่านั้น

เธอเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงยอมตกลงง่ายๆกับคำขอร้องของลู่เซิ่นที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้ เธอได้รับผลประโยชน์อันใดจากการรับปากในครั้งนี้ ฉินซีแทบจะรอไม่ไหวที่จะไปหาคำตอบ

ขั้นตอนการทำเรื่องออกโรงพยาบาลของลู่เซิ่นได้ทำเสร็จแล้ว สักพักก็มีคนมาเก็บของที่ห้องผู้ป่วย ฉินซีก็ไม่รีรอ รีบเดินออกไปทันที

เมื่อกลับมาถึงที่สาขา เวลาก็ใกล้หกโมงเย็น

ฉินซีเดินเข้าประตูไป พบว่าทุกคนในนั้นกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน

พนักงานธรรมดาเหล่านี้มีความแตกต่างจากสมาชิกองค์กรห้าคนที่เธอเจอเมื่อเช้า พวกเขาเห็นที่นี่เป็นเพียงบริษัทเท่านั้น และไม่ได้ผ่านการเรียนรู้จากองค์กร เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปที่มีทั้งความทุกข์และความสุข

เพราะฉะนั้น…..การเข้าสังคมกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นขึ้นมา

“ทุกท่านโปรดรอสักครู่” ฉินซีพูดเสียงสูง

ทุกคนจึงได้หยุดการเคลื่อนไหวแล้วหันมองมาที่เธอ

ฉินซียิ้มเบาๆ : “วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันมาทำงานที่นี่ จึงอยากจะเรียนเชิญทุกท่านทานอาหารร่วมกัน ทุกท่านโปรดจงให้เกียรติ”

สำหรับพวกเขาแล้ว ฉินซีถือว่าเป็นนายใหญ่ของพวกเขา ดังนั้นย่อมไม่มีคนปฏิเสธอย่างแน่นอน

ฉินซีได้จองร้านอาหารไว้แล้ว ทุกๆคนจึงได้ไปกันอย่างคึกคัก เธอแวะไปนั่งแต่ละโต๊ะอย่างให้เกียรติ จากนั้นก็สั่งให้เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากเธอ แล้วถึงได้จากไป

ถ้าเธออยู่ ทุกคนจะรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงจากไปก่อนเพื่อเหลือช่องว่างให้พวกเขา

ฉินซีเดินออกจากร้านอาหาร โบกมือเรียกรถมาหนึ่งคัน แล้วกลับไปที่สาขาเพียงคนเดียว

อาจเป็นเพราะอยู่ที่องค์กรมานาน กลับคุ้นชินความเหงาเช่นนี้กว่าความคึกคักเมื่อสักครู่

…..หรือบางทีความคึกคักของพวกเขา ไม่ใช่สิ่งแบบที่ฉินซีต้องการ

เมื่อคิดถึงพวกเขาที่ทำงานให้กับองค์กรโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ฉินซีรู้สึกว่าไม่รู้ว่าพวกเขาน่าสงสารดีหรือโง่เขลา

สักพักรถก็พาเธอกลับถึงที่สาขา ฉินซีก็รีบผลักประตูเข้าไป และเดินตรงไปที่ห้องพักของตัวเอง

ปิดประตูเสร็จ เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดคอมพิวเตอร์ของที่นี่

เป็นธรรมดาที่องค์กรได้เตรียมคอมพิวเตอร์ไว้สำหรับเธอเพื่อค้นหาขั้นสูงของข้อมูลบางอย่าง รวมไปถึงสิทธิ์การเข้าถึงฐานข้อมูลของบุคลากรต่างๆ

ดังนั้นการที่ฉินซีต้องการจะหาข้อมูลของคนปกติทั่วไป แทบจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ

ครั้นแล้วแม้แต่วินาทีเธอก็ไม่ยอมให้สูญเปล่า จึงได้เปิดระบบฐานข้อมูลขององค์กร และทำการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของตัวเอง จากนั้นก็พิมพ์ “เวินจิ้ง”สองคำนี้ แล้วก็กดปุ่มค้นหา

ไม่นานก็มีข้อความปรากฏที่หน้าจอ

สักพักฉินซีก็สแกนอ่านเจอเนื้อหาที่เธอต้องการ หลังจากที่กดเข้าไปดู และทำการสแกนแวบหนึ่ง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

บรรทัดแรกของเนื้อหานั้นเขียนไว้อย่างชัดเจน

“เวินจิ้ง เพศหญิง สมรสแล้ว”

“สมรสแล้ว” สามคำนี้เหมือนดั่งกริชแทงทะลุดวงตาของฉินซี เธอแทบจะรวบรวมสติของตัวเองทั้งหมด แล้วบังคับให้ใจเย็นๆ

ปฏิกิริยาแรกของฉินซีคืออยากรู้ว่า —— เธอนั้นแต่งงานกับลู่เซิ่นใช่หรือไม่

ที่เธอมีความสงสัยเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะเธอไม่เคยเห็นใบสมรสของตัวเองกับลู่เซิ่น

ในความทรงจำทั้งหมดของฉินซี มีเพียงตัวเองที่ได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น

ไม่เคยได้เห็นใบหย่า และก็ไม่เคยได้เห็นใบทะเบียนสมรส สำหรับข่าวที่บอกว่าเธอกับลู่เซิ่นไม่ได้หย่ากันจริงๆนั้น มีเพียงคำพูดฝ่ายเดียวของลู่เซิ่น

แต่ฉินซีเลือกที่จะเชื่อลู่เซิ่น เพราะว่าเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกหกตัวเองในสถานที่แบบนี้

อย่างนั้น….. เวินจิ้งแต่งงานแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องแต่งกับลู่เซิ่น แต่กลับแต่งกับคนอื่น

เรื่องราวกลับยิ่งตาลปัตร

ลู่เซิ่นกับเวินจิ้งทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวแล้ว แต่กลับมาแสดงว่าเป็นคู่รักต่อหน้าคนอื่น

ลู่เซิ่นทำแบบนี้เพราะมีเรื่องที่ลำบากใจ ฉินซีเข้าใจดี แต่ว่าเวินจิ้ง….. นั้นมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำเช่นนี้

ในโลกใบนี้ไม่มีองค์กร “เฟิง” ที่เป็นองค์กรแห่งที่สองเช่นนี้แน่ ที่มีกฎข้อบังคับการต่อต้านการแต่งงานการมีความรักที่ตั้งโดยมนุษย์ เพราะฉะนั้นเวินจิ้งไม่มีทางทำเช่นนี้เพราะเหตุผลเดียวกับพวกเขา

ถ้าอย่างนั้นแล้วยังมีเหตุผลอันใดอีก

สามีของเธอไม่ได้หย่าจากเธอ ก็แปลได้ว่าทั้งคู่มีความเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับการหย่าร้าง แต่ว่าเธอกลับไม่มีอุปสรรคใดๆในการอยู่ข้างๆลู่เซิ่นในฐานะคุณหญิงลู่เป็นเวลาถึงหนึ่งปี และไม่มีใครที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน

ฉินซียิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ทำได้เพียงรอดูต่อไป

ข้อมูลเขียนไว้อย่างละเอียด แทบรวบรวมความลับทั้งหมดของเวินจิ้งที่คนอื่นไม่รู้ไว้ในนี้ แต่ว่าฉินซีไม่ได้มีความต้องการที่จะสอดส่องเรื่องข้อมูลของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เธอแค่เพียงต้องการอยากรู้ที่มาของคำว่า “สมรสแล้ว” ของเวินจิ้งเท่านั้น

เธอมีลางสังหรณ์รางๆว่าหากรู้เองรู้เรื่อง “สมรสแล้ว” ความลับนี้ ก็จะทำให้รู้ว่าทำไมเวินจิ้งถึงตกลงแต่งงานหลอกๆให้กับลู่เซิ่น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท