Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1373

ตอนที่ 1373

บทที่ 1373 น่าสนใจ

หรือว่าเป็นคนที่ทำผิดบ่อย?

ถังย่าไม่น่าจะมีประวัติ…

คิดถึงตรงนี้ เจ้านายหลออดตกใจไม่ได้

เจ้านายหลอเผชิญหน้ากับคำถาม ถังย่าขมวดคิ้วตั้งใจคิดอยู่สักพัก เหมือนกำลังคิดคำนวณอยู่ในใจ

ในขณะเดียวกัน ปากของถังย่ายังคงกล่าว : “ฉันนับนะ! 1…2…3…”

เธอพูดไปพลาง สีหน้าของเจ้านายหลอก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นอีก

เมื่อถังย่านับถึงสาม ความอดทนของเจ้านายหลอก็หมดลง : “พอแล้ว!”

เขาสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าถังย่าจงใจล้อเล่นกับเขา

คิดถึงตรงนี้ เจ้านายหลอสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาชั่วขณะ

เขากดข้อมือถังย่าไว้ : “ไปสถานีตำรวจกับฉัน”

เจ้านายหลอขี้เกียจจะคุยไร้สาระกับถังย่าอีก กดมือเธอไว้และเดินตรงไปทางรถตำรวจ

ตั้งแต่ต้นจนจบ การแสดงออกของถังย่าสงบนิ่งตั้งแต่เริ่มจนจบ

กระทั่งอยู่ในรถตำรวจแล้ว ท่าทีของเธอดูสบายๆ ราวกับนั่งอยู่บนรถครอบครัวของที่บ้านตัวเอง ถึงขนาดคิดจะนอนงีบสักหน่อย

นายตำรวจสองคนที่มากับเจ้านายหลอ นับถือถังย่าที่เป็นผู้หญิงคนเดียว ที่มีสติสมาธิแข็งแรงได้มากขนาดนี้

หนึ่งในนั้นอดที่จะอ้าปากพูดกับเจ้านายหลอไม่ได้ว่า : “หัวหน้า ผู้หญิงคนนี้ก็มีความสามารถเหมือนกันน่ะ เธอคงไม่ใช่บุคคลที่มีความสามารถอะไรใช่ไหม”

ปกติคนที่เห็นตำรวจแล้วยังนิ่งอยู่ได้ เป็นคนที่มีภูมิหลังทั้งนั้น

แม้ว่าถังย่าดูเป็นผู้หญิงอ่อนแอไม่มีอะไรพิเศษแล้ว…

อ่อ ไม่ใช่

ยังมีอีกอย่างที่นอกเหนือเป็นพิเศษ นั่นก็คือสวยเป็นพิเศษ

แต่ เจ้านายหลอกลับไม่รู้สึกว่าถังย่าเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง

เมื่อกี้ตอนที่เขาใส่กุญแจมือให้ถังย่า รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่ข้อมือของถังย่าได้อย่างชัดเจน

ผู้หญิงคนหนึ่งมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสวยงาม ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างไม่หยุดหย่อนถึงจะมีได้

แน่นอน สาเหตุที่สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ขนาดนี้มีมากมาย เช่น ถังย่าฝึกศิลปะการต่อสู้มายาวนาน หรือว่าเป็นนักกีฬาประเภทนักวอลเลย์ นักกีฬาที่ต้องใช้ข้อมือ

สาเหตุเหล่านี้เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เจ้านายหลอกลับรู้สึกแปลกๆ ว่าถังย่าจะเป็นอย่างแรก

“ระวังหน่อย อย่าเดินใกล้เธอมาก”

เจ้านายหลอเตือนเสียงทุ้มต่ำ

ยิ่งเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยงาม ยิ่งน่ากลัว

จุดนี้ เจ้านายหลอมีสิทธิพูด

ถึงแม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักแบบนี้ แต่ในชีวิตปกติก็จากคนข้างตัวไม่น้อย

ลูกทีมทั้งสองคนรู้ดีว่าปกติแล้วเจ้านายหลอเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ ได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

“ได้ หัวหน้า”

พวกเขาจงใจลดเสียงลง ไม่อยากให้ถังย่าได้ยิน

แต่พวกเขาไม่รู้ ถังย่าผ่านการฝึกพิเศษมาตั้งแต่เด็ก ระยะห่างใกล้ๆ แค่นี้ ได้ยินประโยคสนทนาของพวกเขาเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

ถังย่ายกมุมปากขึ้น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเรียบง่าย

เดิมทีอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องของจ้านเซินกับฉินซี แต่เพราะการปรากฏตัวของเจ้านายหลอ กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

หลังจากถังย่าถูกพาตัวไปได้ไม่นาน ผู้ช่วยที่ต้องมารับเธอก่อนก็มาถึง

ผู้ช่วยซิวหน่ายซิงมาถึงอย่างรีบร้อน แต่เพราะไม่ได้ขับรถ Maybachที่คุ้นเคย

รถของเขาถูกชนระหว่างทาง ต้องเรียกรถมา ดังนั้นจึงมาช้าไปก้าวหนึ่ง

เมื่อซิวหน่ายซิงมาถึงสนามบิน เห็นคนมากมายยืนมุงกันอยู่ เหมือนกับกำลังประชุมอะไรกันอยู่

คิดถึงความสวยงามของพี่ใหญ่ตัวเอง ซิวหน่ายซิงคิดว่านี้เป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างชัดเจน

เขาจงใจเดินไปทางที่คนเยอะๆ อยากจะรับถังย่าไป

แต่ซิวหน่ายซิงเดินวนมาหนึ่งรอบแล้ว กลับไม่เห็นถังย่า

ซิวหน่ายซิงโทรหาถังย่า อีกฝ่ายปิดเครื่อง

เขาทำได้แค่ถามคนที่เดินผ่านไปมาข้างตัวอย่างไม่รู้จะทำยังไง

ซิวหน่ายซิงถามอย่างสุภาพว่า : “สวัสดี คุณผู้หญิง ขอถามหน่อยเมื่อกี้คุณเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยๆ ไหม คุณรู้ไหมว่าเธอไปไหนแล้ว?”

เธอดูสง่างาม รอยยิ้มของเธอทำให้คนรู้สึกสดชื่น

ถังย่าพูดบ่อยว่า รูปลักษณ์ของเธอสามารถใช้หลอกคนได้ง่ายมาก

โดยเฉพาะสาวๆ ที่ยังไม่รู้จักโลกใบนี้ ชอบภายนอกที่ดูอ่อนโยนนุ่มนวลอย่างนี้ที่สุด ที่จริงแล้งเขาเป็นเจ้าชู้ที่แท้ๆอยู่แล้ว

เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้น ซิวหน่ายซิงจะไปจัดการให้สาวน้อย และมักจะจัดการได้สำเร็จตามเป้าหมายได้เสมอ

แต่ครั้งนี้ ซิวหน่ายซิงกลับทำไม่สำเร็จ

เจอกับการสอบถามของซิวหน่ายซิง สาวที่เดินผ่านทางมองเขาอย่างระมัดระวัง : “คุณเป็นอะไรกับเธอ?”

หญิงสาวตั้งคำถามตรงๆ และลากกระเป๋าเดินทางถอยหลังไปไม่กี่ก้าว สายตาส่อแววความกลัว

เมื่อกี้ที่ถังย่าทำทั้งหมด ทิ้งความทรงจำที่ไม่ดีไว้ในใจของทุกคน

ซิวหน่ายซิงมองท่าทีเดินถอยหลังของเธอ รู้สึกแปลกๆ : “ฉันเป็นผู้ช่วยของเธอ ทำไมคุณถึงกลัวฉันขนาดนั้น ฉันไม่ใช่คนเลว”

เขาพูดพลางยกมุมปากขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้นอีก

หญิงสาวอดคิดถึงท่าทีที่ถังย่าเพิ่งจะลงมือทำกับลูกเศรษฐีไม่ได้ ก็คือรอยยิ้มที่ปาดคอลูกเศรษฐีคนนั้น

เธอตัวสั่นอย่างกะทันหันและพูดอย่างสั่นๆ ว่า : “เธอโดนตำรวจพาตัวไปแล้ว”

พูดจบ สาวน้อยรีบลากกระเป๋าเดินทางวิ่งไปอย่างเร็ว

ท่าทางลนลานของเธอ ราวกับว่ามีหมาป่ากำลังไล่ตามหลังเธออยู่

ซิวหน่ายซิงมองท่าทางเธอวิ่งเตลิดไป ในหัวเต็มไปด้วยความมืด

ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวน้อยคนเมื่อกี้ถึงได้กลัวเขาขนาดนั้น ที่แท้เป็นเพราะถังย่า

ซิวหน่ายซิงอยากรู้ครั้งนี้หญิงสาวคนนี้ทำเรื่องอะไรที่ “สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน” ไปอีก ที่ทำให้คนทั้งสนามบินแค่ได้ยินชื่อเธอก็เกรงกลัวกันหมด

เขาเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ เมื่อกี้ตอนที่ตัวเองกำลังรีบมาสนามบิน สวนกับรถตำรวจหนึ่งคันพอดี ตอนนั้นยังคิดอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น คนโง่คนไหนโดนจับไป ที่แท้คนที่โดนจับไปเป็นพี่ใหญ่ของตัวเองนี่เอง

ซิวหน่ายซิงคิดว่าต้องไปช่วยถังย่าออกจากสถานีตำรวจอีกแล้ว ก็อดปวดหัวไม่ได้

รถส่งกลับไปซ่อมแล้ว

ไม่รู้จะทำยังไง ซิวหน่ายซิงทำได้แค่ขวางรถแท็กซี่ไว้ ถามที่อยู่ของสถานีตำรวจ และรีบพุ่งไป

……

ในสถานีตำรวจ

ถังย่านั่งอยู่ในห้องสอบปากคำ เหยียดขาสองข้าง

เธอหยิบหมากฝรั่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม แกะเปลือกออกและโยนเข้าปากไปและเริ่มเคี้ยว

ถังย่ามองไปทางเจ้านายหลอที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยิ้มน้อยและพูดว่า : “เจ้านายหลอ หมากฝรั่งรสใหม่ล่าสุด ในประเทศหาซื้อไม่ได้น่ะ ลองหน่อยไหม”

เดิมทีเธออยากสูบบุหรี่ แต่ที่ตัวไม่มีบุหรี่ จึงทำได้แค่เคี้ยวหมากฝรั่งแก้ขัดไปก่อน

“ไม่ต้อง”

เจ้านายหลอมองไปที่ฝ่ามือขาวคู่นั้นที่ยื่นมาตรงหน้าตัวเอง ในแววตาส่องประกายความคลุมเครือ

เขาเงยหน้าจ้องตาสวยคู่นั้นของถังย่า ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม : “เริ่มสอบสวนตอนนี้ ระหว่างสอบสวนคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด แต่ทุกประโยคที่คุณพูดจะเป็นหลักฐานในชั้นศาล”

เจ้านายหลอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ถังย่ามองท่าทางจริงจังของเขา แววตาส่องประกาย

เขาคิดว่าเจ้านายหลอคนนี้น่าสนใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท