Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1323

ตอนที่ 1323

บทที่ 1323 การเผชิญหน้า

ฉินซีดึงสายตากลับมา หันไปมองเวินจิ้ง เลิกคิ้ว ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “เวินจิ้ง อึม…เธอนึกว่าคุณนายลู่ใครๆ ก็เป็นได้หรือไง อย่าให้ฉันรู้ว่าคุณไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ ไม่อย่างนั้น…”

“เธอเป็นคุณนายลู่แล้ว คุณไม่มีวันจะมีโอกาสนั้นแล้ว” มู่วี่สิงแทรกขึ้นอย่างเย็นชา สายตาที่มองฉินซีราวกับมีมีด “ผมไม่อยากเห็นคุณปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก ไม่อย่างนั้นมีวิธีจัดการคุณแน่”

ฉินซีประหลาดใจ

อย่างที่คิด ผู้ชายคนนั้นติดกับแล้ว

เขายังไม่รู้ว่าการแต่งงานของเวินจิ้งกับลู่เซิ่นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เขาก็ยังทุ่มเทปกป้องเธอ

คิดถึงตรงนี้ ฉินซีอดไม่ได้ที่จะมองเวินจิ้งนานหน่อย พูดต่อไป “เธอหากิ๊กสายตาแหลมคมทีเดียว ไม่นึกผู้ชายแบบนี้จะชอบผู้หญิงอย่างเธอ”

ถึงแม้จะรู้ว่าลู่เซิ่นไม่ได้รักใคร่เวินจิ้ง แต่ฉินซีรู้ดีเช่นกัน ลู่เซิ่นไม่ได้รังเกียจเวินจิ้งแน่นอน กระทั่งชื่นชมด้วยซ้ำไป ไม่อย่างนั้นไม่ว่าคนนั้นจะมีประโยชน์แค่ไหน ลู่เซิ่นไม่มีทางใช้เธอเป็นข้ออ้างการแต่งงาน

คิดถึงตรงนี้ ฉินซีพบว่าตัวเอง…หึงอีกแล้ว

เวินจิ้งมองฉินซีที่ตั้งใจยั่วยุ ในใจเกิดความคิดผุดขึ้นหลายอย่าง

เริ่มจากที่ฉินซีตั้งใจเรียกเธอ “คุณนายลู่” สามคำนี้ เวินจิ้งงงไม่น้อย

เธอน่าจะรู้ดีว่าเวินจิ้งกับลู่เซิ่นมีความสัมพันธ์ปลอมๆ เธอต่างหากที่เป็นภรรยาตัวจริงของลู่เซิ่น แต่เธอกลับมาต่อว่าอะไรทำนองนี้ที่นี่ เธอทำอะไรกันแน่

คิดอยู่นาน ในที่สุดเธอก็เกิดความคิดอย่างหนึ่ง

…ฉินซีคงไม่ใช่เพราะแม้แต่ชื่อคุณนายลู่ ก็อิจฉาหรือเปล่า

แต่เมื่อคิดใจเขาใจเรา ถ้าวันนี้ตัวเองอยู่ในสถานะของฉินซี กับผู้หญิงที่ใช้คำว่า “คุณนายลู่” ตัวเองก็คงจะไม่ถูกชะตากับผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน

เวินจิ้งถอนหายใจอยู่ในใจ ชื่อคุณนายลู่ ฉันไม่อยากได้จริงๆ

แต่เวินจิ้งไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาฉอดใส่ได้ง่ายๆ เธอยื่นมือไปห้ามมู่วี่สิงที่เห็นว่ากำลังโมโห ยิ้มยั่วฉินซี “คุณอยากเป็นคุณนายลู่ งั้นก็ต้องใช้ความสามารถเองสิ วิธีนี้โลว์เกินไปหรือเปล่า คุณฉิน“

สามคนในที่นั่น เวินจิ้งพูดชัดเจนไม่ได้ แต่เมื่อมองฉินซีหน้าขรึมลงนิดหนึ่ง เวินจิ้งรู้ดี เธอต้องเข้าใจความหมายของตัวเองแน่

เธอมาเป็นคุณนายลู่ ก็เพราะฉินซีเองที่ไม่อาจอยู่ข้างลู่เซิ่นได้อย่างเปิดเผยไม่ใช่หรือ ถึงได้ต้องให้เธอมาเป็นตัวแทน ถ้าจะอิจฉาสถานะ คุณนายลู่ อย่างนั้นฉินซีก็ต้องหากลับมาเองสิ

แน่นอนว่าฉินซีฟังเข้าใจความนัยของเธอ สีหน้าเคร่งขรึม ในใจกลับรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

เวินจิ้งคนนี้…เทียบกับที่คิดไว้ ไม่ธรรมดา

ถึงอย่างไร คืนนี้เธอได้ข้อมูลที่ต้องการมากพอแล้ว ยังเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ชัดๆ ด้วย ถึงแม้ไม่มีวิธียืนยันสถานะของเขา แต่พอจะมีข้อมูลแล้ว กลับไปหาต่อ ไม่ยากที่จะรู้ว่าเขาคือใคร

อีกอย่างตัวเองเพิ่งพูดแรงๆ ไป ผู้ชายคนนี้ดูแล้วเหมือนใกล้จะระเบิดออกมา

ฉินซีไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ต่อให้คนรุม

เธอมองเวินจิ้งครั้งสุดท้าย แล้วเดินออกไปจากห้อง

คลับคล้ายคลับคลา จะได้ยินเวินจิ้งพูดกับผู้ชายคนนั้น “ปล่อยเธอไปเถอะค่ะ”

ฉินซีไม่เข้าใจเวินจิ้ง และไม่รู้ว่าเวินจิ้งเข้าใจตัวเองแค่ไหน แต่หลังจากคืนนี้ ทั้งสองคนใกล้ชิดกันขึ้นอย่างประหลาด

……

ลู่เซิ่นเพิ่งจะตื่นนอน ก็รู้สึกจิตใจกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก ตอนที่ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำ เกือบทำแก้วตกแตก

“…มีเรื่องอะไรนะ” ลู่เซิ่นพึมพำ หยิบมือถือขึ้นมา

เหมือนสัญชาตญาณ เขารู้สึกว่าที่ตัวเองไม่สบายใจจะต้องเกี่ยวกับฉินซี เมื่อดูเวลาชัดเจน แน่ใจว่าฉินซีน่าจะยังไม่นอน จึงโทรไปหาฉินซี

ฉินซีรับวิดีโอคอลอย่างรวดเร็ว

“คุณอยู่ที่ไหนครับ” ลู่เซิ่นมองเห็นด้านหลังเธอที่ไม่คุ้นเคย จึงถามเธอ

ฉินซียิ้มตาหยีหันมือถือไปรอบๆ ให้เขาเห็นสถานที่เธออยู่ “ฉันกินข้าวอยู่ข้างนอกค่ะ”

เธอเพิ่งเดินเชิดออกมาจากห้องส่วนตัวของเวินจิ้ง รู้ว่าเวินจิ้งห้ามไม่ให้เขาตามเธอ ตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็น จึงกลับมาที่ห้องของตัวเอง เรียกพนักงานมา สั่งอาหารเต็มโต๊ะ

ลู่เซิ่นเห็นอาหารน่ากินเยอะแยะ กับใบหน้ายิ้มแย้มของฉินซีบนหน้าจอ จิตใจก็สงบลงไปมาก ถามเธอ “ทำไมอยู่ๆ ออกมากินข้าวล่ะครับ”

ฉินซียักไหล่ “เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองหนาน ฉันเคยมากินข้าวที่นี่ รู้สึกว่าอร่อยใช้ได้ ตอนนี้มีโอกาสกลับมาแล้ว ก็เลยไม่พลาดค่ะ”

ทั้งสองคนคุยสัพเพเหระอีกไม่เท่าไร ลู่เซิ่นเห็นฉินซีดูผ่อนคลาย ไม่เหมือนจะมีปัญหาอะไร ก็ค่อยๆ วางใจ พอดีกับที่หลินหยังเรียกเขา จึงวางสาย

ตอนที่หลินหยังเอาเอกสารเข้ามาให้ ในใจรู้สึกกังวล

เมื่อดูจากตารางการทำงานตอนนี้ของพวกเขา อีกสามสัปดาห์ลู่เซิ่นถึงจะได้กลับไปเมืองหนานอีกครั้ง เขาเห็นกับตาว่า ลู่เซิ่นกับฉินซีหวานชื่นกันขนาดไหน แยกกันตั้งสามสัปดาห์…ไม่แน่อาจจะทำให้อารมณ์ลู่เซิ่นแย่แค่ไหนนะ

แต่เมื่อเข้ามาแล้วจริงๆ ถึงเห็นว่าลู่เซิ่นนิ่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก จนหลินหยังอดไม่ได้ที่จะละอายใจ

…ตัวเองเป็นผู้น้อยใช้ความคิดไม่ดีไปคาดเดาหัวหน้าตัวเอง

แต่เมื่อลู่เซิ่นลงชื่อในเอกสารเสร็จ ก็อดไม่ได้ที่จะมองตารางทำงานในคอมพิวเตอร์ ถามขึ้นเหมือนกำลังครุ่นคิด “ระหว่างนี้…หาเวลาไปเมืองหนานสักหน่อยไม่ได้หรือ”

ในใจหลินหยังมีรอยยิ้ม——เขารีบด่วนสรุปเกินไป

ยังดีที่ลู่เซิ่นแค่ถามไปงั้นๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไปเมืองหนานจริงๆ เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ก็ยิ้มนิดๆ ทำมือให้หลินหยังออกไปได้

หลินหยังกลับตะลึงเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา อยู่ๆ ก็เกิดความคิดอยากจะ “ช่วยเขาปรับตารางทำงานไปเมืองหนานสักหน่อย”

……

ฉินซีไม่รู้ว่าคนทางนั้นคิดอะไร วางสายแล้ว เธอกินอาหารท่าทางสวยงามไปพลาง ในใจจัดเรียงเบาะแสที่ได้มาคืนนี้

เวินจิ้งยังมีเยื่อใยกับสามีของเธอ แถมดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้ตั้งใจหลบซ่อน

ขณะที่สามีของเวินจิ้งไม่รู้ความจริงเรื่องการแต่งงานของเวินจิ้งกับลู่เซิ่น และยังปกป้องเธอเต็มที่ เวินจิ้งเองก็ไม่หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงลู่เซิ่นตรงๆ ต่อหน้าสามี

ส่วนตัวเวินจิ้งเอง…ก็ไม่ใช่คนนิ่มๆ อย่างที่ฉินซีคิด แต่เธอมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่จินตนาการไว้มาก

ส่วนปัญหาที่ว่าทำไมเวินจิ้งแต่งงานแล้วยังตกลงแกล้งทำเป็นภรรยาลู่เซิ่น ถึงแม้ฉินซีจะยังไม่ได้คำตอบ แต่ก็พอจะเดาได้ลางๆ

เวินจิ้ง…รู้หรือไม่ว่าตัวเองยังอยู่ในสถานะแต่งงาน

ฉินซียิ้มอย่างนึกสนุกขึ้นมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท