Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1357

ตอนที่ 1357

บทที่ 1356 การหยั่งเชิง

จ้านเซินเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือของเขาเหยาจ้าวควรจะมาถึงแล้ว

จ้านเซินยังคงมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องปรึกษากับเขา

“อืม ฝันดี”

ฉินซีตอบอย่างเชื่อฟังรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

ความเงียบและความรู้เดียงสาของเธอทำให้จ้านเซินไม่ระวัง

แม้จ้านเซินจะมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเธอ

แต่จ้านเซิน กลับเชื่อในความสามารถของตัวเอง

เขามั่นใจมากว่าเป็นไปไม่ได้เลย ที่ฉินซีจะฝ่าวงล้อมที่เขาจัดขึ้นและหนีออกไปได้

ดังนั้นเขาสามารถจากไปด้วยความมั่นใจ

“ฝันดี”

จ้านเซินประคองเธอให้นอนลงช่วยห่มผ้าให้เธอ จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไป

ฉินซีเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้ ฟังเสียงฝีเท้าของเขาไปผสมกับความรู้สึกที่หลากหลายในใจของเธอ

บางทีมันอาจจะเหนื่อยเกินไปแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งวัน แต่เธอก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ฉินซีหลับตาและค่อยๆ หลับไป

……

เมื่อจ้านเซินออกจากโรงพยาบาลมา

เหยาจ้าวทักทายเขา เขาสวมเสื้อหนังสีดำกลืนไปกับค่ำคืนอันมืดมิด

เสียงของเขาแหบแห้งไม่มีขึ้นลงใดๆ ราวกับหุ่นยนต์ไร้อารมณ์

แต่เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกนี่ เป็นลักษณะเฉพาะของคนในองค์กรของพวกเขา

ในทางตรงกันข้าม หากคนในองค์กรมีคนที่มีความรู้สึกจึงจะแปลกประหลาด

ถ้าฉินซีเห็นเขาต้องประหลาดใจแน่นอนว่า เหยาจ้าวกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

แม้ว่าเขาคนก่อนจะเป็นคนในองค์กรแต่นิสัยของเขายังคงสภาพของโลกภายนอกและเขายังช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่เพียงหนึ่งปีต่อมา เหยาจ้าวดูเหมือนจะถูกซึมซับไปแล้ว

ที่จริงแล้ว เหยาจ้าวได้รับประสบการณ์อะไรบ้างในหนึ่งปีนี้

จ้านเซินมองไปที่เขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ขึ้นรถก่อนค่อยพูด”

แม้ว่าที่นี่จะปลอดภัยแต่จ้านเซินก็ยังไม่วางใจ

เขาต้องหาที่ลับและพูดคุยกับเหยาจ้าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้

เหยาจ้าวพยักหน้าและก้าวตามจ้านเซินไป

ทั้งสองมาถึงฐานลับของจ้านเซิน

“ก่อนอื่นงานแรกคือการสืบหาประวัติของ โจวซิง ฉันอยากรู้ว่าเขาติดต่อใครเมื่อเร็วๆนี้และเขาไร้มลทินหรือเปล่า

จ้านเซินไม่สุภาพอีกต่อไปทันทีที่เขาเข้าประตู เขาอธิบายงานอย่างตรงไปตรงมา

เหยาจ้าวพยักหน้า “ได้ครับ”

ไม่มีประกายในดวงตาของเขาราวกับว่าเขาสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

“ฉินซีอยู่ที่โรงพยาบาลตอนนี้”

จู่ๆ จ้านเซิน ก็พูดออกมา

เหยาจ้าวซึ่งเดิมทีไม่มีการแสดงออกมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาเอ่ยชื่อฉินซีเขาจึงถามเสียงแหบว่า “ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง”

แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดในระดับนี้และใกล้ชิดสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆในองค์กร

จ้านเซินส่ายหัว “หมอแซ่โจวคนนั้นบอกว่าอาการตอนนี้ของฉินซีไม่ได้อยู่ในขั้นดี แต่ฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงดังนั้นฉันหวังว่านายจะไปช่วยฉินซีตรวจสอบอีกทีในวันพรุ่งนี้”

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจ้านเซิน จึงรีบร้อนขนาดนั้นที่จะเรียกเหยาจ้าวมา

เมื่อไม่มีคนของตนเอง จ้านเซินจะกังวลใจอยู่ตลอด

เหยาจ้าวเคยช่วยฉินซีหลบหนีมาก่อนแต่เขาถูกค้นพบโดยจ้านเซิน และถูกส่งไปฝึกตอนนี้ท่าทางเขาจึงเปลี่ยนเป็น “เชื่อง” มาก

หลังจากผ่านการฝึกครั้งนั้น ตอนนี้จ้านเซินจึงไว้ใจเหยาจ้าวมาก

“ครับ”

เหยาจ้าวไม่ได้พบฉินซีมานานแล้ว ในใจก็ต้องการพบเธอ

เพียงแต่ไม่คิดว่าฉินซีหนีไปได้นานขนาดนี้แล้ว สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีไปจากการควบคุมของจ้านเซินได้

นี่อาจเป็นชะตากรรมของพวกเขา

อยากจะหนีจากองค์กรอย่างบ้าคลั่งพยายามทุกวิถีทางแต่ก็ยังหนีไม่พ้น

ราวกับตาข่ายที่ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรัดแน่นมากเท่านั้น ยิ่งลึกเข้าไปในเลือดเนื้อความเจ็บปวดก็พร่าเลือน

ในใจของเหยาจ้าวกระสับกระส่าย แต่ภายนอกยังคงเย็นชาไม่แยแสกับทุกสิ่ง

ในปีนี้เขาได้เรียนรู้วิธีอำพรางอารมณ์ของตัวเอง

“เอาล่ะ วันนี้ก็ดึกแล้ว นายพักที่นี่ก่อนเถอะ”

หลังจากที่พูดจบจ้านเซินก็ทิ้งเขาไว้และขึ้นไปชั้นบน

เหยาจ้าวเองก็หาห้องพักและไปพักผ่อน

ใช้เวลาทั้งคืนอย่างสงบ

วันถัดมา

ฉินซีได้ยินเสียงผลักประตูอย่างชัดเจน

ประสบการณ์ที่ได้รับในช่วงหลายปีของการฝึกทำให้เธอลุกขึ้นนั่งโดยไม่รู้ตัว

ด้วยดวงตาสีเหลืองอำพันมองไปที่ประตูอย่างระแวดระวังฉินซีกำหมัดแน่นและพร้อมที่จะต่อสู้

ทันทีที่จ้านเซิน และเหยาจ้าว เข้ามาพวกเขาก็เห็นท่าทางของฉินซีเหมือนนกที่หวาดกลัว

จ้านเซินขมวดคิ้วรู้ว่าเธอยังไม่ตื่นเต็มที่ “ฉินซี … ”

ทันทีที่เขาพูดฉินซีก็โยนแจกันในมือพุ่งมาที่เขา

นี่เป็นปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนึกของฉินซีทั้งหมดและเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าจ้านเซิน

จ้านเซินมองไปที่แจกันที่โยนมา แววตาของเขาไม่เปลี่ยนไป

เขายืนนิ่งและดูแลกันที่ทุบใส่เขา

จ้านเซินยื่นมือออกมาและหยิบแจกันขึ้นมาอย่างสบายๆ

ฉากที่อันตรายทำให้จ้านเซินกู้สถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย

เขาถือมันไว้ในมือและเดินไปทางฉินซี

“ฉินซี ผมเอง”

จ้านเซินพูดออกมาด้วยเสียงต่ำและมองตรงไปที่ฉินซี

เขาวางแจกันลงบนโต๊ะฝ่ามือกว้างจับไหล่ของฉินซีและควบคุมเธอด้วยการกระทำที่ทำให้เธอคลั่งอีกครั้ง

ฉินซีกลับมามีสติอีกครั้ง

เธอเงยหน้าขึ้นและเผชิญหน้ากับดวงตาคู่ดำของจ้านเซิน “จ้านเซิน … ”

ฉินซีพึมพำกับตัวเองเสียงของเธออ่อนลง

ราวกับว่าการตอบสนองกลับมาแล้วฉินซีก็ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษ ฉันขอโทษเมื่อฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่ … ”

มือทั้งคู่และเสียงของเธอกำลังสั่นหายใจไม่ออกเล็กน้อย

ท่าทางละเอียดอ่อนเช่นนี้ทำให้หัวใจที่เย็นชาของจ้านเซินอ่อนลงและสับสนในทันที

จ้านเซินจับมือที่สั่นเทาของเธอด้วยความปวดใจและพูดเบาๆว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายฉันรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่นานเธอก็จะดีขึ้นและน้ำหนักเล็กน้อยของเธอไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บ”

ในดวงตาของเธอเปล่งประกายเล็กน้อยเมื่อเขาพูดออกมา

เธอรู้โดยสัญชาตญาณว่าคนที่ไม่มีความสามารถ ไม่สามารถทำร้ายจ้านเซินได้แต่ฉินซีแค่อยากลองและเธอไม่ต้องการถูกขังที่นี่เหมือนสัตว์เลี้ยง

แม้ว่าเมื่อครู่ฉินซีจะมีปฏิกิริยาบ้างโดยไม่รู้ตัวแต่ก็จงใจมากกว่า

จ้านเซินไม่ได้สังเกตจุดนี้

เขาคิดว่าฉินซีก้มศีรษะลงเพียงเพราะรู้สึกผิด

แต่เขาไม่รู้ว่าฉินซีกังวลว่าเธอจะไม่สามารถซ่อนสิ่งต่างๆจากสายตาอันแหลมคมของจ้านเซินได้

เธออยู่กับจ้านเซิน มานานและเธอรู้ดีว่าเขาจะใช้วิธีใดในการจับผิดตัวเองดังนั้นเธอจึงเชี่ยวชาญในการหลีกเลี่ยงอย่างชาญฉลาด

“อืมๆถ้าฉันทำร้ายนาย ฉันคงจะโทษตัวเอง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน