Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1382

ตอนที่ 1382

บทที่ 1382 รสนิยมแย่

ถังย่าเหมือนเหวลึก ดึงดูดคนให้อยากลงไปสำรวจสภาพแวดล้อมประเภทต่างๆ แม้ว่าจะไม่อาจรอดขึ้นมาได้ก็ไม่เสียดาย

ถังย่ารู้สึกว่าหลอจี่หอาง กำลังจ้องมองตัวเอง เธอเคยชินกับสายตาอย่างนี้มานานแล้ว

เธอไม่ใส่ใจ หันไปมองจ้านเซินที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเอง “พี่ชายคะ พวกเราไปจ่ายค่าปรับกันค่ะ”

ตอนที่ถังย่าอยู่ข้างนอก ใช่ว่าไม่เคยเรียกจ้านเซินเป็นพี่ชาย

แต่ทว่า ไม่รู้ทำไม จ้านเซินรู้สึก วันนี้ถังย่าแตกต่างจากทุกครั้ง

อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนเรียกพี่ใหญ่ตลอด แต่ครั้งนี้กลับเรียกพี่ชาย

อาจเป็นเพราะฟังแล้วสนิทสนมกว่าทุกที ทำให้จ้านเซินรู้สึกทำตัวไม่ถูก

จ้านเซินก้มหน้ามองเธอแวบหนึ่ง เสียงแหบแห้ง “อึม”

ขาเรียวยาวก้าวออกไป ตามถังย่าไปทาง หลิวซีหาง

หลิวซีหาง มองเห็นจ้านเซินเดินมาทางตัวเอง ก็ใจเต้นโครมคราม

ตอนที่จ้านเซินอยู่ไกลออกไป หลิวซีหาง รู้สึกว่าเขาดูดีมากพอแล้ว

แต่เมื่อเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น มองเห็นเครื่องหน้าของจ้านเซินหลิวซีหาง ถึงพบว่า ที่แท้ในโลกนี้มีคนที่หน้าตางดงามได้ถึงขั้นนี้

มิน่าถึงได้ทำให้ผู้หญิงสวยอย่างถังย่าหวั่นไหวได้ หรือไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่อาจต้านทาน

หลิวซีหาง ร้องกรี๊ดในใจ แก้มสองข้างแดงเรื่อ

เธอมองจ้านเซินอย่างคลั่งไคล้ ดวงตาเบิกโต

ถังย่าเห็นเธอยืนตะลึง ก็กระแอมเบาๆ “แฮ่มๆ…”

เมื่อได้ยินเสียงกระแอม หลิวซีหาง ก็คืนสติทันที

“อ้อๆ…ขอโทษค่ะ”

เมื่อคิดถึงตรงที่ผู้ชายคนนี้คือคนที่ถังย่าชอบ หลิวซีหางก็มีสีหน้าเก้อเขิน

เธอรีบดึงสายตากลับมา แสร้งทำท่าทางจริงจัง “ทั้งหมด…”

หลิวซีหาง รับบันทึกจับกุมมาแล้ว มองดูตัวเลขบนกระดาษ

เธอดูผิวเผินกำลังทำงานจริงจัง แต่สายตากลับมองถังย่ากับจ้านเซินตลอด จับสังเกตท่าทางของทั้งสองคน

เท่าที่หลิวซีหางสังเกตเห็น เธอรู้สึกจ้านเซินดีกับถังย่ามากทีเดียว เพียงแต่ไม่รู้ว่าดีแบบไหนกันแน่

“คุณถัง คุณจ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ”

หลิวซีหาง พูดขึ้นมีรอยยิ้มบางๆ

ถังย่ามองเธอยิ้มกว้าง พยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”

เธอมองจ้านเซินที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “พวกเราไปกันเถอะค่ะ”

ถังย่าดีใจมากที่ครั้งนี้จ้านเซินมาได้

“อึม”

จ้านเซินรับคำเสียงแหบ

ทั้งสองคนกำลังจะกลับ ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้ารีบเร่งดังมาจากทางหน้าประตู

ถังย่าเงยหน้ามองอย่างสงสัย ก็พอดีกับที่เห็นซิวหน่ายซิง กำลังรีบเร่งเข้ามาในสถานีตำรวจ

มองเห็นเขาท่าทางเล่นใหญ่ ถังย่าก็รู้สึกว่าแย่แล้ว

พอซิวหน่ายซิง เข้าประตูมา ก็เห็นถังย่าทันที

เขาวิ่งเข้ามาหาถังย่าอย่างตื่นเต้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ “ลูกพี่!”

ซิวหน่ายซิง สายตาตื่นเต้น และท่าทางดีใจลิงโลด ทำเอาถังย่าอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

เธอคิดว่าตัวเองหน้าหนาพอแล้ว แต่ทุกครั้งที่เจอ ซิวหน่ายซิง ก็ต้องยอมแพ้ทุกทีไป

ถังย่าอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปนิดหนึ่ง อยากจะหนีหน้า ซิวหน่ายซิง

แต่ สายตาของ ซิวหน่ายซิง ล็อกเป้าเธอไว้แล้ว จะปล่อยให้เธอหนีไปได้อย่างไร

ไม่รอถังย่าพูดอะไร ซิวหน่ายซิง ก็พุ่งเข้าไป กอดเอวบอบบางของถังย่า

ซิวหน่ายซิง น้ำเสียงน้อยใจมาก “ลูกพี่ ผมหาพี่เจอสักที รู้มั้ยผมหาพี่แทบตาย ทำไมไม่รอผมอยู่ที่เดิมล่ะครับ”

เขาพูดจาน่าสงสารเหลือแสน น้ำเสียงไม่พอใจนิดหน่อย

ถังย่ายืนนิ่งไม่ขยับ สีหน้าเคร่งขรึมมองชายหนุ่มที่กอดตัวเอง “ซิวหน่ายซิง!”

เธอกัดฟันกรอด สายตาคู่งามส่องประกายอันตราย

ถังย่าไม่รู้ว่าเธอพูดกับ ซิวหน่ายซิงกี่ครั้งกี่หนแล้ว อยู่ข้างนอกให้ทำตัวปกติหน่อย อย่าทำตัวเป็นเด็กน้อยกับเธอ คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกน่าขัน

แต่ถึงอย่างไร ซิวหน่ายซิง ก็ไม่เคยฟังเข้าหูสักครั้ง กลับเห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยซ้ำไป ชอบใจทำอีกครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เบื่อ

นึกถึงจ้านเซินยังอยู่ข้างๆ และยังไหนจะคนที่มุงดูในสถานีตำรวจอีก ถังย่าจึงไว้หน้าซิวหน่ายซิง เธอสูดลมหายใจลึก บังคับตัวเองให้เย็นลง “ซิวหน่ายซิง ฉันให้เวลานายสามวินาที ปล่อยมือนายเดี๋ยวนี้ ถอยไปยืนห่างหนึ่งเมตร!”

ถังย่าก้มหน้ามองซิวหน่ายซิง สายตาส่งสัญญาณเตือน

“ไม่เอา! ไม่เอา!”

ซิวหน่ายซิง มุมปากมีรอยยิ้มร้าย

ปวดขมับตุบๆ ถังย่ารู้สึกได้ชัดเจน เส้นประสาทในสมองจะระเบิดแล้ว “3…2…”

ถังย่าไม่สนใจคำร้องขอของเขา เริ่มนับถอยหลัง

ขณะที่ถังย่ากำลังจะนับถึงหนึ่ง ซิวหน่ายซิง ก็ดีดตัวหนีเสียก่อน

ซิวหน่ายซิง ไม่อยากถอยไปแต่เมื่อครู่เขาได้ยินเสียงกรอบแกรบตอนที่ ถังย่าหักข้อมือวอร์มร่างกาย คิดถึงครั้งที่แล้วตอนถังย่าทำอย่างนี้ สุดท้ายถูกต่อยจนหน้าบวมจมูกช้ำ ซิวหน่ายซิง รู้สึกสงสารตัวเอง

เพื่อไม่ให้ใบหน้าหล่อเหลาของตัวเอง ถูกถังย่าต่อยจนยับเยินจำไม่ได้ ซิวหน่ายซิง ยังกลัวอยู่

“ได้ๆๆ ผมปล่อยแล้ว”

ซิวหน่ายซิง ปล่อยเธอ ยืนห่างจากถังย่าหนึ่งเมตรพอดี

เขากำลังจะเอ่ยปาก แหย่ถังย่าสักหน่อย สายตาพลันก็เหลือบไปมองจ้านเซินที่ยืนอยู่ข้างๆ

ท่าทางยิ้มแย้มขี้เล่นก็หายไปทันที ซิวหน่ายซิง เหมือนถูกแปะยันต์เข้ากับตัว ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ”หัว…”

ซิวหน่ายซิง กำลังจะเรียกจ้านเซิน ก็ถูกเขากวาดสายตามองเย็นเยียบ

เขาเหมือนเห็นศัตรูตัวฉกาจ กัดลิ้น ถึงค่อยคืนสติขึ้นมาบ้าง “คุณจ้าน ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ”

ซิวหน่ายซิง นึกไม่ถึงจ้านเซินจะปรากฏตัวที่นี่ เขาน่าจะอยู่ที่องค์กรไม่ใช่หรือ

ทำไมอยู่ๆ ก็มาปรากฏตัวที่สถานีตำรวจพร้อมกับถังย่าได้

ซิวหน่ายซิง คือคนที่ถังย่าตอนปฏิบัติภารกิจข้างนอก เลือกมาเป็นลูกน้อง แม้จะรู้ว่ามีองค์กรอยู่ แต่เขาเคยไปแค่ไม่กี่ครั้ง

เขาเคยพบหน้าจ้านเซินแทบนับครั้ง แต่เปลี่ยนความกลัวที่อยู่ในกระดูกไม่ได้

ซิวหน่ายซิง แม้ปกติแล้วจะเป็นคนขี้เล่นทะเล้น แต่รักตัวกลัวตายยิ่งกว่าใคร

เขารู้สึกได้ถึงพลังพิฆาตของจ้านเซิน ไม่ใช่คนที่เขาจะเล่นด้วยได้

ถังย่าเห็นเขาตกใจเพราะสายตาของจ้านเซิน รู้สึกว่าทั้งอารมณ์ดีทั้งขำ

ปกติเวลาอยู่กับเธอ ไม่เคยเห็น ซิวหน่ายซิงเชื่อฟัง เห็นแก่หน้าคนอื่น

ถังย่าพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “นายไม่มาสักที ฉันก็จำเบอร์มือถือนายไม่ได้ ก็เลยโทรหาพี่ชาย ให้เขามาจ่ายค่าปรับซิวหน่ายซิง นายลองว่ามาสิ เป็นผู้ช่วยประสาอะไรกัน”

วันนี้ถ้าไม่เพราะซิวหน่ายซิงมารับเธอที่สนามบินช้า ก็คงไม่เกิดเรื่องตามมาเยอะแยะขนาดนี้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท