Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1368

ตอนที่ 1368

เหยาจ้าวขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น : “ฉินซี คุณรู้ไหมว่าจ้านเซินนั้นรู้สึกต่อ…..”

เขาเพิ่งจะหลุดปากพูด ก็นึกเสียใจขึ้น

นี่เป็นเรื่องระหว่างฉินซีกับจ้านเซิน เขาไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่ง

“ช่างเถอะ!”

เหยาจ้าวหลับตาอย่างทุกข์ใจ โดยไม่พูดไม่จาใดๆอีก

แต่ต่อมความรู้สึกไวของฉินซีรู้สึกได้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร

เธอก็เคยคิดวิตกอยู่กับปัญหานี้อยู่นานสองนาน

ฉินซีเงยหน้าขึ้นแล้วพูดช้าๆ : “เหยาจ้าว คุณอยากจะบอกเรื่องที่จ้านเซินชอบฉันใช่ไหม”

เธอไม่ใช่คนโง่ เธอย่อมรับรู้ถึงในสิ่งที่จ้านเซินปฏิบัติต่อเธอ มีความแตกต่างไปจากการปฏิบัติต่อผู้อื่น

ถึงแม้ว่าจ้านเซินจะไม่เคยสารภาพกับเธอ แต่ฉินซีก็สามารถเดาออกได้

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ฉินซีอมคำพูดไว้ในปาก เธอต้องการอยากพูดอธิบายให้ชัดเจนกับจ้านเซิน แต่เมื่อเห็นใบหน้านั้นของเขา เธอจึงเลือกที่จะไม่พูด

นิสัยของจ้านเซินนั้น ฉินซีย่อมรู้ดีกว่าใคร

เธอกังวลว่าถ้าเธอบอกออกไปว่าในใจตัวเองมีเจ้าของแล้ว จ้านเซินคงจะนำระเบิดไปปาใส่ลู่เซิ่น

จากนั้นก็คงจะขังเธอให้อยู่ในองค์กร และไม่ให้เธอติดต่อกับโลกภายนอกได้อีก

เมื่อนึกถึงภาพนั้น ฉินซีก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังใกล้จะเป็นบ้าแล้ว

เธอจะต้องไม่มีวันกลับไปเป็นแบบนั้นอีก จะต้องไม่อีกแน่นอน

เหยาจ้านึกไม่ถึงว่าฉินซีจะมองขาดได้ถึงเพียงนี้ เขาลืมตาดำขลับกะพริบขึ้นด้วยความประหลาดใจ

เขาเม้มปาก : “คุณรู้หมดแล้วหรอ”

เหยาจ้าวไม่รู้ว่าฉินซีไปรู้มาจากไหน และรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงเรื่องที่จ้านเซินนั้นชอบเธอ คำถามเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก

แต่สิ่งที่เขาอยากรู้ก็คือ เมื่อฉินซีรู้เรื่องนี้แล้ว เธอจะทำอย่างไรต่อไป

“อืม”

ฉินซีพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ

เหยาจ้าวก็ถามต่อขึ้น : “แล้วคุณคิดอย่างไร”

เขาอยากรู้ความคิดของฉินซี จะได้เตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ฉินซีสบตากับสายตาคู่ของเขานั้นที่อยากรู้อยากเห็น: “ฉันต้องการออกไปจากองค์กร”

ต่อหน้าเหยาจ้าว ฉินซีไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังซ่อนเร้นเลยสักนิด

เธอรู้ว่าเหยาจ้าวเป็นฝ่ายของตัวเอง เธอไม่จำเป็นเสแสร้งต่อหน้าเขา

อีกทั้งการบอกแผนการของตัวเองให้กับเหยาจ้าว เหยาจ้าวจะสามารถช่วยเหลือเธออย่างลับๆ

เมื่อเธอหนีออกไปได้แล้ว เธอจะต้องคิดหาวิธีกลับมาช่วยเหยาจ้าวให้ได้

ขณะที่ฉินซีพูดนั้น ดวงตาสีอำพันประกายแสงของความตื่นเต้น ที่แสดงให้เห็นว่าเธอมีความปรารถนาที่จะเจอแสงสว่างที่อยู่ด้านนอกอีกครั้ง

ฉินซีมีความต้องการที่จะออกไปมาก เหยาจ้าวนั้นรู้ดี

เหยาจ้าวมองตรงไปที่เธอ : “แล้วเธอจะทำอย่างไรกับจ้านเซิน”

ตามนิสัยความดื้อรั้นของจ้านเซิน เมื่อเห็นสิ่งที่ถูกใจ จะต้องเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ เขาไม่มีวันที่จะยอมปล่อยฉินซีไปแบบง่ายๆ ดังนั้นผลสุดท้ายที่ได้ก็คือความพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย หรือไม่ก็คนใดคนหนึ่งที่ต้องตาย เหยาจ้าวไม่ต้องการที่จะเห็นภาพแบบนี้

ถ้าหากเป็นไปได้ ฉินซีและเขาก็คงต้องการการจบลงแบบสันติ

เผชิญหน้ากับคำถามของเหยาจ้าว ฉินชีส่ายหน้า : “ฉันไม่รู้ ฉันไม่อยากทำร้ายจ้านเซิน แต่ว่าฉันไม่ได้ชอบเขาจริงๆ ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาก็คือพี่น้อง และฉันก็ไม่สามารถจะมีชีวิตอยู่ที่องค์กรต่อไป ฉันต้องการออกไปจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป ทำไมถึงได้ยากเย็นขนาดนี้!”

ขณะที่ฉินซีพูดอยู่นั้น จู่ๆน้ำเสียงของเธอก็โมโหขึ้น

เหยาจ้าวขมวดคิ้ว มองไปทางเธอที่สูญเสียการควบคุมอารมณ์

เขาจึงรีบพูดเพื่อปลอบใจขึ้น : “ฉินซี เธอใจเย็นลงก่อน”

เหยาจ้าวเหลือบมองไปที่ประตู เป็นการส่งสัญญาณว่าให้พูดจาระวัง กำแพงอาจจะมีหู

ฉินซีจึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังสูญเสียการควบคุมอารมณ์

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บังคับให้ตัวเองในเย็นลง : “ขอโทษค่ะ…..”

ฉินซีเอ่ยปากพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ แววตาประกายแสงแห่งความอ้างว้าง

เธอก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ แต่ว่าเธอนั้นต้องการจากไปจริงๆ

จ้องที่ใบหน้านั้นของฉินซี เหยาจ้าวก็รู้สึกปวดใจ : “ผมจะช่วยคุณเอง แต่สำหรับเรื่องที่จะหนีออกไปได้หรือไม่ หลังจากหนีออกไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ก็เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถที่ควบคุมได้”

สุดท้าย เหยาจ้าวก็ถอนหายใจออกมา และเลือกที่จะอยู่ข้างฉินซี

เพราะเขาก็เหมือนกับฉินซี ที่มีความหวังอยากออกไปจากที่นี่ให้โดยเร็วที่สุด

เพียงแต่ว่าเหยาจ้าวในฐานะที่เป็นแพทย์ทางจิตวิทยา จึงใจเย็นมากกว่าฉินซี

เขาเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองไว้ที่ก้นบึ้งของหัวใจ โดยที่ไม่ให้ผู้ใดพบเห็น เหยาจ้าวควบคุมในจุดนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นจ้านเซินตอนนี้ยังไม่สังเกตเห็น

ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเหยาจ้าวที่เผยออกมาให้ฉินซีได้รับรู้เอง

ฉินซีก็คงเข้าใจผิดคิดว่าเหยาจ้าวนั้นได้กลายเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จัก ถูกคนในองค์กรกลืนกินไปแล้ว

“ค่ะ”

ฉินซีพยักหน้าอย่างตื้นตันใจ

ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าก้าวเดินดังมาจากประตูอีกครั้ง

ฉินซีและเหยาจ้าวต่างหุบปากขึ้น กลัวว่าคนรอบข้างจะได้ยิน

จ้านเซินผลักประตูก็เห็นเหยาจ้าวยืนอยู่ด้านหน้าเตียงของฉินซี

เขาขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดเบาๆ : “หมอเหยา คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

เมื่อเหยาจ้าวได้ยินเสียงของเขา ก็ได้หันมามอง และเห็นด้านหลังของเขาเห็นมีโจวซิงเดินตามมาด้วย

“ผมเพิ่งมาได้ไม่นาน กังวลว่าเมื่อฉินซีตื่นขึ้นมาแล้ว ไม่มีคนดูแลอยู่ข้างๆ จึงได้แวะเข้ามาดู”

เหยาจ้าวไอ้เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยที่ไม่มีสีหน้าระแวงหรือกังวลแม้แต่น้อย

จ้านเซินพยักหน้า โดยที่ไม่คิดอะไร

เขาเห็นฉินซีที่ตื่นขึ้นมา จึงถามด้วยน้ำเสียงผมโทนต่ำ : “ฉินซี คุณรู้สึกร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

เผชิญหน้ากับความเป็นห่วงเป็นใยของเขา ฉินซีส่ายหัว ยิ้มจางๆแล้วพูดขึ้น : “ไม่มีค่ะ หลังจากที่ได้นอนพักผ่อนแล้ว รู้สึกร่างกายได้ผ่อนคลายลง”

เธอได้ใส่หน้ากากให้ตัวเองขึ้นอีกครั้ง

จ้านเซินที่เห็นสีหน้าของเธอไม่เลวเลยทีเดียว จึงรู้สึกโล่งใจขึ้น

เขาหันไปทางหมอเหยา : “หมอเหยา ต่อไปคุณกับหมอโจวช่วยกันรักษาฉินซีนะ จำไว้ จะต้องทำให้ฉินซีฟื้นตัวให้โดยเร็วที่สุด”

ดูจากภายนอกดูเหมือนจ้านเซินให้โอกาสโจวซิงอีกครั้ง จึงได้มีการใช้เขา

แต่ในความเป็นจริง มีความหมายอื่นซ่อนไว้

เขาก็แค่ต้องการให้หมอเหยาคอยสอดส่องดูโจวซิง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาคิดจะทำอะไร

และเป็นการให้เหยาจ้าวได้ตรวจเช็คเหยาจ้าวไปในตัว ถ้าหากเหยาจ้าวมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ก็จะสามารถรายงานให้เขาทราบโดยทันที

เหยาจ้าวย่อมเข้าใจในความหมายของเขา และเขาก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆ : “ครับ”

ท่าทางของเขาทำให้ โจวซิงแยกไม่ออกว่าช่วงเวลาไหนดีช่วงเวลาไหนร้าย

โจวซิงเดิมทีมีการเตรียมพร้อมการป้องกันจากเหยาจ้าว เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนของจ้านเซิน

แต่ว่าเมื่อสักครู่ที่เหยาจ้าวดำเนินการสะกดจิตให้ฉินซีนั้น กลับไม่มีการเปิดโปงเขา ด้วยการรายงานเรื่องของลู่เซิ่นให้กับจ้านเซิน เขาทำแบบนี้ทำไม

หรือว่าเป็นเพราะครั้งนี้ฉินซีแสดงได้เนียนจนทำให้เหยาจ้าวไม่เจอพิรุธ

แต่ฝีมือของเหยาจ้าวนั้นดีกว่าตัวเอง

เรื่องที่เขาสามารถเห็นได้ เหยาจ้าวจะไม่เห็นได้อย่างไร

หรือว่าเขาไม่ใช่คนของจ้านเซิน แต่เป็นคนของฉินซี

หรือบางทีเหยาจ้าวมีจุดประสงค์ลึกไปกว่านั้น หรือว่าอยากเล่นกลไส้ศึก

ในหัวสมองของโจวซิงสับสนวุ่นวาย ไม่กล้าที่จะสรุปเรื่องราวโดยที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท