Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1390

ตอนที่ 1390

บทที่ 1390 ความตื่นตระหนก

ซิวหน่ายซิงไม่อยากเห็นถังย่ากลายเป็นฉินซีคนที่สอง เขายอมไม่ได้

“เดี๋ยวฉันไปเลยค่ะ”

ถังย่าเม้มริมฝีปาก ตอบกลับไป

หลังจากนั้น ถังย่าก็วางสาย

รอบตัวเธอแผ่รัศมีความเคร่งขรึม อุณหภูมิในรถลดลง

ซิวหน่ายซิงครุ่นคิด ก่อนที่จะเสี่ยงพูด “ ลูกพี่ ผมรู้สึกว่าที่ลู่เซิ่นพูด ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลนะ”

เขาพูดอย่างระมัดระวังสังเกตสีหน้าถังย่าผ่านกระจกมองหลัง

ถังย่ายังอารมณ์จมดิ่ง เมื่อได้ยินเขาพูดถึงลู่เซิ่นเงยหน้ามอง ถลึงตาใส่ซิวหน่ายซิง “ซิวหน่ายซิง นายเป็นพวกไหนกันแน่!”

เธอย้อนถามอย่างโมโห แววตาไม่พอใจ

ซิวหน่ายซิงได้ยินเสียงเธอคำรามโมโห หดคอหัวหด ”ลูกพี่ อย่าเพิ่งโกรธ ผมต้องเป็นพวกพี่อยู่แล้ว ผมแค่วิเคราะห์ก็เท่านั้น”

เขารู้อยู่แล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ถังย่าจะต้องโมโหแน่

แต่ถึงอย่างไร ซิวหน่ายซิงไม่อาจอยู่เฉยๆ มองถังย่าหลงผิด สุดท้ายทำให้ตัวเองพินาศ

ในตอนแรกถังย่าช่วยเขาออกมาจากนรก เขาจดจำฝังใจเสมอ

“วิเคราะห์อะไร”

เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ความโมโหในใจของถังย่าก็คลายลงมาก

แต่ยังไม่หายไปหมดสิ้น เธอจ้องซิวหน่ายซิง เขม็ง เหมือนรอเขาพูดเหตุผลออกมา

ซิวหน่ายซิงมองสายตาน่ากลัวของเธอ ก็รู้ว่าถังย่ากำลังรอ ถ้าเขาพูดเหตุผลที่ถูกต้อง ถังย่าคงจะยิ่งโกรธ

ในใจเขาเพื่อความซวยที่กำลังจะมาถึง เงียบไว้อาลัยให้ตัวเองสามวินาที จากนั้นพูดขึ้น ”ลูกพี่ พี่สังเกตมั้ย ช่วงนี้พี่เปลี่ยนไปมาก”

ซิวหน่ายซิงเป็นคนเก็บซ่อนอารมณ์ไม่เก่งอยู่แล้ว เขาไม่รู้ควรพูดอ้อมค้อมอย่างไรดี สาเหตุหลัก ก็เพราะถังย่าเป็นคนความรู้สึกช้า ในด้านความรักไม่รู้เรื่องเลย ถ้าซิวหน่ายซิงพูดไม่ชัดล่ะก็ ถังย่ายิ่งไม่รู้ว่าความหมายที่เขาต้องการพูด

แม้เขาจะเตรียมพูดออกไป ให้ถังย่าเข้าใจชัดเจน ไม่ต้องกังวลถังย่าจะโกรธ

“เปลี่ยนหรือ ฉันเปลี่ยนตรงไหน”

ถังย่าย่นคิ้ว ถามเสียงเย็น

เธอรู้สึกว่าตัวเองก็เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนตรงไหนสักหน่อย

นอกจากนี้ ถังย่ารู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเอง กับความรู้สึกของตัวเอง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ซิวหน่ายซิงเห็นเธอท่าทางไม่เข้าใจ ได้แต่พูดต่อ “ลูกพี่ อย่างที่ลู่เซิ่นพูดไปนั่นแหละพี่ยิ่งทียิ่งเหมือนมนุษย์มีเลือดเนื้อแล้ว”

จุดนี้ซิวหน่ายซิงที่ติดตามถังย่ามาตลอดรู้สึกได้มากที่สุด

ถังย่าเมื่อได้ฟังเช่นนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก “ไม่มีทาง ซิวหน่ายซิงนายอย่าพูดมั่วๆ แถวนี้”

เธอรู้ซิวหน่ายซิง มีนิสัยเสีย ชอบล้อเล่นเป็นที่สุด

ดังนั้น ถังย่าย่อมคิดไปว่าซิวหน่ายซิงตอนนี้ล้อเล่นกับตัวเอง

ซิวหน่ายซิงน้อยครั้งจะทำหน้าจริงจัง “ลูกพี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจอเรื่องลู่เซิ่นกับฉินซี จะต้องทำตามกฎขององค์กรและคำสั่งของจ้านเซินเท่านั้น แต่ตอนนี้พี่ไปเจรจากับลู่เซิ่นเอง หวังว่าจะหาวิธีไกล่เกลี่ยอย่างสันติได้”

นี่ไม่ใช่สไตล์ของถังย่าสักนิด เธอเริ่มใจอ่อนแล้ว

“ที่ไหนกันล่ะ”

ถังย่ายืนกรานปฏิเสธ ในใจกลับหวั่นไหว

อันที่จริง ซิวหน่ายซิงพูดถูกแล้ว

จ้านเซินสั่งเธอ ให้เธอคอยแอบตามลู่เซิ่น จับตาทุกความเคลื่อนไหวของเขา ไม่ได้สั่งให้เธอไปทำอย่างอื่น

แต่เธอกลับไปถึงที่ ปากพูดว่าหวังดีกับลู่เซิ่นและฉินซีเพื่ออะไรกันแน่ มีแต่ถังย่าที่รู้

“ลูกพี่ ไม่ต้องทำไขสือแล้ว ผมดูออก พี่แสดงออกชัดเจนขนาดนี้”

ถ้าไม่เพราะกลัวว่าถังย่าแสดงออกชัดมากเกินไป จะเปิดเผยทุกอย่างซิวหน่ายซิงก็ไม่อยากพูดออกมา

เผชิญหน้ากับสายตาของซิวหน่ายซิง ถังย่าเม้มริมฝีปาก

“พอละ ไม่ต้องพูดแล้ว ตั้งใจขับรถไปเลย”

ถังย่าเปลือนอกสงบนิ่ง แต่ในใจหงุดหงิดมาก

เธอเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ไม่อยากฟังเรื่องชวนปวดหัวอีก

ถังย่ามองออกไปนอกหน้าต่าง เสน่ห์ในดวงตาคู่งามหายไป สายตาเผยให้เห็นความเศร้าบางๆ

มองเห็นเธอเป็นอย่างนี้ซิวหน่ายซิงเลือกที่จะไม่พูดออกมา

ซิวหน่ายซิงแอบถอนหายใจ ดึงสายตากลับมา

เขาตั้งใจขับรถต่อไป ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

ไม่นานนักรถก็มาถึงหน้าโรงพยาบาล

ซิวหน่ายซิงแสดงบัตรอนุญาตผ่านเข้าออก แล้วขับเข้าไป

ถังย่าสับสนมาตลอดทาง ในหัวว่างเปล่า

“ลูกพี่ ถึงแล้วครับ”

กระทั่งได้ยินเสียงเรียกของซิวหน่ายซิงถังย่าถึงได้รู้สึกตัว

ถังย่าเก็บความคิดฟุ้งซ่านไว้ในใจ พยักหน้า ”รู้แล้ว เข้าไปกันเถอะ”

เธอเปิดประตูรถ เดินนำเข้าไปในโรงพยาบาล

ตามที่อยู่ที่จ้านเซินให้มาถังย่า เดินไปข้างหน้า

เธอมาถึงห้องของฉินซี ก็เห็นแต่เหยาจ้าวคนเดียว

ถังย่าขมวดคิ้ว ”หมอเหยา ฉินซีกับจ้านเซินไปไหนคะ”

จ้านเซินให้เธอมาหาฉินซีที่นี่ไม่ใช่หรือ ทำไมทั้งสองคนไม่อยู่

“จ้านเซินไปเป็นเพื่อนฉินซีเดินเล่นที่สวนดอกไม้ค่ะ”

เหยาจ้าวพูดเรียบๆ แต่ไม่รู้ว่าคำพูดนี้จะเหมือนเข็มนับพันนับหมื่นเล่ม ทิ่มแทงใจของถังย่า

สีหน้าของถังย่าซีดเผือด

เดินเล่น นี่เป็นเรื่องที่ถังย่าไม่เคยได้ยินมาก่อน

จ้านเซินจะเสียเวลากับเรื่องไร้สาระอย่างนี้ได้อย่างไรกัน

บางที เพราะสถานะฉินซีในใจของจ้านเซินไม่เหมือนกัน เรื่องไร้สาระอย่างนี้ กับจ้านเซินแล้ว กลายเป็นมีความหมายขึ้นมา

ถังย่าสูดลมหายใจยาว ซ่อนความไม่พอใจไว้ข้างใน

“อ้อ ฉันไปหาพวกเขาเองค่ะ”

ถังย่าพยักหน้าเรียบๆ หันเดินออกนอกประตูไปอย่างรวดเร็ว

ท่าทางสะบัดพรืดไปอย่างนั้น คนที่เข้าใจรู้ว่าถังย่าไปหาคน แต่ถ้าไม่รู้ จะนึกว่าถังย่าไปจับกิ๊ก

เหยาจ้าวมองด้านหลังของเธอ ส่ายศีรษะ

ซิวหน่ายซิงรับรู้อารมณ์ที่เปลี่ยนไปของถังย่า เขาตามหลังเธอไปอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าหายใจ เกรงว่าติดร่างแห ตัวเองจะซวย

อีกอย่าง ตอนนี้ในใจถังย่ามีแต่จ้านเซินคนเดียว

เธออยากรู้ว่าตอนนี้จ้านเซินกับฉินซีทำอะไรอยู่ที่สวน

เมื่อนึกถึงจ้านเซินอยู่กับฉินซีสองต่อสอง ในใจถังย่าก็เกินทนถึงกับอยากฆ่าคน

ความรู้สึกผิดปกตินี้ ทำให้ถังย่าไม่สบายใจมาก เธอไม่อยากเป็นอย่างนี้ แต่ควบคุมใจตัวเองไม่ได้ ถังย่ารู้สึกตื่นตระหนก

จังหวะฝีเท้าของถังย่ารวดเร็ว

ขณะที่เธอไปถึงสวนดอกไม้ ก็เห็นฉินซีเกาะแขนจ้านเซินเดินไปข้างหน้าพอดี ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใส

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท