Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1339

ตอนที่ 1339

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 1339 โต้ตอบ

ดังนั้นฉินซีจึงคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนจะค่อยพูดออกมา “ลู่เซิ่น ถ้าหากมู่วี่สิงกับเวินจิ้งกลับมาคืนดีกัน คุณจะมีปัญหาอะไรไหม?”

ความประหลาดใจบนใบหน้าของเขาที่ฉายชัดออกมาเป็นของจริง เขาเลิกคิ้วไปยังฉินซี ก่อนถามกลับ “ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้? ผมต้องการให้เวินจิ้งกลับไปหาเขาได้โดยเร็วที่สุด”

ฉินซีประหลาดใจเล็กน้อย: “แต่ … เธอเป็นภรรยาที่คุณป่าวประกาศให้คนทั้งโลกเห็นนะ ถ้าเป็นแบบนี้ ”

“ฉินซี” ลู่เซิ่นขัดจังหวะทันที “ผมไม่เคยพูดชื่อเวินจิ้งหรือการมีตัวตนของเธอในที่สาธารณะเลย และไม่เคยพาเธอออกงานไปไหน คนที่รู้ถึงการมีตัวตนของเธอ นอกจากพวกเรา ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ภรรยาที่ผมประกาศสู้สาธารณะ นอกจากคุณ ก็ไม่มีใครแล้ว”

ใจของฉินซีสั่น

… ในการเปรียบเทียบของลู่เซิ่น เธอระมัดระวังความคิดของตัวเองไม่ให้ขึ้นไปอยู่บนจุดยอดสุด

แต่ … นี่มันเป็นสิ่งที่เธอคิดจริงๆ

“ลู่เซิ่น” ฉินซีพูดด้วยความยากลำบาก “ฉันรู้ ว่าคนที่คุณอยากจะแต่งงานด้วยมีแค่ฉัน และก็รู้ว่าคุณก็ไม่ได้คิดอะไรกับเวินจิ้ง แต่ตอนนี้คุณต้องยอมรับ ว่าข้างๆคุณ ที่เวินจิ้งยืนอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ”

ท้ายที่สุดเธอก็ยังคงไม่สามารถพูดคำว่า “หึง” ได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เซิ่น เขาคงเข้าใจสิ่งที่ ฉินซีต้องการบอกแล้ว

“ดังนั้น” ฉินซีมองไปที่หน้าจอที่มีลู่เซิ่นมองตรงมาด้วยรอยยิ้มที่สดใสสว่างจ้า “ถ้าหากว่าฉันจะทำให้พวกเขาสองคนกลับมาคืนดีกัน คุณจะยอมไหม”

ลู่เซิ่นไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวที่จะตอบออกมา “แน่นอน”

คนที่อยู่ในเรื่องนี้ด้วยไม่ใช่มีเพียงแค่ ฉินซี เขาก็ด้วย เขารู้ดีกว่าใคร แต่เพียงไม่ได้สนใจมัน

แต่ถ้าเขาสามารถแก้ปมนี้ได้ เขาก็ยินดีที่จะเห็นมันเกิดขึ้นแน่นอน

แต่แค่……

“คุณวางแผนจะทำอะไร” ลู่เซิ่นมองไปเธอ ความตั้งใจตอนแรกหายวับไป

เธอเพิ่งลุกขึ้นมาจากเตียง โดยมีโต๊ะข้างเตียงเป็นพื้นหลัง ชุดนอนของเธอพาดที่ไหล่อย่างหลวมๆ ใบหน้าสวยยังคงดูงัวเงีย

ลู่เซิ่นเลียริมฝีปากของเขาโดยไม่รู้ตัว

… ห่างกันแค่อาทิตย์เดียว แต่เขารู้สึกว่าเขาและฉินซีไม่ได้เจอกันมานานแล้ว

ในขณะนี้ ความคิดถึงที่เขามีต่อฉินซีมันค่อยๆรุนแรงขึ้น

แต่ฉินซีที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าจอไม่รู้ว่า ความคิดของเขาไม่ค่อยที่จะอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่ เธอคิดสักพัก ก่อนพูดออกมา “เหตุผลที่มู่วี่สิงจะสร้างปัญหาให้ฉัน เป็นเพราะว่าเขาคิดว่าคุณและเวินจิ้งเป็นสามี ภรรยากันจริงๆ แต่คุณกลับมาคบชู้กับฉัน ประเด็นที่สำคัญที่สุด ก็คือให้เขาได้รับรู้ ว่าใจของเวินจิ้งยังคงมีแต่เขา คุณกับเวินจิ้งมันไม่มีอะไรเลย ”

ลู่เซิ่นเหม่อลอย พูดคำว่า “อืม” ออกมา

“ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า ความรู้สึกของมู่วี่สิงที่มีต่อเวินจิ้งได้ถูกปกปิดไว้อยู่ แต่ท่าทีของเวินจิ้งยังคงคลุมเครือ ทำให้เขาเข้าใจผิด ดังนั้นถ้าหากฉันทำให้เวินจิ้งขยับไปข้างหน้าอีกนิด ทำให้มู่วี่สิงรู้ว่าเวินจิ้งยังคงแคร์เขาอยู่ เรื่องนี้ก็ถูกแก้ไขแล้ว ”

ฉินซีไม่สังเกตลู่เซิ่นที่กำลังเหม่อลอย ยังคงอธิบายต่อไปคนเดียว เมื่อมองขึ้นไปสบตาเขาที่ดูไม่มีสติ จึงถามออกมา “นี่คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่า?”

ลู่เซิ่นเรียกสติที่หายไปกลับคืนมา เขาพยักหน้า “ใช่สิ คุณจะทำกับเวินจิ้งยังไง?เมื่อก่อนผมโน้มน้าวเธอหลายรอบ ใครๆก็ดูออกทั้งนั้นว่าระหว่างเขาสองคนยังคงมีเยื่อใยกันอยู่”

“คุณก็ดูออกเหรอ” ฉินซีประหลาดใจเล็กน้อย

ลู่เซิ่นยักไหล่ “ไม่ใช่เพราะเธอไม่เต็มใจที่จะหันกลับไปมองมู่วี่สิง ผมแนะนำตระกูลร่ำรวยของเมืองหนานให้เธอ แต่เธอก็ไม่สน ทุกครั้งที่ไปบาร์ ก็จะไปนั่งดื่มคนเดียว”

เขาพิสูจน์กับฉินซีอยู่ตลอด ว่าเขาไม่ได้ชอบเวินจิ้ง

ถ้าชอบกันจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแนะนำใครให้เธอรู้จัก

แต่ฉินซีก็ไม่เคยสังเกตเห็นถึงจุดสำคัญตรงนี้เลย ดวงตาของเธอเป็นประกาย “เวินจิ้ง… จะไปที่บาร์ไหม?”

ลู่เซิ่นพยักหน้าเบาๆ อย่างไม่ค่อยแน่ใจ “อืม ฉันแนะนำบาร์ของเถ้าแก่โจวให้เธอ เธอก็ไปบ่อยนะ ทำไม คุณมีแผนอะไร?”

ฉินซีกัดริมฝีปากเบาๆ “วิธี … ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มันก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่”

ลู่เซิ่นรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “วิธีอะไร?”

ฉินซีกลอกตา “ลู่เซิ่น คุณยังมียานั่น อยู่หรือเปล่า?”

ฉินซีเน้นคำว่า “นั่น” อย่างยากลำบาก และบอกใบ้ให้ลู่เซิ่นผ่านทางสายตา

ลู่เซิ่นผงะ “ยาปลุกเซ็กส์”

ฉินซียักไหล่ “คนน่าสงสารสองคนนั้น พวกเขายังมีความรู้สึกต่อกัน ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าได้อยู่บนเตียงเดียวด้วยกัน วันรุ่งขึ้นก็คงแก้ไขปัญหานี้ได้แน่ เพราะดูท่าเวินจิ้งคงจะไม่ยอมอยู่กับมู่วี่สิงสองต่อสอง นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุด”

หลังจากที่ฉินซีพูดจบ และเงยหน้าขึ้นมาเธอก็เห็นรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของลู่เซิ่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าจอ เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “มีอะไรเหรอ ฉันพูดอะไรผิด?”

ลู่เซิ่นส่ายหัว “ไม่ คุณพูดถูก”

เขารู้สึก … เหมือนได้เห็นฉินซีเมื่อตอนเจอกันครั้งแรก

ทั้งดูสงบและน่ามอง ใบหน้าสวยงามนั้นเหมือนงูพิษที่มีลวดลายตระการตา บอกให้คนรู้ว่าตัวเองมีพิษร้าย แต่ก็ยังไม่วายอยากที่จะเข้าไปใกล้

แม้ว่าฉินซีจะพยายามอย่างมากที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องจักรเย็นชาอย่างคนอื่นๆ ในองค์กร แต่เมื่ออยู่ในนั้น เธอก็ต้องซึมซับวิธีการอันโหดร้ายต่างๆออกมาอยู่ดี

ลู่เซิ่นอยู่กับฉินซีหนึ่งปี โดยที่เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับองค์กรหลงเหลืออยู่ ดังนั้นสิ่งที่องค์กรสอนเธอมาหลายปีจึงไม่ได้แสดงออกมา ตอนที่เขาได้อยู่กับเธอ มีบางครั้งที่รู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้ากับผู้หญิงที่สั่งให้ทุกคนหนีห่างออกจากระเบิดอย่างใจเย็นตอนนั้น เป็นคนละคนกัน

แต่แค่ตอนนั้น เขาไม่ได้คิดมาก

แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกตอนที่ฉินซีกลับมาอยู่ข้างๆ ตัวเอง

แม้แต่หัวใจของเขาเอง ก็ยังเต้น

ฉินซีรู้สึกว่าลู่เซิ่นแปลกไปเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดถึงเรื่องเดิมต่อไป “คลับที่เวินจิ้งชอบไปคือบาร์ของเถ้าแก่โจว ถ้าเราใส่ยาลงไปนิดหน่อย ก็สำเร็วแล้ว ข้างกายเวินจิ้ง มีคนคอยคุ้มกันไหม?”

ลู่เซิ่นพยักหน้า “มู่วี่สิงส่งบอดี้การ์ดมาแล้ว”

ฉินซียิ้มด้วยความพึงพอใจ “ถ้าอย่างนั้นก็พอดีเลย ฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายเธอ ใส่ยาให้เธอก่อน ให้เธอไปหาเขา ถ้าหากเธอมีปัญหาอะไร มู่วี่สิงต้องเป็นคนแรกที่รู้แน่ หลังจากนั้นจะไม่เกิดอันตรายอะไรอีก”

หลังจากนั้นไม่นาน ฉินซีก็วางแผนไว้เกือบหมดแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท