Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1359

ตอนที่ 1359

บทที่ 1359 การแข่งขัน

คำพูดของโจวซิงนั้นเหมือนกับการตบหน้าจ้านเซินท่ามกลางผู้คน

หลังจากได้ยินคำคัดค้านของโจวซิง สีหน้าของจ้านเซินก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึ้นมา

ฉินซีเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของเขา ในใจก็เหงื่อตกกับโจวซิง

เธอมองไปที่โจวซินอย่างเงียบๆบอกให้เขาหุบปากและหยุดพูด

แต่ก็กล้าเตือนแค่เล็กน้อย เมื่ออยู่ภายในสายตาจ้านเซินมันเป็นเรื่องยากมากที่จะสื่อสารกัน

โจวซิงเข้าใจการบอกใบ้ของฉินซี แต่เขาก็ยังยืนยันในความคิดของตน

เขามองตรงไปที่จ้านเซินซึ่งยืนอยู่ที่เดิม ราวกับว่ากำลังรอคำตอบของจ้านเซินอยู่ หากคำตอบของเขาไม่น่าพอใจ เขาก็จะต่อสู้กับจ้านเซินต่อไปด้วยเหตุผล

จ้านเซินมองท่าทางราวกับลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวความตายของเขาริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย “คุณหมอโจว คุณหมอเหยาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดในองค์กรเขาเคยเป็นแพทย์ของฉินซีมาก่อนและเขามีประสบการณ์มากกว่าคุณในด้านนี้”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอย่างเด็ดขาด แต่ทุกคนก็สามารถฟังออกได้ว่า ระหว่างคำพูดของจ้านเซินคือการบอกโจวซินว่าอย่าสอดให้มากนี่คือคำเตือน!

ดูเหมือนว่าโจวซินจะไม่เข้าใจ “ในเมื่อหมอเหยา เคยเป็นแพทย์ประจำตัวของฉินซี แล้วทำไมเธอจึงไม่หายขาดแต่กลับแย่ลง”

สายตาของเขาลดต่ำไปที่เหยาจ้าว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

เมื่อได้ยินโจวซินถามถึงฝีมือการรักษาของเขา เหยาจ้าวซึ่งเดิมทียืนอยู่ที่เดิมเหมือนก้อนน้ำแข็งก็ปรากฏรอยยิ้มที่เหน็บแนมบนใบหน้าของเขา “ผมไม่รู้ว่าหมอโจวจบการศึกษาจากวิทยาลัยไหนถึงมั่นใจในฝีมือการรักษาของตัวเองนัก คุณต้องการเรียนรู้จากผมไหมครับ”

เหยาจ้าวเป็นผู้หลงใหลในศาสตร์ทางการแพทย์และเขารักในวิชาชีพนี้

ในอดีตหลังจากเรียนจบเขาเตรียมจะเป็นหมอเพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคม

แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ เหยาจ้าวจึงต้องเข้าองค์กรและทำงานให้กับจ้านเซิน

เมื่อพูดถึงวิชาชีพของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเหยาจ้าวไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกคนอื่นดูถูก

โดยสัญชาตญาณแล้ว โจวซิงรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนอ่อนแออย่างแน่นอนและคนที่สามารถเข้ามาในองค์กรได้นั้นผ่านการคัดเลือกการฝึกอบรมเฉพาะทักษะ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเขาและจะไม่มีวันอ่อนแอไปกว่าเขา เขาแข่งกับเหยาจ้าวจะไม่มีโอกาสชนะ

แต่เมื่อนึกถึงฉินซี เขากัดฟันตอบรับ

“เอาสิ แข่งก็แข่ง”

โจวซิงยักคิ้วอย่างมั่นใจราวกับเด็กหนุ่ม

เขาเลือดร้อนขนาดนั้น ซึ่งตรงข้ามกับความสงบเยือกเย็นของเหยาจ้าว

ฉินซีที่นั่งอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เฝ้าดูฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อให้กับโจวซิง

ความสามารถเหยาจ้าวยากที่จะจัดการขนาดไหน เธอมีประสบการณ์มาก่อน

แม้ว่าโจวซิง ก็ไม่เบาแต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยาจ้าว

โจวซิง ในตอนนี้ เพียงเพื่อตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงเลือกที่จะดันทุรัง

หากแต่โจวซิงกลับลืมไปสิ่งหนึ่ง

เขาไม่ต้องแข่งก็ยังได้ ยังมีโอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นต่อหน้าจ้านเซินอีก

หากโจวซิง แพ้หลังการทดสอบจ้านเซินจะใช้ทักษะทางการแพทย์ของเขาไม่ได้เรื่องมาเป็นข้ออ้างในการขับไล่โจวซิงออกไป ถ้าเป็นเช่นนี้ เขาจะไม่สามารถช่วยส่งข่าวได้อีกต่อไป

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นในใจของฉินซีก็กระวนกระวายขึ้นมา

เธอกำผ้าปูที่นอนและพูดอย่างกังวล “ไม่ได้”

เสียงของฉินซีรีบร้อนเล็กน้อยและสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เธอทันที

จ้านเซินจ้องมองเธออย่างตรงไปตรงมาราวกับพิจารณาว่าทำไมปฏิกิริยาของเธอถึงใหญ่โตนัก

เมื่อรู้สึกตัวว่าเมื่อครู่ตัวเองควบคุมสติไม่ได้ฉินซียิ้มและพูดเพื่อแก้สถานการณ์ “คุณหมอโจว หมอเหยาคุณมาที่นี่เพื่อรักษาฉันหรือมาทดลองกับฉันกันแน่ ตอนนี้มีผู้ป่วยคนไหนให้พวกคุณแข่งกันเหรอ ฉันไม่อยากกลายเป็นเครื่องมือเพื่อชื่อเสียงของพวกคุณ ”

เธอนั่งเงียบๆบนเตียงผู้ป่วยภายนอกดูสงบ

ในความเป็นจริง มือที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่มนั้นกำหมัดแน่น และเล็บอันแหลมคมฝังลึกลงไปบนฝ่ามือเพื่อเตือนให้เธอข่มมันไว้และ

อย่างไรก็วู่วามไม่ได้เด็ดขาด

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา เหยาจ้าวและโจวซิงถึงกับผงะ

ทั้งสองมองไปที่จ้านเซิน ราวกับรอให้เขาตัดสิน

ฉินซีรู้โดยอัตโนมัติว่า จ้านเซินเป็นจุดสำคัญ ตราบใดที่จ้านเซินไม่เห็นด้วยการแข่งนี้ก็ไม่สามารถเนินต่อไปได้ คิดได้เช่นนี้ ความคิดของฉินซีก็เปลี่ยนไป เธอยิ้มและมองไปที่จ้านเซินด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน “จ้านเซินนายว่าที่ฉันพูดถูกหรือเปล่า นายเรียกคุณหมอเหยามาไม่ใช่เพื่อรักษาฉันให้หายเร็วที่สุดเหรอ หรือว่านายต้องการให้ฉันอยู่ท่ามกลางการรักษาที่วุ่นวายของพวกเขา กลายเป็นหนูทดลองแล้ว ก็แย่ลงทุกวันเหรอ”

เธอโยนทางเลือกที่เหมาะสมไว้ในมือจ้านเซิน ถ้าจ้านเซินยังรู้สึกรักหรือชอบตัวเธออยู่บ้าง ก็ควรรู้ว่าต้องทำอย่างไร

แววตาของฉินซีสดใสมาก และในช่วงหนึ่ง จ้านเซินรู้สึกว่าความคิดในใจของเขาไม่สามารถเก็บงำไว้ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ

เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของเธอ จ้านเซินก็ขมวดคิ้ว “แน่นอนอยู่แล้วว่าเพื่อให้เธอหายเร็วๆนี้”

เสียงแหบทุ่มดังออกมาจากเขา

ฉินซีถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้

โชคดีที่จ้านเซินยังคงเมตตา เธอไม่เช่นนั้นคงจะซวยจริงๆ

ฉินซีไม่รอให้เขาพูดจึงพูดต่อ”ถ้างั้น ให้หมอเหยาตรวจฉันก่อนหมอโจวไม่ต้องกังวลหมอเหยาเป็นมืออาชีพและเขาจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อฉัน ”

เธอขยิบตาให้โจวซิง อย่างขี้เล่นโต้ตอบกับโจวซิง ภายในสายตาของจ้านเซินราวกับว่า เธอเป็นคนไข้ธรรมดาแค่หยอกล้อกับหมอที่เป็นห่วงเธอและไม่มีอะไรผิดปกติ

ฉินซีรู้ว่ายิ่งแสดงสิ่งที่กล้าหาญมากขึ้น จ้านเซินก็จะไม่ลืมความสงสัยที่ฝังลึกอยู่ได้

ในทางตรงกันข้ามยิ่งปกปิดซ่อนเร้นมากเท่าไหร่ จ้านเซินก็จะยิ่งขุดคุ้ยจนถึงที่สุด

เหตุที่ฉินซีขอให้เหยาจ้าวตรวจเธอก็เพราะว่าเธอรู้ว่าจ้านเซินให้เหยาจ้าวตรวจว่าเธอแกล้งทำหรือไม่และเธอก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ถ้าเป็นเหยาจ้าวคนก่อน ฉินซีจะรู้สึกวางใจมากที่ได้ส่งตัวให้เขา

เธอรู้ว่าเหยาจ้าวก็เหมือนกับเธอ แม้ภายนอกเขาจะยอมจำนนต่อจ้านเซินและองค์กร แต่ในใจกลับเฝ้ารอการหลบหนีในเร็ววันโดยตลอด

พวกเขาก็คนมีเลือดมีเนื้อไม่เหมือนหุ่นยนต์ในองค์กรที่ถูกล้างสมอง

พวกเขาเคยมีประสบการณ์ในโลกภายนอกและไม่สามารถให้คำตอบสถานที่หนาวเหน็บและไร้ความปรานีเช่นที่แห่งนั้นได้

แต่ว่า…

เหยาจ้าวในตอนนี้ทำให้ฉินซีรู้สึกไม่แน่ใจ

เขาเหมือนเมฆหมอกที่อยู่ตรงหน้าแต่ก็มองเห็นไม่ชัด

แม้ว่าจะมีสิ่งที่ไม่แน่นอนมากมายแต่ตอนนี้ฉินซีก็ทำได้เพียงต้องเสี่ยงเท่านั้น

เธอพนันได้เลยว่าเหยาจ้าวอยู่เคียงข้างเธอ จิตใจของเขาแน่วแน่และเขาช่วยเหลือเธอมากมายในช่วงแรก เขาจะต้องไม่ถูกกลืนกินอย่างง่ายดาย

“ฉินซี คุณ…”

ดวงตาของโจวซิง เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าเธอตกลงจริง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท