Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1396

ตอนที่ 1396

บทที่ 1396 กระสับกระส่าย

ถังย่ารู้ว่าตอนนี้ฉินซีคงไอยากเห็นหน้าจ้านเซิน

จ้านเซินไม่ได้ต่อต้าน หาไม่ได้ง่ายๆที่เขาจะถูกเธอดึงออกมาอย่างเชื่อฟัง

ถังย่าดึงเขามาจนสุดทางเดิน

เธอปล่อยมือจ้านเซินที่จับไว้อย่างอาลัยอาวรณ์ “ เมื่อกี้คุณเป็นอะไรไป”

ถังย่าอยากรู้มาก อะไรที่ทำให้จ้านเซินเสียการควบคุม เขาเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีไม่ใช่หรือ?

“ไม่มีอะไร”

จ้านเซินไม่เต็มใจที่จะพูดออกมา ความมีเกียรติของตัวเองไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้น

เมื่อเห็นท่าทีต่อต้านของเขา คลื่นแห่งความโกรธที่ไม่มีชื่อเรียกก็พุ่งเข้ามาในใจของถังย่า

“จ้านเซิน ที่จริงแล้วคุณคิดอะไรอยู่กันแน่ ฉันบอกเรื่องลู่เซิ่นกับคุณ ไม่ใช่ให้คุณไปทำท่ามีพิรุธแบบนั้นต่อหน้าฉินซี!”

ถังย่ากัดฟันพูด แต่ก็ไม่ลืมที่จะลดเสียงลง เพราะกลัวว่าฉินซีจะได้ยิน

จ้านเซินก็ตระหนักรู้แล้วในสิ่งที่ตัวเองสูญเสียการควบคุมไปเมื่อครู่ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมาทีหลัง

เขาเม้มริมฝีปาก ก่อนพูดออกมาน้ำเสียงเฉียบขาด “วางใจเถอะ ฉันไม่มีวันยอมให้ลู่เซิ่นพาฉินซีออกไปแน่”

เขากำหมัด น้ำเสียงหนักแน่น

ในตอนนี้ถังย่ารู้แล้วว่าตัวเองแพ้โดยสมบูรณ์

ถึงแม้จะมาถึงขั้นนี้ จ้านเซินก็ยังคงให้ฉินซีอยู่ข้างๆ

“ฉันจะช่วยคุณเอง”

ถังย่ากดความรวดร้าวเอาไว้ในใจ เสียงสะอื้นเอ่ยเบา

เธอหลับตาลงและหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ความเยือกเย็นดังเดิมก็กลับมา

“คุณวางแผนจะทำยังไง”

จ้านเซินไม่ได้สังเกตท่าทีที่แปลกไป ใจของเขาคิดเพียงแค่ จะทำให้ฉินซีอยู่ที่นี่อย่างไร และจะไล่ลู่เซิ่นอย่างไร

ทันใดดวงตาของก็ทอประกายความดุดันออกมา “ฉันไม่ต้องการให้ลู่เซิ่นกลับมา”

ในเมื่อฉินซีชอบลู่เซิ่น ถ้างั้นเขาจะทำให้ผู้ชายที่เธอชอบหายจากโลกนี้ไปตลอดการ

จ้านเซินคิดอย่างไร้เดียงสาว่า ถ้าหากลู่เซิ่นหายไป ฉินซีก็จะค่อยๆลืมเขา และหันมายอมรับในตัวเอง

ทว่า เขาไม่รู้ ว่าความรู้สึกมันเป็นสิ่งที่ซับซ้อน

ในหลายๆครั้ง ยิ่งไม่ได้มันมา จะยิ่งทำให้จำได้ไม่ลืม

จ้านเซินไม่เข้าใจความจริงข้อนี้ ถังย่าก็เช่นกัน เธอแค่รู้ว่าไม่ว่าจ้านเซินจะตัดสินใจอย่างไร เธอจะอยู่เคียงข้าง และพร้อมเดินไปกับเขา

ถังย่าพยักหน้า “อืม ฉันจะจัดการเอง”

ไม่มีใครรู้ ว่าตอนที่ถังย่าพูดคำนี้ออกมาใจของเธอเจ็บปวดนัก

มันเหมือนกับว่าเธอช่วยผู้ชายที่เธอชอบให้ไปไล่ตามผู้หญิงที่เขาชอบ

ความเจ็บปวดแบบนี้ เจ็บปวดกว่าบาดแผลที่เธอได้มาจากตอนทำภารกิจเสียอีก

จ้านเซินและถังย่าพูดคุยกันเกี่ยวกับแผนรับมือเมื่อตอนลู่เซิ่นจะมาอย่างละเอียด จะทำอย่างไรให้เขาอยู่

“นี่คือแมลงดักฟัง ฉันจะวางไว้ใต้โซฟาที่ลู่เซิ่นนั่ง”

ถังย่ายื่นออกไปวางไว้มือของจ้านเซิน

เมื่อมองไปยังเจ้าเครื่องดักฟังขนาดเล็กสีดำในมือ ดวงตาของจ้านเซินก็สว่างวาบ “อืม”

อีกด้านหนึ่ง

ภายในห้องพักฟื้น ฉินซีนั่งไปได้สักพัก ความเจ็บตรงคางก็ค่อยๆทุเลาลง

บางทีอาจเป็นเพราะรู้สึกชา ดังนั้นเลยไม่สังเกตเห็น

จริงๆแล้ว ความเจ็บเล็กน้อยแค่นี้ไม่มีผลกับฉินซีที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเลย

แต่ว่า ฉินซีกลับรู้สึกหวาดกลัว

ที่เธอกังวลคือเรื่องที่ลู่เซิ่นจะมาช่วยเธอคืนนี้

ยิ่งเวลามันใกล้เข้ามา ใจของฉินซีก็ยิ่งกระวนกระวายใจ

เธอคิดอยากจะส่งสัญญาณบอกลู่เซิ่น ว่าไม่ต้องมาคืนนี้ จ้านเซินอาจจะรู้แล้ว

ไม่อย่างนั้น ทำไมเมื่อกี้เขาถึงทำตัวแปลกๆ

แต่ตอนนี้ข้างกายของเธอมีซิวหน่ายซิงคอยดูอยู่ ไม่มีโอกาสได้ออกไป

โจวซิงก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน หมดหนทางจะติดต่อกับลู่เซิ่น

ดูเหมือน ความหวังตอนนี้จะถูกฝากไว้กับเหยาจ้าวเสียแล้ว

ฉินซีรอให้เหยาจ้าวเข้ามา เพื่อที่เธอจะฝากข่าวไปบอกโจวซิง ว่าเปลี่ยนแผน บอกให้ลู่เซิ่นรับรู้ ว่าวันนี้ไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไรก่อน

ทว่า รอมานาน ก็ยังไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของเหยาจ้าว แม้กระทั่งจ้านเซินและถังย่าก็ยังคงไม่กลับมา

ความวิตกกังวลของฉินซีเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

เธอเริ่มกระสับกระส่าย อยากจะลุกขึ้น แต่ซิวหน่ายซิงห้ามไว้ก่อน “คุณฉิน คุณจะไปไหนครับ?”

ซิวหน่ายซิงมองเธอด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน สุภาพ แต่น้ำเสียงของเขากลับดูเข้มงวด

เขาใช้ร่างกายขวางฉินซีไว้ กันไม่ให้เธอแอบออกไปทีเผลอ

ฉินซีสังเกตอย่างว่องไวและเฉียบแหลมไปทางเขา ก่อนยิ้มเบาๆ และพูด “ฉันจะไปห้องน้ำค่ะ ผู้ช่วยเซิวจะไปกับฉันไหมคะ?”

เธอคล้ายกับไม่สังเกตเห็นถึงท่าทางที่ดูป้องกันตัวเธอเองจากซิวหน่ายซิง น้ำเสียงแผ่วเบา

ซิวหน่ายซิงยังคงไม่ขยับ “ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมมาที่นี่เพื่อช่วยปกป้องคุณ ถ้าหากหมอเหยามาถึงแล้ว ผมจะเรียกคุณนะครับ เมื่อถึงตอนนั้นคุณรีบออกมาก็โอเคแล้ว”

ฉินซีรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากจะหนีทางประตู เธอก็ไม่คิดจะออกไปทางประตู แถวทางเดินทั้งหมดล้วนมีบอดี้การ์ดของจ้านเซินคอยอารักขาอยู่แล้ว

แม้ว่าเธอจะสามารถข้ามแนวป้องกันแรกของซิวหน่ายซิงได้ แต่ก็ยังมีอีกมากมายที่รอเธออยู่ด้านหลัง

แม้ว่าเธอจะเก่งด้านการต่อสู้ แต่สู้กับจำนวนเยอะไม่ไหว

เนื้อหนังฉินซีไม่ได้ทำจากเหล็กกล้า ถึงแม้องค์กรจะมุ่งมั่นจะสร้างหุ่นยนต์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ร่างกายของพวกเธอก็ยังมีเลือดไหลเวียนในร่าง เหนื่อยเป็น เจ็บปวดเป็น เลือดไหลเป็น ได้รับบาดเจ็บเป็น ถ้าไม่ช่วยก็ตายเป็น

พวกเขาไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความยากลำบากและการฝึกฝนที่คนธรรมดาไม่สามารถทนได้

“อืม”

ฉินซีพยักหน้าและเดินไปที่ห้องน้ำ

ทันทีที่เข้าไป เธอก็ลงกลอนประตูทันที

ฉินซีสังเกตโครงสร้างของห้องน้ำอย่างละเอียด เพื่อหาช่องทางหลบหนี

แต่เธอก็ผิดหวัง

แม้ว่าจะมีหน้าต่างในห้องน้ำ แต่ก็มีตาข่ายป้องกันอย่างหนาอยู่ด้านนอก

ฉินซีไม่มีเครื่องมือ ออกไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ฉินซียืนอยู่หน้ากระจกอย่างหงุดหงิด เธอมองตัวเองในกระจก รอยช้ำบนคางที่ซีดขาวของเธอเปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว

เธอหงุดหงิดจนทุบผนังไปทีหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์มาก

เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่ฉินซีไม่ทำการฝึกซ้อม หนึ่งปีนี้เธอดื่มด่ำกับชีวิตที่มีความสุข ร่างกายก็ค่อยๆหย่อนยานลงไป

ตอนนี้เธออยากจะให้ร่างกายเบาหวิวจนปีนขึ้นไปบนหลังคาได้เหมือนเดิม

“ฉันจะทำยังไงดีลู่เซิ่น”

ฉินซีกระวนกระวายใจ เมื่อเธอนึกไปถึงลู่เซิ่นที่ตัวเองอยู่ข้างนอก

ตอนนี้ที่เธอกังวลเป็นพิเศษคือจ้านเซินรู้ความลับนี้อยู่แล้ว และรอให้ลู่เซิ่นเข้ามา หลังจากนั้นก็กำจัดทิ้ง

ฉินซีเดาไม่ผิด จ้านเซินมีความคิดนี้พอดี

หลังจากที่ถังย่าและลู่เซิ่นวางแผนกับดักเรียบร้อย เตรียมจะกลับไป

เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของฉินซี จ้านเซินจึงพูดขึ้นมาเบาๆ “ไปตามเหยาจ้าว ให้มารักษาแผลของฉินซีเถอะ”

เขาไม่อยากให้ใบหน้าของฉินซีมีรอยแผลเป็น

“ฉันไปเอง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท