Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1388

ตอนที่ 1388

บทที่ 1388 ดักฟัง

ขณะนี้ ลู่เซิ่นรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยรู้จักถังย่า

เธอเย็นเยียบไปทั้งตัว เหมือนน้ำแข็งไม่ละลาย แต่จิตใจของถังย่ากลับเปราะบางเหลือเกิน

ถังย่าเป็นตัวแทนสภาพชีวิตของคนรากหญ้าทั้งสังคม คือความทุกข์ยากของมนุษย์ คือโลกที่ลู่เซิ่นคิดไม่ถึง

แม้ว่าตอนนี้ถังย่ามีชีวิตสุขสบาย แต่เธอก็ไม่เคยรู้ความสุขคืออะไร

“ซิวหน่ายซิง กลับ!”

ถังย่าพูดเสียงเย็นชา พอพูดจบก็ผละไป

เดิมเธออยากจะเกลี้ยกล่อมลู่เซิ่น แต่พบว่าทั้งสองคนมีจุดยืนต่างกัน ไม่มีทางคุยกันรู้เรื่อง

ซิวหน่ายซิงเห็นเธอกลับ ก็ตามไปด้วย

ห้องรับแขกว่างเปล่า เหลือแต่ลู่เซิ่นกับโจวเอ้อสองคน

ลู่เซิ่นนั่งบนโซฟาสีหน้าเคร่งขรึม บรรยากาศรอบตัวเย็นจนขนลุก

ดูเหมือนเขาจะกำลังครุ่นคิดคำพูดของถังย่าเมื่อครู่ ท่าทางลู่เซิ่นตอนนี้ ทำให้โจวเอ้อรู้สึกหวั่นใจ

โจวเอ้อเดินเข้าไปใกล้ มองเขา พูดอย่างระมัดระวัง ”นายไม่เป็นอะไรนะ”

อันที่จริง เท่าที่เขาฟัง คำพูดของถังย่าที่พูดมาทั้งหมด ก็ไม่ผิดอะไร

การใช้ชีวิตเดิมเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว โดยเฉพาะถังย่าที่เป็นเด็กที่เคยผ่านความยากลำบาก เมื่อพูดถึงความสุข ความยินดีเป็นเรื่องเพ้อฝัน

“ไม่เป็นไร”

ลู่เซิ่นหรี่ตาสองข้าง พูดเรียบๆ

เดิมขาคิดจะกล่อมให้ถังย่าร่วมมือกับตัวเอง ช่วยเขาพาฉินซีออกมา

แต่คิดไม่ถึง ปณิธานของถังย่าแน่วแน่

จริงๆ ถังย่าสมแล้วที่เป็นมีดเล่มที่ดีที่สุดในองค์กร ปฏิบัติภารกิจสุดโหดเพื่อองค์กร

“ในเมื่อหมดทางแล้ว งั้นก็ทำต่อ ทางใต้ดินที่โรงพยาบาล เจาะทะลุได้เมื่อไหร่”

ลู่เซิ่นมองเขา พูดช้าๆ

ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่มีวันยอมปล่อยมือฉินซีแน่

ลู่เซิ่นรู้ดี ฉินซีอยากหนีออกจากองค์กรมากแค่ไหน

เมื่อนึกถึงฉินซีถูกจับกลับองค์กร สองคนไม่มีโอกาสเจอกันอีก ลู่เซิ่นก็รู้สึกปวดร้าวใจ

โจวเอ้อเห็นอารมณ์ของเขากลับมาปกติแล้ว ในใจรู้สึกโล่งอก ”พรุ่งนี้ก็ได้แล้ว ถึงเวลากลางคืนนายแอบลอบเข้าห้องฉินซี ตรวบสอบก่อน ถ้าไม่ติดขัดอะไร ก็พาฉินซีออกมา ถ้าไม่ง่ายอย่างนั้น เราค่อยหาโอกาสอื่น พาฉินซีออกมา”

เขาทบทวนแผนกับลู่เซิ่นสีหน้าเคร่งเครียด

“อึม”

ลู่เซิ่นพยักหน้า รู้สึกว่าแผนนี้ปลอดภัยที่สุด

ตอนนี้เขาต้องรู้สถานการณ์ในองค์กรให้ชัดเจนก่อน มิเช่นนั้น พาฉินซีออกมา ก็จะเป็นอันตราย

ลู่เซิ่นไม่รู้ เมื่อครู่ที่ถังย่ามา ไม่เพียงเพื่อกล่อมเขาให้เลิกล้มเรื่องช่วยฉินซีหนี

มากไปกว่านั้น ถังย่ายังแอบซ่อนเครื่องดักฟังที่โซฟาด้วย

บนรถ มุมปากถังย่าเผยอนิดนึง มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏ

ซิวหน่ายซิงมองเธอยิ้ม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

“ลูกพี่ อย่ายิ้มอย่างนั้น น่ากลัวชะมัด”

ซิวหน่ายซิงตัวสั่น พูดอย่างหวั่นใจ

ถังย่าถลึงตามองเขา “ขับไปดีๆ อย่าพูดมากอีก”

เธอหยิบหูฟังมาอุดหู ได้ยินข่าวจากลู่เซิ่นทุกที่ทุกเวลา

เวลาเดียวกัน

ฉินซีที่อยู่ที่โรงพยาบาล ก็ได้รับข่าวเช่นกัน

“คุณพูดจริงหรือคะ”

ฉินซีมองโจวซิง ประหลาดใจ น้ำเสียงแฝงด้วยความยินดี

เมื่อครู่ที่โจวซิงพูด ลู่เซิ่นโทรมาหาเธอแล้ว คืนนี้เที่ยงคืน จะมาหาเธอ

“จริงครับ”

โจวซิงพยักหน้า ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

เธอรอวันนี้ มานานแสนนาน

ตอนนี้ลู่เซิ่นกับโจวเอ้อในที่สุดก็ลงมือแล้ว ถ้าแผนคืนนี้สำเร็จ ฉินซีก็จะได้รับการช่วยเหลือออกไปพวกเขาก็จะหลุดพ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

“เยี่ยมเลย!”

ฉินซีตื่นเต้นสุดขีด

สายตาที่เดิมมืดมนหมดหวัง มีประกายเหมือนแสงดาว

ฉินซีมีความหวังกับอนาคตอีกครั้ง เธอรู้ว่าลู่เซิ่นไม่มีทางทิ้งเธอแน่นอน

โจวซิงเห็นเธอท่าทางดีใจมาก ก็กระซิบเตือน “เหลือเวลาแค่บ่ายนี้เท่านั้น คุณต้องแกล้งทำตัวปกติ อย่าทำตัวผิดสังเกตเด็ดขาด ให้จ้านเซินจับได้”

ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว นี่คือโค้งสุดท้ายแล้ว

โจวซิงไม่อยากเห็นตอนจบที่ไม่อยากเห็นถ้าเป็นอย่างนั้น ความพยายามหลายวันมานี้ก็จะสูญเปล่า

“คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันเข้าใจ”

ฉินซีพยักหน้า เธอรู้ดีกว่าใครสถานการณ์ในตอนนี้สำคัญมากแค่ไหน

เมื่อก่อนไม่ว่าจะต้องปฏิบัติงานยากแค่ไหน ฉินซีไม่เคยกังวลมากเท่านี้มาก่อน หลังจากฟังโจวซิงพูดเมื่อครู่แล้ว ในใจก็รู้สึกว้าวุ่น

เธอรอคอยลู่เซิ่นให้มาเร็วๆ แต่ก็กังวลว่าจ้านเซินจะมาเจอเข้า

ฉินซีวางแผนในใจ คืนนี้ทำอย่างไรถึงจะหลอกจ้านเซินออกไปได้

เวลานี้เอง จ้านเซินอยู่ๆ ก็โผล่มา

“ทำไมคุณลุกขึ้นมาครับ”

จ้านเซินมองฉินซีที่นั่งบนโซฟา ขมวดคิ้ว

เขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ยังมีความเย็นติดตัว

เมื่อขมวดคิ้ว ทำให้คนอื่นคิดว่าจ้านเซินโกรธ

ฉินซีใจเต้นไม่เป็นส่ำ รีบปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ “เมื่อครู่หมอโจวจะช่วยตรวจให้ ฉันนอนบนเตียงมาหลายวัน นอนจนปวดเมื่อยไปหมดก็เลยเสนอว่าจะนั่งที่โซฟาหมอโจวขัดฉันไม่ได้ ก็เลยตกลงค่ะ

เธอพูดรวบรัดเพื่อให้จ้านเซินเลิกสนใจ

จ้านเซินรู้ดี หลายวันมานี้เธอไม่ได้ลงจากเตียงเลย

ก่อนออกไปข้างนอก ฉินซียังบอกว่าอยากจะออกไปข้างนอก แต่เป็นเพราะถังย่าโทรเข้ามา เขารีบออกไปข้างนอก จึงไม่ได้ตอบตกลง

ต้องนอนบนเตียงตลอดเวลายากที่จะทนไหว โดยเฉพาะกับคนที่ออกกำลังตลอดเวลา คันไม้คันมือ อยากจะออกไปวิ่งสักรอบแทบตาย พูดง่ายๆ รับไม่ได้ยิ่งกว่าฆ่าเขา

ความรู้สึกนี้ จ้านเซินเคยสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่ง

การบาดเจ็บเล็กน้อยจ้านเซินไม่เคยสนใจ จะฝึกต่อไปทั้งที่บาดเจ็บ

แต่ครั้งนั้น จ้านเซินบาดเจ็บหนักเหลือเกิน เสียเลือดมากเกือบจะต้องจบชีวิต นอนบนเตียงหนึ่งเดือนเต็มๆ ตอนนี้ที่ท้องเขายังคงมีรอยแผลผ่าตัดยาว

นึกถึงตรงนี้ จ้านเซินย่นคิ้ว ”คุณบอกว่าอยากออกไปข้างนอกใช่มั้ย ตอนนี้ผมมีเวลาพอดี ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณเอง”

พอพูดจบ เขาก็ก้าวเท้ายาว เข้ามาหาฉินซี

ฉินซีมองเขาแปลกใจที่อยู่ๆ ก็ตอบตกลงตัวเอง แอบส่งสายตากับโจวซิง

เธออยากให้โจวซิงช่วยวิเคราะห์หน่อย จ้านเซินตอนนี้มาไม้ไหนกันแน่

อันที่จริงโจวซิงก็อ่านใจจ้านเซินไม่ออก

หลักๆ เป็นเพราะจ้านเซินตำแหน่งสูงเกินไป ความมุ่งมั่นก็แรงกล้ามาก โจวซิงไม่มีทางมองเขาจากสายตา เพื่อค้นหาก้นบึ้งหัวใจของจ้านเซิน และยิ่งมองไม่เห็นความคิดของเขา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท