Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1392

ตอนที่ 1392

บทที่1392 ด้วยเกียรติของฉัน

พวกเขาไม่คิดสักนิด คนอย่างฉินซีและถังย่านะหรือ จะถูกคนปกติธรรมดาอย่างพวกเขาควบคุมได้

เผชิญหน้ากับฉินซีที่ทำท่าเห็นด้วย มุมปากของถังย่ายกยิ้มขึ้นเบาๆ

รอยยิ้มของเธอไม่ได้ส่งไปถึงดวงตา ฉินซีในฐานะที่เป็นผู้หญิง เธอรู้สึกได้ชัดเจน ว่าครั้งนี้ถังย่าดูเปลี่ยนไป

ฉินซีอยากจะถามถังย่ามาก ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น แต่ตรงหน้าคนเยอะเกินไป ไม่สะดวกนัก

และฉินซีรู้ดี ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับถังย่า มันไม่ได้ดีนัก

แม้ว่าเธอจะถาม ถังย่าก็อาจจะไม่ตอบเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินซีทำได้แค่ปิดปากเงียบ

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤต เธอไม่พูดอะไรเป็นดี เลี่ยงไม่ให้จ้านเซินสงสัย

ถังย่าดึงมือออกจากการเกาะกุมของฉินซี

ถังย่ามองไปยังจ้านเซินที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินซี ก่อนพูดด้วยเสียงเรียบ “จ้านเซิน ฉันมีเรื่องที่จะรายงานกับคุณ ออกมาคุยได้ไหม?”

เธอมองตรงไปที่จ้านเซิน ดวงตาดอกท้อทอประกายความมืดขมุกขมัวออกมา

แม้กระทั่งจ้านเซินยังรู้สึกได้ว่าถังย่ามีท่าทีแปลกไป แต่แปลกตรงไหน ก็ไม่แน่ใจ

เมื่อเห็นเธอเหมือนจะกันฉินซีออก จ้านเซินก็พยักหน้า “ได้สิ”

จ้านเซินเดินตามถังย่าออกไป

ถังย่ามองไปที่ซิวหน่ายซิง “นายมาที่นี่เพื่อมาเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณฉิน ดูแลเธอให้ดี อย่าให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น”

เมื่อตอนพูดประโยคนี้ออกมา ใจของถังย่าเต็มไปด้วยอารมณ์การถากถางเสียดสี

ฉินซีเป็นเหมือนสิ่งล้ำค่าของจ้านเซิน ถ้าซิวหน่ายซิงไม่ดูแลเธอ จ้านเซินจะต้องโกรธแน่นอน

ซิวหน่ายซิงรู้สึกว่าไหล่ของเขาหนักเหมือนมีอะไรกดทับ

เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ครับ เจ้านาย”

ถังย่ารู้สึกขบขันกับท่าทางที่จริงจังของเขา เธออารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

ทว่า เมื่อฉินซีเห็น จ้านเซินกับถังย่าเดินห่างออกไป จิตใจของเธอกลับกระวนกระวายขึ้นมา

ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นภายในใจของฉินซี

เธอมักจะรู้สึกว่าคล้ายกับจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง แถมยังเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้หรืออะไรแบบนั้น

ความรู้สึกที่จิตใจว้าวุ่นแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

ซิวหน่ายซิงมองไปยังใบหน้าซีดเซียวของฉินซี ก่อนจะถามเสียงต่ำ

“คุณฉิน เป็นอะไรไหมครับ หรือเป็นเพราะว่าเดินเล่นข้างนอกนานไป เหนื่อยหรือเปล่าครับ?”

เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มองไปที่ฉินซีอย่างกระวนกระวายใจ

เสียงที่ดังขึ้นมา ขัดความคิดของฉินซี

ฉินซีมองไปที่ใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ยิ้มบาง ส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ”

เธอจำซิวหน่ายซิงได้ แต่เธอไม่ได้คุ้นเคยกับเขา

เพราะว่าซิวหน่ายซิงเป็นผู้ช่วยของถังย่าเมื่อต้องทำภารกิจข้างนอก ตอนอยู่ในองค์กรก็ไม่ได้เจอ

ฉินซีและถังย่าปฏิบัติภารกิจร่วมกันน้อยครั้ง ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยเห็นเขาบ่อยนัก

“คุณชื่อซิวหน่ายซิงใช่ไหม?”

ฉินซีเอ่ยเสียงเบา เธอจำได้ครั้งแรกที่เห็นซิวหน่ายซิง ตอนนั้นเขาไม่สูงเท่าตอนนี้ รูปร่างผอมบาง เหมือนเด็กที่ยังไม่โตเต็มวัย

แต่การพบกันครั้งนี้ ซิวหน่ายซิง กลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่

ฉินซีรู้มาว่า ซิวหน่ายซิงโดดเด่นมาก ช่วยถังย่าทำภารกิจที่ยากมากมาย

ซิวหน่ายซิงมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ถึงว่าคุณฉินจะจำชื่อของผมได้ด้วย ความจำดีจังเลยครับ”

เขาและฉินซีเคยพบกันทั้งหมดสองหรือสามครั้ง และเขาคิดว่าฉินซีลืมคนที่ไม่สำคัญเช่นเขาไปแล้ว

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ คุณมีเอกลักษณ์ มองครั้งเดียวก็จำได้แล้ว”

และฉินซีไม่ได้โกหก

ครั้งแรกที่เธอเห็นซิวหน่ายซิงจากข้างหลัง เธอรู้สึกประหลาดใจกับความชิงชังและความรั้นในตัวเขา

ฉินซีเคยคิดว่าเมื่อซิวหน่ายซิงเติบโตขึ้น เขาจะโตเป็นคนที่โหดร้ายและไร้ความปรานีเหมือนจ้านเซิน

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขามีอารมณ์ขัน แตกต่างจากตอนที่เขายังเป็นเด็กอย่างสิ้นเชิง

ถ้าไม่รู้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของซิวหน่ายซิงฉินซีก็ไม่สามารถเดาได้ ว่าจริงๆแล้วเขามาจากสภาพแวดล้อมอันดำมืด

ซิวหน่ายซิงมองไปยังท่าทางเงียบสงบและไว้ตัวของเธอ ก่อนถอนหายใจเบาๆ ในใจ

ในสายตาของเขา ทั้งฉินซีและถังย่าต่างก็เก่งกาจทั้งคู่

เพราะว่าถังย่าช่วยชีวิตเขาไว้ ซิวหน่ายซิงจึงชอบถังย่ามากกว่าเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธความสง่างามของฉินซีได้

ฉินซีสามารถดำรงอยู่ในองค์กร เพื่อช่วยและเป็นกำลังให้องค์กรก็ดีแล้ว

แต่ตอนนี้ภายในใจของเธอมีคนอื่น เธอไม่สมัครใจจะอยู่ในองค์กร ภายในใจคิดเพียงแต่จะบินหนีไปกับลู่เซิ่น

แม้ว่าจ้านเซินจะใช้วิธีการต่างๆ เพื่อบังคับให้ฉินซีอยู่เคียงข้างเขา มันก็ทำให้อยู่ได้แค่ตัว ไม่ใช่หัวใจ

ซิวหน่ายซิงไม่เข้าใจ ว่าแบบนี้มันจะได้อะไร มันมีความหมายอย่างไร

ถ้าเป็นเขา เขาจะเลือกที่จะปล่อยฉินซีไป ในเมื่อไม่ได้รับ ปล่อยมือเธอให้ไปเจอความสุขไม่ดีกว่าหรือ

ซิวหน่ายซิงรู้ชัดเจน ที่ถังย่าเรียกจ้านเซินไปคุยส่วนตัวเมื่อกี้ ก็เพื่อจะบอกเรื่องที่ลู่เซิ่นจะมาช่วยฉินซีในคืนนี้

ตอนจบของฉินซีและลู่เซิ่นได้ถูกลิขิตไว้แล้ว ซิวหน่ายซิงอดไม่ได้ที่จะไว้อาลัยในใจให้เธอเป็นเวลาสามวินาที

ผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ถูกจ้านเซินตกหลุมรัก ทว่ากลับไม่ได้อิสระใด กลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเรื่องหนึ่ง

แน่นอน ซิวหน่ายซิงกล้าที่จะพูดเพียงในใจเท่านั้น

ถ้าหากเขาพูดต่อหน้าจ้านเซิน เงาหัวคงไม่มี

ซิวหน่ายซิงแน่ใจว่าจ้านเซินจะฆ่าเขาด้วยนัดเดียว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ความสงสารสุดท้ายในใจของซิวหน่ายซิงพลันหายไป

เมื่อเห็นว่าเขาหยุดพูดกะทันหัน ฉินซีจึงมองไปทางเขาอย่างแปลกใจ “ผู้ช่วยซิว เป็นอะไรไปครับ?”

เธอรู้สึกว่าวันนี้คนรอบตัวเธอแปลกไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอกังวลมากเกินไปหรือเปล่า ดูอะไรทั้งหมดก็ไม่มีอะไรปกติ

ซิวหน่ายซิงกลับมามีสติ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนตามปกติ “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณฉินทั้งสวยและงดงามขนาดนี้ ยังกรุณาจำผมได้ ก็เป็นเกียรติสำหรับผมมากแล้ว”

เขาพูดติดตลก ทำท่าทางเอ้อระเหยแบ่งเบาไม่ให้ฉินซีรับรู้ถึงแผนการ กลับทำให้เธอรู้สึกตลกขบขัน

ฉินซีคิดว่า ซิวหน่ายซิง เป็นคนที่รู้จักขอบเขตตัวเองถึงจะนับว่าเป็นคนมีอารมณ์ขัน แต่ทว่าไอ้พวกผู้ชายเป็นแค่อันธพาล เห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นของพวกมัน

“ตอนอยู่กับถังย่า คุณตลกแบบนี้บ้างไหมคะ?”

ฉินซีไม่สามารถห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้มได้ เธอเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา

หลายวันมานี้เธอถูกจ้านเซินสั่งให้อยู่แต่ภายในห้องพักฟื้น จนเกือบจะเฉาตายแล้ว

แม้จะมีเหยาจ้าวและโจวซิง แต่พวกเขาก็ต้องระมัดระวังคำพูด เพราะกลัวว่าจ้านเซินจะมาได้ยิน ฉินซีไม่ได้ผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว

เธอยืนอยู่ที่สวนดอกไม้ ฟังเสียงนกร้อง สูดอากาศบริสุทธิ์ ทันใดก็รู้สึกว่าภายในใจมันหนักอึ้งไม่ค่อยสบาย

ซิวหน่ายซิงพยักหน้า “ครับ เจ้านายของพวกเราชอบด่าพวกเราว่าไม่มีกาลเทศะ บอกให้หุบปาก ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้นะครับ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท