Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1369

ตอนที่ 1369

โจวซิงหายใจเข้าลึกๆ และบังคับจิตใจไม่ให้ไปคิดเรื่องวุ่นวายสับสนเหล่านั้น แล้วหันไปมองทางเหยาจ้าว

ก้อนหมอกจางๆได้บดบังดวงตาของเหยาจ้าว เขาเดินมาตรงหน้าของโจวซิง แล้วยื่นมือออกมา : “ยินดีที่ได้ร่วมมือครับหมอโจว”

ท่าทางของเขาสงบนิ่งจนผู้อื่นไม่สามารถจับพิรุธใด ๆได้

ถ้าหากเวลานี้โจวซิงยังมีจิตใจคับแคบ ถือว่าเขานั้นอยู่ไม่เป็นแล้ว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โจวซิงจึงระงับความหงุดหงิดที่มีอยู่ในใจ แล้วทำการจับมือของเขา : “ยินดีที่ได้ร่วมมือครับหมอเหยา ต่อไปต้องคงขอคำแนะนำจากคุณหมอแล้ว”

เป็นการยากที่จะเห็นเขาแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้จ้านเซินรู้สึกประหลาดใจ

แต่ท่าทางของเหยาจ้าวกลับยังคงสงบนิ่ง ริมฝีปากบางเบาได้ยกขึ้น : “หมอโจวถ่อมตัวเกินไปแล้ว ฝีมือทางการแพทย์ของคุณก็ไม่แตกต่างไปจากผม จะพูดถึงแนะนำได้อย่างไร”

ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเกรงใจ แต่กลับเหมือนได้กลิ่นดินปืนที่มองไม่เห็นเล็ดลอดลอยออกมา

ฉินซีที่อยู่บนเตียง มองดูทั้งคู่ที่ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก จึงได้ถอนหายใจอยู่ข้างในอย่างเงียบๆ

เธอจะต้องหาโอกาสบอกโจวซิง ว่าเหยาจ้าวเป็นคนของตัวเอง ให้เขาอย่าไปผิดใจกับเหยาจ้าว

“ครืดๆๆ…..”

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์สั่นของจ้านเซินก็ดังขึ้นในเวลานี้

เขาหมุนตัวเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย

แล้วมองดูสายเรียกเข้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ จ้านเซินก็กดปุ่มรับสาย

“ฮาโหล”

“มีเรื่องอะไร”

น้ำเสียงของเขาเย็นชา ไม่มีอารมณ์แปรปรวนสักนิดเดียว

เสียงที่ใจเย็นของถังย่าดังมาจากโทรศัพท์ : “ลูกพี่ อีกสักครู่ฉันก็จะถึงแล้ว”

ก่อนหน้านั้นเธอไปทำภารกิจข้างนอก ตอนนี้เพิ่งจะกลับมา

จ้านเซินพยักหน้า : “ผมรู้แล้ว คุณไปเฝ้าทางฝั่งลู่เซิ่นเถอะ ดูว่าพวกเขามีความเคลื่อนไหวอย่างไร”

จากการคาดเดาของจ้านเซิน เมื่อฉินซีถูกเขาพามา ลู่เซิ่นจะต้องลงมืออย่างไม่นิ่งดูดาย

เขาจะต้องรู้ความเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นก่อน ว่าจะเป็นไปทิศทางไหน จะได้ทำการเตรียมพร้อม

“ค่ะ”

ถังย่าพยักหน้าด้วยความเคารพ

“ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม”

จ้านเซินเห็นเธออ้อมแอ้ม อยากพูดไม่อยากพูด เขาถึงได้ถามขึ้น

“ไม่มีค่ะ ฉินซีตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ยังรุนแรงอยู่หรือเปล่า”

ถังย่าก็แค่ต้องการอยากพูดกับเขา ดังนั้นจึงดึงเรื่องของฉินซีมาพูด

เมื่อพูดถึงฉินซี จ้านเซินก็ขมวดคิ้วขึ้น : “เป็นไปตามที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ฉินซีอาการดีขึ้นจริงๆหลังจากที่ออกไปจากองค์กร แต่ว่าตอนนี้อาการกำเริบอีกแล้ว”

เขาพูดเรียบๆพร้อมกับความกังวลที่ผสมอยู่ในน้ำเสียงของเขา

ถังย่าติดตามเขามาเป็นเวลานาน ย่อมฟังออกในน้ำเสียงที่ผิดปกติของเขา

ในใจเธอเกิดความรู้สึกแปลกๆที่อธิบายไม่ถูก อัดอั้นอยู่ข้างใจ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

ถังย่าถอนหายใจเข้าลึกๆ บังคับให้ตัวเองผ่อนคลายลง

เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล : “ฉินซีเข้มแข็งขนาดนั้น ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องไม่เป็นอะไร คุณอย่าได้เป็นกังวลเลยนะ ดังนั้นตอนนี้คุณอยากจะพาเธอกลับมาที่องค์กรใช่ไหม”

ถังย่าพูดวกกลับมาถึงเรื่องที่ตัวเองเป็นกังวลที่สุด เธออยากรู้ว่าจ้านเซินจะสามารถทำเพื่อฉินซีได้ในระดับไหน

จ้านเซินไม่ได้ปิดบัง : “กลับ แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้”

คนที่เขาไว้ใจที่สุดก็คือถังย่า

ถังย่าไม่ต่างไปจากฉินซี หรืออาจจะเล็กกว่าด้วยซ้ำตอนที่ถูกพาเข้ามาในองค์กร

ฉินซีมีพ่อแม่ แต่พ่อแม่นั้นใจจืดใจดำ

ส่วนถังย่าเธอนั้นถูกทอดทิ้ง และถูกสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ารับเลี้ยงไว้ในตอนนั้น

เพียงแต่ถังย่าในตอนนั้นตัวผอมบอบบาง นิสัยขี้อาย ไม่ชอบเข้ากลุ่ม ไม่กล้าคุยกับเพื่อนๆคนอื่นๆ ดังนั้นถังย่าจึงมักจะถูกกีดกัน

อีกทั้ง ครูใหญ่ในสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นเป็นเหมือนสัตว์ร้าย

เขาเห็นถังย่าหน้าตาน่ารักสะสวย อยากจะทำมิดีมิร้ายต่อเธอ ถังย่าแม้จะเป็นเพียงเด็กน้อย แต่ก็รู้ว่าสิ่งใดที่ไม่ควรทำ เธอรู้สึกอึดอัด เธอก็เลยหนีออกมา

หลังจากที่ถังย่านี้ออกมาแล้ว ไม่มีข้าวกินไม่มีน้ำดื่ม นอนอาศัยอยู่ตามใต้สะพาน

ต่อมา เธอหิวจัด จึงเดินร่อนเร่อยู่บนถนน ด้วยเนื้อตัวมอมแมม

มีคนใจดี อยากจะพาเธอไปส่งที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ว่าถังย่าในตอนนั้นมีความรู้สึกไม่ดีต่อสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อได้ยินว่าจะต้องกลับไปที่นั่น เธอจึงได้หนีไปอีกครั้ง

ต่อมา พ่อของจ้านเซิน ก็คือผู้นำคนก่อนขององค์กร

ถูกชะตากับถังย่า จึงได้พาเธอกลับไปที่องค์ก่อน

ถึงแม้ว่าถังย่าจะยังเป็นเด็ก แต่เธอกลับมีวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่และสุขุมกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน

ความสามารถทางความคิดของเธอ มีความก้าวหน้ามากกว่าคนทั่วไปนับตั้งแต่ตอนนั้น

ด้วยความที่พ่อของจ้านเซินถูกชะตากับถังย่า จึงพาเธอกลับมาที่องค์กร หลังจากนั้นก็ดำเนินการให้เธอได้รับการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด หวังว่าสักวันหนึ่ง เธอนั้นจะสามารถรับผิดชอบงานได้ และคอยช่วยเหลือ เป็นแขนเป็นขาให้กับจ้านเซินได้เมื่อเติบโตขึ้น

ถังย่าก็ไม่ได้ทำให้พ่อของจ้านเซินผิดหวังจริงๆ ในบรรดาเด็กกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาในองค์กร ไม่ว่าจะด้านของสมรรถภาพทางกาย หรือความสามารถในการเรียนรู้ ถังย่ามักจะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด

เธอเป็นผู้นำมาตลอด ภายใต้การฝึกฝนขององค์กร กิเลสตัณหาของเธอก็ค่อยๆถูกกำจัดลง

เมื่อถังย่าอายุได้สิบแปดปี ก็ประสบผลสำเร็จในการยืนเคียงข้างจ้านเซิน ช่วยเขาทำภารกิจที่ยุ่งยากต่างๆนานาจนสำเร็จ การดำเนินการในแต่ละครั้งก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม

เธอคือผู้มีอำนาจอันดับสองที่อายุน้อยที่สุดในองค์กร ไม่มีใครกล้าดูถูกเธอ ชักสีหน้าใส่เธอเพียงเพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง

จ้านเซินก็ให้การยอมรับในความสามารถของเธอเช่นกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อมีเรื่องยากให้ต้องจัดการ คนแรกที่นึกขึ้นได้ก็คือถังย่า เขาเชื่อมั่นว่าจะได้ข้อสรุปที่สวยงาม

ถังย่าเป็นมีดที่ดีที่สุดของจ้านเซิน เป็นผลผลิตที่ดีที่สุดขององค์กรจากทดลอง

ชีวิตของเธอนั้นได้รับการช่วยเหลือจากพ่อของจ้านเซิน ทั้งชีวิตของเธอ อยู่ก็เป็นคนขององค์กร ตายก็เป็นผีขององค์กร

เดิมทีถังย่าคิดว่า ทั้งชีวิตของตัวเองนั้นจะไม่สามารถรู้สึกหวั่นไหวได้อีก

เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีความรู้สึก แต่หลังจากที่เธอออกไปพบเห็นความรู้สึกระหว่างลู่เซิ่นกับฉินซี จิตใจเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

ถังย่าเข้าใจมาตลอดว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อจ้านเซินนั้น ก็แค่ความรู้สึกของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่มีต่อผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ตอนนี้เพิ่งจะตระหนักได้ว่า แท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เป็นเพียงแบบนั้น

แต่เธอรู้ว่าสิ่งที่จ้านเซินเกลียดที่สุดก็คือคนในองค์กรจมปลักอยู่กับความรักของคนหนุ่มสาว เขาคิดว่าคนทุกคนไม่ควรมีกิเลสตัณหา

เพราะฉะนั้น เมื่อถังย่าตระหนักได้ถึงความรู้สึกที่มีต่อจ้านเซิน วินาทีแรกพี่คิดได้ ไม่ใช่การไปสารภาพความรักของตัวเองที่มีต่อจ้านเซิน แต่เธอเลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ให้อยู่ในก้นบึ้งสุดลึกของหัวใจ

เธอกังวลแม้กระทั่งว่า หากหลังจากที่จ้านเซินรู้ความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเขาแล้ว เขาจะโกรธจนไม่สนใจตัวเองอีก แล้วก็ไล่เธอออกไป

ถังย่าไม่ต้องการที่จะแยกจากจ้านเซิน เธอต้องการที่จะอยู่ข้างๆจ้านเซิน แม้จะเป็นแค่เพียงมีดเล่มหนึ่งของเขาก็ตาม

ความรักของเธอแม้จะดูต่ำต้อยในสายตาคนอื่น แต่ถังย่ากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับการทำแบบนี้เพื่อจ้านเซิน ในใจเธอนั้นเขาคือสิ่งที่ดีที่สุด

ด้วยอานุภาพความรักของถังย่า เธอยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อจ้านเซิน

ไม่ใช่ว่าเธอจะตีรันฟันแทงไม่เข้า บางครั้งเธอก็เจอภารกิจที่ยากจะทำสำเร็จได้เช่นกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท