Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1380

ตอนที่ 1380

บทที่ 1380 ยิ่งเลียนแบบก็ยิ่งแย่

ความรู้สึกรักแต่ครอบครองไม่ได้อย่างนี้ ทำให้ถังย่าเจ็บปวดในใจนิดๆ

“ฮะ?”

หลังจากหลิวซีหางได้ฟังคำตอบของเธอ รู้สึกสับสนนิดหน่อย : “ไม่ใช่จริงๆ หรือ? พวกคุณทั้งคู่ใส่เสื้อคู่กันขนาดนี้แล้ว จะไม่ใช่ได้ยังไง?”

เดิมทีเธออยากจะจับคู่ถังย่ากับหลอจี่หอาง แต่ตอนนี้หลังจากเห็นว่าข้างกายถังย่ามีผู้ชายที่หล่อเหลากว่าหลอจี่หอางอยู่แล้ว จึงตัดความคิดนี้ไปชั่วขณะ

ถ้าเป็นเธอล่ะก็ เธอก็อาจจะเลือกจ้านเซินเหมือนกัน

ไม่ได้!

ความจริงแล้วหลอจี่หอางกับจ้านเซินไม่เหมือนกันเลยสักนิด ว่าไปแล้วก็แยกไม่ได้ว่าใครดีกว่ากัน

แค่ว่าหลิวซีหางค่อนข้างชอบจ้านเซินที่เป็นผู้ชายเย็นชาแบบนั้นมากกว่าหน่อย ดังนั้นจึงรู้สึกว่าจ้านเซินดีกว่าหน่อย

ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายแข็งแกร่ง รักความยุติธรรม ต้องเลือกหลอจี่หอางแน่นอน

แต่ว่าหลิวซีหางไม่รู้ว่าถังย่าชอบผู้ชายแบบไหน

หรือว่าหลอจี่หอางก็คิดแต่ก็ยังไม่แน่ใจกัน

“ไม่ใช่เสื้อคู่ ชุดนั่นพวกเราแค่ซื้อพร้อมกันเท่านั้นเอง”

ถังย่าหัวเราะอย่างยากลำบากพลางอธิบาย

ความจริงแล้ว เธอซื้อชุดนี้ให้จ้านเซินเป็นของขวัญวันเกิดให้เขาเมื่อปีที่แล้ว

ถังย่ากำลังเห็นแก่ตัว อยากจะใส่เสื้อคู่กันกับจ้านเซิน

ด้านความรักจ้านเซินก็เหมือนกระดาษแผ่นหนึ่ง

เขาไม่เคยสนใจสิ่งที่ตัวเองสวมใส่ แค่คิดว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของถังย่าคุณภาพไม่เลว ดีไซน์ก็ตรงตามที่เขาชอบมาก เลยทำให้ใส่บ่อยเท่านั้นเอง

ถังย่าคิดว่า ถ้าจ้านเซินรู้ว่าใจในตัวเองมีความคิดแบบนี้ เขาอาจจะไม่ใส่

ผู้หญิงเหมือนกัน หลิวซีหางเหมือนจะเข้าใจความหมายที่ถังย่าบอก

เธอมองถังย่าที่ก่อนหน้านี้ยังแสดงออกอย่างสบายๆ อยู่ในสถานีตำรวจ แต่หลังจากที่จ้านเซินมาก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งขึ้นมาทันที ในใจพอจะเข้าใจอะไรแล้ว

“คุณถัง สู้ๆ!”

หลิวซีหางเข้าใกล้ถังย่ากะทันหันและพูดเบาๆ

เธอมองถังย่าด้วยแววตาส่องแสง กำมือแน่นเป็นหมัด

การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้ถังย่าตะลึงยืนอยู่กับที่ เธอมองหลิวซีหางอย่างสงสัย : “อะไร?”

ถังย่าไม่เข้าใจว่าหลิวซีหางกำลังทำอะไร

“คุณถัง ฉันเห็นว่าตอนที่คุณกับคุณผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ด้วยกันดูเข้ากันที่สุดเลย คุณห้ามท้อเด็ดขาด คุณต้องทำได้แน่นอน”

หลิวซีหางอดให้กำลังใจเธอไม่ได้

เธอไม่ได้โกหก เธอคิดว่าจากเงื่อนไขของถังย่า มีแค่จ้านเซินเท่านั้นที่เหมาะสม

หลิวซีหางดูออก ถังมีความคิดแบบนั้นกับจ้านเซิน

ในใจเธอ ในเมื่อชอบ งั้นก็ห้ามท้อ

ถ้าคนที่เหมาะสมกันทั้งสองคนยังไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ งั้นเธอก็ได้แต่ผิดหวังตามไปด้วย

หลังจากถังย่าฟังเธอพูดจบ ใจก็ว้าวุ่นและพูดไม่ออก : “คุณไม่เข้าใจ เขามีคนที่ชอบแล้ว”

ริมฝีปากแดงขยับเบาๆ ถังย่ากล่าวด้วยเสียงผิดหวัง ในดวงตาสวยส่องประกายความผิดหวัง

เธอรู้ความหวังของตัวเองมีเพียงน้อยนิด

ระหว่างเธอกับฉินซีแล้ว จ้านเซินต้องเลือกฉินซีแน่นอน

“เป็นไปไม่ได้!”

หลิวซีหางส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ

หลังจากรู้ตัวว่าเสียงของตัวเองดังเกินไป เธอรีบร้อนเอามือปิดปาก

เธอแอบมองจ้านเซินแวบหนึ่ง ในใจเต็มไปด้วยความเสียดาย

หลิวซีหางเอ่ยปากซุบซิบ : “ถ้างั้นคนที่เขาชอบสวยไหม?”

เธอรู้สึกจริงๆ ว่าถังย่ากับจ้านเซินเหมาะสมกันที่สุด ไม่ได้อยู่ด้วยกันน่าเสียมาก

“สวย”

ถังย่าจินตนาการภาพใบหน้าที่สวยงามของฉินซีในใจ เม้มปากและพยักหน้า

“อย่างนี้ก็ยากแล้ว…”

“เฮ้อ!”

หลิวซีหางแอบถอนหายใจในใจ

เธอถามต่อว่า : “สวยกว่าคุณอีกหรือไง?”

หลิวซีหางรู้สึกว่า ถังย่าคือผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เธอเคยเห็น

ปกติหลิวซีหางติดตามดารา แต่ถังย่าสวยกว่าดาราพวกนั้นอีก

ทำไมจ้านเซินถึงไม่ชอบกัน?

คนที่ทำให้จ้านเซินละทิ้งสาวงามตรงหน้า คนที่มีความรักลึกซึ้ง ต้องโดดเด่นขนาดไหน

หลิวซีหางรู้สึกได้ทันทีว่าเซลล์สมองของตัวเองน้อยเกินไป คิดภาพไม่ออกเลยสักนิด ต้องเป็นนางฟ้าแบบไหนกัน

ถังย่าคิดแล้วคิดอีกและพูดว่า : “ฉันกับเธอไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน เธอนิสัยค่อนข้างเย็นชา คนอื่นมักจะบอกว่าเธอสง่างามราวดอกบ๊วย มีเสน่ห์ทำให้คนหลงใหล ราวกับสี่สาวงามในสมัยก่อน”

เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในองค์กร บุคลากรต่างบอกว่าเธอกับฉินซี คนหนึ่งเป็นไฟ คนหนึ่งเป็นน้ำแข็ง

พวกเธอสวยมาก มองเพียงแวบเดียวก็ไม่สามารถลืมได้ลง ความภาคภูมิใจเป็นสองเท่าขององค์กรอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

หลังจากที่ถังย่ารู้ว่าจ้านเซินชอบฉินซี ถึงขนาดสนใจศึกษาความเคยชินของฉินซีบางส่วน เธอมีลักษณะนิสัยยังไง แต่กลับทำออกมาไม่สมเหตุสมผล

ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเธอสติไม่ดีรึเปล่า ป่วยหรือไม่

แม้แต่จ้านเซินยังถามเธอว่าช่วงนี้ความกดดันมากเกินไปรึเปล่า ไม่สบายรึเปล่า ต้องการพักผ่อนสักหน่อยไหม

คำพูดของจ้านเซินส่งผลต่อความภูมิใจในตัวเองของถังย่า

เธอเพิ่งจะเข้าใจ ตัวเองราวกับยิ่งเลียนแบบยิ่งแย่ ไม่เข้าใจแก่นแท้ของฉินซี การกระทำท่าทางอย่างนั้น ก็แค่ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเธอเท่านั้นเอง

คิดถึงตรงนี้ ในใจถังย่าเจ็บปวดนิดๆ

หลังจากนั้น ถังย่าไม่เคยเลียนแบบฉินซีอีกเลย

เธอเป็นตัวเองตามเดิมเพราะเธอรู้ว่าจ้านเซินจะไม่เลิกชอบฉินซีและมาชอบเธอแทน เพราะเธอเหมือนกันกับฉินซี

หลิวซีหางฟังเธออย่างเงียบๆ และถามอย่างออกรสออกชาติว่า : “ทำไมคนสวยคนหล่อข้างตัวคุณมีเยอะขนาดนี้ ฉันเสียใจที่มีแฟนเร็วไป ตอนนี้เจอคนหล่อๆ ทำได้แค่มอง หยอกล้อไม่ได้”

น้ำเสียงของหลิวซีหางเมไปด้วยความคับแค้นใจ เม้มปากราวกับน้ำตาจะไหลลงมาในทันที

ได้ยินเสียงของเธอ สติของถังย่ากลับมาในทันที

เธอยิ้มพลางมองหลิวซีหางและพูดว่า : “ได้เจอคนที่ชอบคุณ คุณก็ชอบเขา เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดเรื่องหนึ่ง นี่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าตาเลยสักนิด”

ถังย่าเหมือนเป็นพี่สาวคนโต ใช้เสียงเบาๆ ปลอบโยน

กล่าวโดยรวมแล้ว ในแง่ของความเป็นมนุษย์ ถังย่าเข้มแข็งกว่าจ้านเซินไม่รู้กี่เท่า

จ้านเซินใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ในองค์กร แต่ถังย่าที่เป็นลูกน้อง กลับวิ่งวุ่นปฏิบัติภารกิจอยู่ด้านนอก และหลีกเลี่ยงการปลอมตัวเพื่อให้เข้ากับผู้คนไม่ได้

“คุณถัง คุณไม่ต้องปลอบฉันแล้ว”

หลิวซีหางถอนหายใจ ความจริงแล้วเธอก็แค่พูดๆ ไป ในใจยังชอบแฟนของตัวเองมากอยู่ดี

ประโยคสนทนาวนกลับมาที่ตัวถังย่าอีกครั้ง : “คุณถัง งั้นพาสาวคนนั้นที่คุณพูดถึง เขาชอบคุณชายคนเมื่อกี้มากใช่ไหม?”

ถึงแม้หลิวซีหางไม่เห็นฉินซีกับตา แต่จากรายละเอียดที่ถังย่าอธิบาย ก็พอจะจินตนาการออก ว่าเป็นคนที่สวยยังไง

ถังย่ารู้ว่าฉินซีชอบลู่เซิ่น สำหรับจ้านเซินเป็นแค่ความรู้สึกพี่น้องธรรมดาทั่วไป : “ไม่ชอบ”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ความตกใจปรากฏในดวงตาหลิวซีหาง

เธอพูดอย่างดีใจว่า : “คุณถัง ฉันคิดว่างั้นคุณก็ยังมีโอกาส”

แค่ไม่ได้ชอบพอกันทั้งคู่ งั้นก็ยังมีความเป็นไปได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท