Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1383

ตอนที่ 1383

บทที่ 1383 ความจำดี

เมื่อคิดถึงเรื่องที่ ซิวหน่ายซิง ทำงานไม่ได้เรื่อง ถังย่าก็รู้สึกโกรธ

แต่ ก็เป็นเพราะเรื่องนี้ ถึงทำให้เธอมีโอกาสได้เจอจ้านเซิน ก็ถือว่าได้กำไร

ถ้าเป็นเวลาปกติ ซิวหน่ายซิง จะต้องโต้เถียงเต็มที่

แต่วันนี้เขาหัวหดไปมาก “ลูกพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจไปรับพี่ช้า ผมออกจากบ้านตรงเวลา แต่พอไปถึงกลางทางเจอเข้ากับขี้เมา ทำให้รถผมชน แล้วยังทำให้ผมวุ่นวายอีก ผมเลยเสียเวลาไปตั้งนาน”

ซิวหน่ายซิง ทีแรกจะไปรับถังย่าตรงเวลา แต่เรื่องนี้ช่างเถอะ

ใครจะรู้ รถจะเกิดอุบัติเหตุ จนสตาร์ทไม่ติด

ซิวหน่ายซิง ด้วยความโกรธ จึงโทรแจ้งตำรวจ

หลังจากนั้น ก็ต้องสอบสวนยุบยับ ถึงทำให้เขาเสียเวลาไปมาก

เสียงของซิวหน่ายซิง เผยความรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ มองจ้านเซินที่ยืนข้างๆ อย่างระมัดระวัง

เห็นการแสดงออกของจ้านเซินไม่เหมือนกำลังโกรธ ในใจ ซิวหน่ายซิง ผ่อนลมหายใจยาว

ซิวหน่ายซิง รู้ดี จ้านเซินแม้ว่าเปลือกนอกจะเย็นชา แต่เมื่อเกิดเรื่อง ก็ปกป้องถังย่ามากทีเดียว

“เอาล่ะ อย่ารบกวนคนอื่นที่สถานีตำรวจทำงาน รีบไปกันเถอะ”

ถังย่าพูดอย่างรำคาญ ทำมือ บอกให้เขารู้ว่าไปได้แล้ว

จ้านเซินไม่เคยชินที่ถูกคนอื่นมองเป็นตัวตลก เขาจึงก้าวเท้าเดินนำออกไปก่อน

ถังย่าเห็นเขาออกไปแล้ว ก็รีบตามติดไป

ทั้งสองคนออกไปแล้ว ซิวหน่ายซิง ย่อมไม่มีเหตุผลอยู่ที่นี่ต่อ

เขาเดินตามหลังถังย่าและจ้านเซินแต่โดยดี ไม่พูดอะไร

ซิวหน่ายซิง ไม่พูดจาเจ๊าะแจ๊ะเหมือนปกติ กลับทำให้ถังย่ารู้สึกไม่คุ้นชิน

พอออกจากสถานีตำรวจ จ้านเซินก็พูดขึ้นอย่างรอไม่ไหว “ในเมื่อทางนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว ผมจะกลับไปโรงพยาบาลก่อน ลู่เซิ่นทางนั้น คุณจับตาใกล้ชิดหน่อยละกัน”

เขาสั่งสั้นๆ ก็เดินจากไป

“จ้าน…”

ถังย่ามองตามหลังเขา อ้าปากค้าง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเห็นเขาเดินไปไกลแล้ว

เธอมองจ้านเซินเดินจากไปอย่างเย็นชา ดวงตาคู่งามฉายแววผิดหวัง

“ลูกพี่ คนไปโน่นแล้ว ไม่ต้องยืนเหม่อตรงนี้แล้ว”

ซิวหน่ายซิง พูดจาหยอกล้อ จ้านเซินไปแล้ว เขากลับคืนสู่นิสัยปกติ

เสียงที่ดังขึ้น แทรกความคิดของถังย่า

ได้ยินน้ำเสียงล้อเลียนของซิวหน่ายซิงถังย่าก็โมโห

เธอหันไป จ้อง ซิวหน่ายซิง สายตาดุ “หุบปากนายไปให้สนิทเลย อย่าให้ฉันได้ยินนายพูดบ้าบออะไรอีก! ถ้าได้ยินนายนินทาอีก เดี๋ยวฉันจะตัดลิ้นนายโยนให้หมากิน!”

เสียงถังย่าข่มขู่อย่างเย็นชา ดวงตาเรียวฉายแววอันตราย

ซิวหน่ายซิง หุบยิ้มทันที เขาจับน้ำเสียงได้ว่าถังย่าไม่ได้ล้อเล่น

จ้านเซินคือจุดอ่อนของถังย่า และเป็นข้ออ้างของเธอด้วย

เพื่อจ้านเซิน เธอบุกน้ำลุยไฟได้ กระทั่งแลกด้วยชีวิต

ติดตามถังย่ามาหลายปี ซิวหน่ายซิง มองเรื่องที่เธอเก็บงำไว้ออก

เขาถอนหายใจอยู่ในใจเงียบๆ อยากจะพูดเกลี้ยกล่อมถังย่าให้เลือกทุ่มเทเพื่อความรัก แล้วจะช่วยอะไรได้ล่ะ ในเมื่อ ซิวหน่ายซิงรู้ดี นิสัยของถังย่าเหมือนลาดื้อ ไม่มีทางฟังคำพูดเกลี้ยกล่อมของคนอื่น

นิสัยไม่ชนกำแพงไม่ถอยหลัง เกรงว่ามีแต่การรอจ้านเซินทำให้เธอปวดร้าวใจ ถังย่าถึงจะปล่อยวางได้

“ลูกพี่ วางใจเถอะ ผมรูดซิปปากแล้ว”

ซิวหน่ายซิง หวังจะแหย่ให้ถังย่าพูด จึงยิ้มทะเล้น

ถังย่ามองเขาหน้าด้านหน้าทน ใจอ่อนลงไม่น้อย

เมื่อนึกถึงที่จ้านเซินกำชับ เธอย่นคิ้ว “พอล่ะ ไม่ต้องหุบปากแล้ว ไปสืบหน่อยลู่เซิ่นตอนนี้อยู่ไหน พวกเราไปดูเขาหน่อย”

ถึงแม้ตอนนี้ใจของจ้านเซินจะยังอยู่กับฉินซี แต่ถังย่ายังคงเต็มอกเต็มใจทำเพื่อจ้านเซิน

“ลูกพี่ ผมไปสืบมาแล้ว ตอนนี้ลู่เซิ่นซ่อนตัวอยู่ มีผู้ชายคนหนึ่งติดตามเขา ดูแล้วน่าจะเป็นลูกน้อง สองคนนั่นช่วงก่อนไปโรงพยาบาลที่ฉินซีอยู่ น่าจะไปดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อน ค่อยหาทางช่วยฉินซีออกไป”

ถึงแม้ซิวหน่ายซิง เปลือกนอกจะดูแล้วทำอะไรเล่นๆ แต่เรื่องที่ควรทำ เขาก็ไม่เกียจคร้านสักนิดเดียว

ช่วงนี้ถังย่าออกไปปฏิบัติภารกิจ จึงส่งมอบเรื่องในมือให้ซิวหน่ายซิง รับช่วงต่อ

ก่อนไป ถังย่ากำชับเป็นพิเศษ จะต้องจับตาดูลู่เซิ่น เมื่อฟังจากที่เขาเล่าเมื่อครู่ ซิวหน่ายซิง ทำได้ไม่เลวจริงๆ

“ดีมาก!”

ถังย่าพยักหน้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มบางๆ

เมื่อได้รับคำชมจากถังย่า ซิวหน่ายซิง ก็ยิ้มกว้างสดใส “แหะๆ…”

เขาโฉบมาข้างถังย่าเล่นหูเล่นตา “งั้นลูกพี่ ผมทำงานดีขนาดนี้ มีรางวัลอะไรให้มั้ยฮะ อย่างเช่น…”

ซิวหน่ายซิง กำลังจะบอกถังย่า ขอให้เธอเพิ่มเงินเดือนให้เขาหน่อย ถังย่าก็พูดเสียงเย็น “ไม่มี”

เธอจ้องมอง ซิวหน่ายซิง สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

ถังย่ารู้อยู่แล้ว เขาจะต้องเรียกร้องอีกแน่

เธอนึกเสียใจเหลือเกิน เมื่อครู่ทำไมต้องชมเชย ซิวหน่ายซิง

ซิวหน่ายซิง ยังไม่ทันพูดความในใจออกมา ก็ถูกถังย่าตัดบทอย่างไม่เหลือเยื่อใย รู้สึกเสียใจมาก

เขาก้มหน้าผิดหวัง “งั้นก็ได้”

เมื่อเห็นใบหน้าของซิวหน่ายซิง ที่ตอนแรกยังมีชีวิตชีวากลับหน้าคว่ำไปแล้ว ถังย่าขมวดคิ้ว

เธอเงยหน้า ตบหลังซิวหน่ายซิง ที่กำลังก้มตัวอยู่หนักๆ “ร่าเริงหน่อย!”

ถังย่าจ้องเขาสายตาโกรธ

“ครับๆๆ”

ซิวหน่ายซิงเห็นเธอทำท่าจะโกรธจริงๆ รีบเปลี่ยนท่าที

เขารีบปรับท่าทางให้เป็นปกติ กลัวว่า จะโกรธจริงๆ

……

จ้านเซินรีบร้อนกลับไปที่โรงพยาบาล

ขณะที่เขาเดินผ่านประตูหน้า ก็ชะงักนิดหนึ่ง

สายตาของจ้านเซินมองด้านข้างแวบหนึ่ง นัยน์ตาดำขลับมีแววตาที่มีความหมายไม่ชัดเจน

เขาหยุดราวสามวินาที จากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก้าวพรวดไปข้างหน้า

เมื่อครู่จ้านเซินรู้สึกเหมือนจะเห็นคนหนึ่งที่น่าสงสัยตรงหน้าประตู คนนั้นแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าเหมือนกับองค์กร แต่รูปร่างไม่เหมือน

จ้านเซินมีทักษะจดจำคนได้แม่นยำ คนที่เขาส่งมาเฝ้าฉินซีเป็นยอดฝีมือขององค์กร

คนพวกนี้ติดตามจ้านเซินมาหลายปี รูปร่างหน้าตาลักษณะพิเศษของพวกเขา จ้านเซินรู้ดีกว่าใคร

เพียงแค่เห็นแวบเดียว จ้านเซินก็ดูออก รูปร่างคนที่เห็นเมื่อครู่คล้ายกับคนที่คุ้นเคย แต่ไม่ใช่ลูกน้องของเขา

จ้านเซินคิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง นั่นคือมีใครสักคนเปลี่ยนคนที่เขาส่งมา

ใครเป็นคนเปลี่ยน คำถามนี้ชัดเจนมาก

ในหัวของจ้านเซินมีหน้าของลู่เซิ่นลอยมา ดวงตาดำขลับฉายแววอันตราย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท