Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1379

ตอนที่ 1379

บทที่ 1379 ถูกดึงดูด ถอนตัวไม่ได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ใบหน้าที่สวยงามเพราะรอยยิ้มที่สดใส ยิ่งดูสดใสน่ารักไปทั่ว

เสียงหัวเราะของถังย่าเพราะขนาดนั้น กลับทำให้หลอจี่หอางหน้าแดงขึ้นมาในพริบตา

ถึงแม้ในด้านความรู้สึกเขาจะช้ามากๆ แต่ไอคิวกลับสูงมาก ถ้าในเวลาอย่างนี้เขายังฟังความหมายในเสียงหัวเราะของถังย่าไม่ออกอีก งั้นเขาก็เป็นคนโง่จริงๆ

หลอจี่หอางหายใจเข้าลึกๆ ระงับอารมณ์ปั่นป่วนในใจไว้

เขาหันมองถังย่าและพูดเสียงต่ำว่า : “พอแล้ว! มีอะไรน่าหัวเราะ!”

ในน้ำเสียงของหลอจี่หอาง ผสมความโกรธด้วยเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ

ถังย่าได้ยินชัดเจนถึงความอายในคำพูดของเขา ดวงตาที่สวยงามโค้งงอ เหมือนหมาป่าตัวน้อยกำลังจ้องมองตรงไปที่หลอจี่หอาง : “เจ้านายหลอ ไม่เคยมีความรักไม่ใช่เรื่องด้อยค่าอะไรเลย คุณดูฉันสิฉันก็ไม่เคยมีความรักมาก่อนนะ มีความสุขเหมือนกันไม่ใช่รึไง มั่นใจในตัวเองมากไหม?”

ริมฝีปากแดงขยับเบาๆ ในน้ำเสียงของถังย่ามีเสียงหัวเราะอยู่

เธอใช้วิธีการทำร้ายตัวเอง มาปลอบใจหลอจี่หอาง บรรเทาอารมณ์โกรธในใจเขา

แต่ หลอจี่หอางกลับไม่เชื่อ

ตำรวจฝึกงานหลิวซีหางที่นั่งฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้างก็ตกใจมาก : “อะไร?”

หลิวซีหางมองถังย่าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยปากถามอย่างตกใจ : “คุณถัง คุณไม่เคยมีความรักจริงๆ หรือ? คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”

จากรูปร่างและหน้าตาอย่างนี้ของถังย่า คนที่ตามจีบเธอต้องนับไม่ถ้วนแน่ๆ จะไม่เคยมีความรักได้ยังไง

ถังย่าส่ายหน้าภายใต้การมองอย่างตื่นตกใจของเธอ : “ฉันจะเอาเรื่องอย่างนี้มาพูดเล่นทำไม?”

เธอถามกลับด้วยสีหน้าจริงจัง

หลิวซีหางยังคงไม่อยากจะเชื่อ เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเงื่อนไขและสายตาของถังย่าสูงเกินไป คนที่ตามจีบเธอพวกนั้น เธอไม่พอใจทั้งหมด ดังนั้นจึงยังโสดมาตลอด

หลิวซีหางคิดว่าเรื่องนี้มีความเป็นได้มาก ในเมื่อถังย่าก็สวยมากจริงๆ น้อยมากที่จะมีผู้ชายที่เหมาะสม มีความรักที่คุณภาพต่ำ โสดแบบมีความสุขยังดีกว่าเสียอีก

“งั้นต้องมีคนตามจีบคุณเยอะมากๆ สิ คุณถังมีคนที่ชอบรึยัง?”

หลิวซีหางคิดว่าหัวหน้าของตัวเองก็ยังโสด หน้าตาหล่อเหลาและมีความสามารถ

ถึงแม้เธอเพิ่งจะมาสถานีตำรวจได้ไม่นาน แต่ได้ยินเจ้าหน้าที่เก่าในสถานีบอกว่า เจ้านายหลอดูไม่มีเงินเหมือนพวกเรา แต่มีภูมิหลังที่ดีมาก แค่ปกติไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในตำแหน่งเท่านั้นเอง

หลิวซีหางยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกว่ายังย่ากับหลอจี่หอางเหมาะสมกัน

เธออดคิดที่จะช่วยไม่ได้ สอบถามข้อมูลสักหน่อย เพื่อสร้างบุพเพสันนิวาสที่สวยงาม

“ไม่มี”

ถังย่าตอบคำถามแรก สำหรับข้อหลังนั้น…

“หึหึ”

คิดถึงจ้านเซิน รอยยิ้มที่ขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของถังย่า

ผู้ชายที่เธอชอบ ตอนนี้กำลังอยู่กับผู้หญิงคนอื่น

ถังย่าแอบถอนหายใจในใจ กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตูสถานีตำรวจ

เธอรู้สึกถึงบรรยากาศบีบคั้นอย่างแปลกๆ อากาศรอบๆ ลดลงในชั่วพริบตา

เดิมทีในสถานีตำรวจวุ่นวาย แต่หลังจากที่คนนั้นปรากฏตัวขึ้นกลับเงียบสงบลงในทันที

ทุกคนมองไปที่ประตูอย่างเลื่อนลอย เหมือนโดนมนต์สะกด

ถังย่ามองไปโดยไม่รู้ตัว และเห็นร่างของจ้านเซิน

เธอยิ้มมุมปาก ความข่มขืนในใจค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความหวาน

จ้านเซินมองไปรอบ และหาร่างของถังย่าเจอจากในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้อย่างถูกต้อง

เธอสวมแจ็คเก็ตสีกาแฟความยาวถึงระดับหน้าแข้งพอดี ที่เท้าสวมรองเท้าหนังข้อสูงหนึ่งคู่ ผมลอนสีไวน์แดงที่สวยงามดึงดูดผู้คน

ถังย่ายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ ยิ่งทำให้ละสายตาไม่ได้

หลังจากหาตำแหน่งของถังย่าเจอ จ้านเซินจึงก้าวขายาวทั้งสองข้างเดินไปหาเธอ

สายตาของทุกคนมองตามเขามา ถูกใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพเจ้าของจ้านเซินทำให้หลงใหล

เดิมทีพวกเขาคิดว่าเจ้านายหลอหล่อมากแล้ว หล่อพอกับดาราชายในโทรทัศน์

แต่ เมื่อทุกคนเห็นจ้านเซิน เพิ่งจะรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือมนุษย์ยังมีมนุษย์ เหนือฟ้ายังมีฟ้า

จ้านเซิน น่าจะประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เขาสวมเสือแจ็คเก็ตสีดำคอลเลคชั่นเดียวกันกับถังย่า ระดับความยาวที่ถ้าคนอื่นใส่แทบจะกวาดพื้นได้นั่น สำหรับจ้านเซินแล้วถึงเข่ากำลังดี ทำให้เห็นหน้าแข่งที่แข็งแรง

คิ้ว ตา หู จมูก ปากของเขาพอดีขนาดนั้น แววตาลึกซึ้ง เมื่อจ้านเซินมองจ้องคุณ ในแววตาของเขาเหมือนมีวังวนที่ไม่สามารถมองเห็นก้นบึ้ง ทำให้คนดึงดูดโดยไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถปฏิเสธได้

เมื่อทุกคนเห็นจ้านเซินเดินไปหาถังย่า จึงจะนึกขึ้นมาได้ ที่แท้เขามาประกันตัว

ถังย่ามองใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา แสงดาวระยิบระยับเปล่งประกายในดวงตาสวยงาม เธอเงยหน้ามองจ้านเซิน น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาอีกเล็กน้อย : “คุณมาแล้ว”

ถึงแม้ถังย่าจะสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าจ้านเซินก็ยังไม่พอ

จ้านเซินก้มมองรอยยิ้มสดใสของเธอ พยักหน้านิ่ง : “อืม ต้องทำขั้นตอนอะไรบ้าง?”

เขาไม่ปล่อยให้เสียเวลา ถามเข้าประเด็นหลักตรงๆ

ถังย่าคิดว่าจ้านเซินปล่อยฉินซีไว้และออกมาช่วยตัวเอง ในใจก็หอมหวานแล้ว

เธอมองไปทางหลอจี่หอางที่ยืนอยู่ด้านข้าง : “คนนี้คือเจ้านายหลอ ไปหาเขาก็โอเคแล้ว”

ตั้งแต่หลอจี่หอางเห็นจ้านเซินปรากฏตัวตอนนั้น ในใจของเขาก็รู้สึกถึงความอันตรายเพิ่มขึ้นอย่างแปลกๆ

เขารู้สึกได้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอันตรายมาก

สายตาของจ้านเซินเคลื่อนไปที่ร่างของหลอจี่หอาง : “เจ้านายหลอ รบกวนคุณแล้ว”

น้ำเสียงของเขาเย็นชาขนาดนั้น ไม่แสดงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ

หลังจากหลอจี่หอางได้ฟัง รู้สึกไม่สบายใจมากอย่างแปลกๆ

เขาพยักหน้า : “ไม่รบกวนเลย ตามฉันมาทางนี้เถอะ”

ทั้งสองคนแผ่รังสีระเบิดออกมาให้กันอย่างไม่รู้ตัว จ้านเซินรู้ถึงความเป็นศัตรูที่หลอจี่หอางมีต่อเขาได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่รู้ว่าเพราะอะไร

จ้านเซินกล้ารับรองว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับหลอจี่หอาง

ก่อนหน้านี้ แม้แต่คำเดียวก็ไม่เคยคุยกัน

แต่หลอจี่หอางกลับไม่ต้อนรับตนเองขนาดนั้น

นี่ทำให้จ้านเซินสับสนเล็กน้อย หรือว่าเหตุผลเป็นเพราะถังย่า?

นึกถึงความสามารถในการสร้างความเดือดร้อนของถังย่า จ้านเซินก็ไม่แปลกใจแล้ว

“ได้”

จ้านเซินเดินตามหลอจี่หอางไปอีกด้านหนึ่ง

เดิมทีถังย่าอยากจะตามไป หลิวซีหางกลับยืนขึ้นกะทันหันและจับข้อมือเธอไว้

หลิวซีหางถามอย่างตื่นเต้น : “คุณถัง ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร เป็นแฟนคุณหรือ?”

ในใจเธอตื่นเต้นจนตะโกนออกมาว่า “ว้าว!”

ผู้ชายคนนี้หล่อเกินไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศลมหายใจที่เยือกเย็น จนทำให้คนอยากจะหยุดแต่ทำไม่ได้

แต่ไหนแต่ไรหลิวซีหางไม่เคยเห็นผู้ชายที่หล่อขนาดนี้มาก่อน แม้แต่หลอจี่หอางที่หล่อมากแล้วในสายตาเธอ ก็ได้แค่หนึ่งในห้าของเขาเท่านั้นเอง

แค่ได้ยินคำว่า “แฟน” คำนี้ ถังย่าตกตะลึงไปสักครู่

เธอส่ายหน้า : “ไม่ใช่”

ถังย่าหวังว่าจ้านเซินจะกลายเป็นแฟนของเธอ แต่ความจริงช่างโหดร้าย

คนที่เธอชอบ ชอบผู้หญิงคนอื่น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท