Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1401

ตอนที่ 1401

บทที่ 1401 ตอบโต้

“ใช่”

เหยาจ้าวพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก

เขามองไปที่ฉินซี และพูดอย่างอบอุ่น : “ฉินซี ไม่ต้องกังวล แค่การตรวจทั่วไปเท่านั้น เหมือนปกติ ไม่นานก็เสร็จ”

เหยาจ้าวก้มมองฉินซี เขาต้องการใช้สายตาเตือนฉินซี

แต่ตอนนี้ฉินซีกำลังอยู่ในความโกรธ จึงไม่เข้าใจความหมายของเขา

“อืม”

ฉินซีตอบกลับอย่างนิ่งสงบ และหลับตาลง

เธอรู้ เหยาจ้าวต้องทำการสะกดจิตโดยตรงภายใต้คำสั่งของจ้านเซิน

ตอนนี้จ้านเซินไม่อยากรอแม้แต่สักครู่เดียว เขาแค่ต้องการตรวจฉินซีให้เสร็จให้เร็วที่สุด

บอกว่าเป็นการตรวจ ความจริงแล้ว ก็แค่เพื่อพาฉินซีออกมา

จ้านเซินเดาว่า ลู่เซิ่นต้องรู้ตำแหน่งห้องพักผู้ป่วยของฉินซีก่อนล่วงหน้าแล้วอย่างแน่นอน

หลังจากลู่เซิ่นแอบเข้ามาในโรงพยาบาลได้ ต้องไปหาฉินซีในทันที

และจ้านเซินก็เข้าใจจิตวิทยาของเขาได้อย่างชัดเจน จึงได้จัดการซุ่มโจมตีทุกๆ ด้านไว้ในห้องพักผู้ป่วยของฉินซี เขาก็แค่รอให้ลู่เซิ่นเดินเข้ามาในประตูเอง เขาก็จะจัดการได้อย่างง่ายดาย

“ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ตรวจ ตรวจอย่างละเอียด”

จ้านเซินกล่าวอย่างสงบนิ่ง มองทั้งสองคนอย่างได้เปรียบ

เหยาจ้าวสัมผัสถึงสายตาที่มองมาจากด้านบนศีรษะได้อย่างชัดเจน เป็นสายตาที่ร้อนแรง

เขามั่นใจได้เลยว่าถ้าตัวเองทำอะไรผิดพลาดขึ้นมาตอนนี้ จ้านเซินต้องจับตัวเขาไว้ทันที

มือทั้งสองข้างของเหยาจ้าวกำหมัดแน่น

“ฉินซี ตอนนี้คุณทำตามคำแนะนำของฉัน ค่อยๆ จินตนาการ ตอนนี้คุณกำลัง…”

เหยาจ้าวทำตามขั้นตอนการสะกดจิตตามปกติ เริ่มดำเนินการสะกดจิตฉินซี

ขั้นตอนเหล่านี้ จ้านเซินดูมาไม่รู้กี่รอบแล้ว

เขาสังเกตการณ์อยู่สักพัก เห็นว่าเหยาจ้าวไม่มีปัญหาอะไร

จ้านเซินก้มหน้าดูนาฬิกาบนข้อมือ เวลา23.40น.แล้ว

ระยะเวลาห่างจากแผนของลู่เซิ่น อีกแค่20นาทีเท่านั้น

จ้านเซินเดินไปหน้าประตู มองถังย่าที่ยืนพิงขอบประตู และพูดเสียงเบาๆ ว่า : “เหตุการณ์ต่อจากนี้ที่นี่ให้เธอดูแลต่อ ฉันจะไปดูที่ห้องพักผู้ป่วยหน่อย”

ตอนนี้คนที่เขาเชื่อถือได้มีแค่ถังย่าเท่านั้น

แววตาของจ้านเซินเคร่งขรึมขนาดนั้น ถังย่ารู้สึกว่าภาระบนไหล่ของตัวเองหนักขึ้นอีกหลายเท่าในชั่วพริบตา

ถังย่าดีใจที่จ้านเซินใช้งานตัวเองอีกครั้งและไว้วางใจตัวเอง แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลที่เขาบ้าแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ในใจก็เจ็บปวด

“ได้”

ถังย่ากดความเจ็บปวดนั้นไว้ พยักหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

ขอแค่เป็นภารกิจที่จ้านเซินมอบให้ แม้ว่าจะต้องสละชีวิตของเธอ เธอก็จะทำให้สำเร็จ

จ้านเซินตบบ่าเธอ ผลักประตูห้องกายภาพบำบัดออก เดินก้าวขาออกไปทางนอกประตู

ถึงแม้เหยาจ้าวกำลังสะกดจิตฉินซีอยู่ แต่ความสนใจอยู่ที่ร่างของจ้านเซินตลอด

เมื่อเห็นจ้านเซินออกไป รู้ได้ทันที คืนนี้จะต้องเป็นคืนที่ไม่สงบอย่าแน่นอน ศึกนองเลือดเริ่มขึ้นแล้ว

และขณะนั้น ฉินซีอยู่เข้าสู่การสะกดจิตไปเรียบร้อยแล้ว

เธอเห็นธารน้ำใสสะอาดเส้นหนึ่งตรงหน้าตัวเอง ฉินซีรู้สึกกระหายน้ำ อยากจะชิมน้ำในธารน้ำหน่อยว่าจะหวานอย่างที่คิดไว้ไหม

แต่เมื่อฉินซีขยับเข้าใกล้และโน้มตัวลง ใช้มือตักน้ำในธารน้ำขึ้นมาเตรียมจะดื่มสักหน่อย น้ำที่เดิมทีใสสะอาดจนมองเห็นพื้นดินกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดในทันที

“เอ๊ะ!”

ฉินซีกรี๊ดเสียงแหลม ตกใจจนทรุดลงนั่งกับพื้น

เธอมองแม่น้ำเลือดสีแดงสดตรงหน้า ภายในดวงตาสีอำพันปรากฏความกลัว

ฉินซีก้มหน้า เห็นในมือตัวเองเต็มไปด้วยเลือด

“เลือด! เลือด!”

ฉินซีอยากจะเช็ดออก แต่ยิ่งเช็ดยิ่งเลอะ

“ไม่! ไม่เอา!”

ระหว่างการสะกดจิต ฉินซีพยายามต่อสู้อย่างรุนแรง

เหยาจ้าวมองเธออย่างห่วงใย และตะโกนเรียกเสียงดังว่า : “ฉินซี ฉินซี คุณเป็นอะไร คุณใจเย็นหน่อย!”

เขารีบร้อนดูแลฉินซีที่กำลังพยายามต่อสู้ไม่หยุด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย

ถังย่าเห็นความผิดปกติ ก็รีบเดินเข้าไป

เธอมองใบหน้าซีดขาวของฉินซี ท่าทางที่เหงื่อออกเต็มตัว ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก : “หมอเหยา เกิดอะไรขึ้นกับฉินซี ทำไมอยู่ก็คลั่งขึ้นมาอย่างนี้?”

นอกจากครั้งนั้นในองค์กร ถังย่าก็ไม่เคยเห็นท่าทางอย่างนี้ของฉินซีอีกเลย

เหยาจ้าวก็เป็นห่วงมาก : “สภาพจิตใจของฉินซีตอนนี้ไม่มั่นคง เธอติดอยู่ในความฝันไม่สามารถออกมาได้ คำพูดของฉัน เธอก็ไม่ฟัง”

เขารีบพูดอย่างร้อนรน ท่าทางไม่เหมือนแกล้งทำ

ถังย่ามองท่าทีเจ็บปวดของฉินซี ก็ตื่นเต้นตามไปด้วย : “ฉินซี คุณไม่เป็นไรใช่ไหม!”

เธอโม้นตัวไปข้างหน้า ตะโกนเรียกชื่อของฉินซีเสียงดัง หวังว่าฉินซีจะรีบตื่นได้สติกลับมาโดยเร็ว

และในตอนนั้นเอง

ตาที่เดิมทีปิดสนิทของฉินซี เปิดขึ้นมาทันที

“ฉึบ!” เสียงดังขึ้น

ไม่รู้ว่าฉินซีเอาเข็มเงินมาจากไหน มาจ่อที่คอของถังย่า

“อย่าขยับ!”

ฉินซีพลิกตัวและกดถังย่าไว้ใต้ตัวเอง มองเธอด้วยสายตาคมกริบ

เข็มเงินคมกริบเล่มนั้นอยู่ที่ข้างคอของถังย่า แค่ถังย่าขยับ เข็มเงินก็จะแทงทะลุหลอดเลือดแดงของถังย่าอย่างไม่ลังเล

ถังย่ามองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ : “คุณ…”

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าฉินซีจะแกล้งทำแบบนี้

แม้แต่เหยาจ้าวยังคาดไม่ถึง ตกตะลึงยืนอยู่ที่เดิม

เข็มเงินในมือเธอไม่ขยับ เธอกัดริมฝีปากและพูดเสียงเบาๆ ว่า : “ถังย่า ฉันไม่อยากทำร้ายคุณ ฉันแค่ต้องการจะออกจากองค์กร คุณช่วยฉันเถอะ”

เธอขอร้องอย่างนอบน้อม เธอรู้ว่าถังย่าต้องมีวิธีแน่นอน

“ไม่มีทาง”

ถังย่าไม่แม้แต่จะคิดและตอบปฏิเสธเธอตรงๆ

เธอไม่สามารถทรยศจ้านเซินได้ เธอสาบานว่าต่อให้ตายก็จะเดินไปกับจ้านเซิน

“ทำไม? คุณไม่คิดว่าองค์กรขาดความเป็นมนุษย์หรือไง? สถานที่แบบนั้นมีคุณค่าอะไรให้คุณนึกถึง”

ฉินซีมองเธออย่างสงสัย และอ้าปากถามอย่างไม่สบอารมณ์

เธอหวังจริงๆ ว่าถังย่าจะไปด้วยกันกับตัวเอง จะดีที่สุดถ้าพวกเธอทำลายองค์กรให้สิ้นซากก่อนจะจากมา ไม่ปล่อยให้มันทำลายความเป็นมนุษย์อีกต่อไป

“คุณไม่เข้าใจ”

ใช้ฟันกัดปากแน่น ถังย่าหันหน้าหลบไม่ยินดีสบตากับเธอ

จริงๆแล้วสำหรับถังย่า ไม่ว่าที่ไหนก็เหมือนกันหมด

เธอไม่มีบ้าน ไม่มีคนที่ค่อยห่วงใย

ถ้าอยู่ในองค์กร ยังมีโอกาสได้เห็นจ้านเซินบ่อยๆ แบบนี้เธอก็พอใจมากแล้ว

ฉินซีมองเธอ และเอ่ยปากทันที : “เป็นเพราะจ้านเซินใช่ไหม คุณชอบจ้านเซิน”

เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา ปลดปล่อยการเสแสร้งของถังย่า

“ถังย่าคุณไม่ต้องปิดบังแล้ว คุณคิดว่าพวกเราโง่หรือไง? ฉันจะบอกคุณ ถ้าคุณยังอยู่ในองค์กร ถ้ากฎขององค์กรยังไม่สลายไป คุณก็ไม่สามารถอยู่กับจ้านเซินได้ตลอดไป”

ฉินซีพูดอย่างเฉียบคมเพื่อเตือนสติเธอ

ในองค์กรมีกฎชัดเจน ทุกคนไม่สามารถมีความรัก และแต่งงานไม่ได้

ทุกการกระทำทั้งหมดของถังย่าตอนนี้ถือว่าผิดกฎขององค์กรไปแล้ว หลังจากถูกตรวจพบก็จะถูกขังไว้ในห้องมืด

ริมฝีปากแดงของถังย่าค่อยๆ ขยับ : “ฉันไม่เคยคิดจะอยู่ด้วยกันกับจ้านเซิน คุณคิดไปไกลแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท