Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1409

ตอนที่ 1409

บทที่ 1409 ตื่น

ด้านนอกมืดมากๆ บวกกับเมื่อกี้ความสนใจของโจวซิงจดจ่ออยู่แต่กับการเข้าห้องน้ำ จึงไม่ได้สนใจว่าในมุมมุมหนึ่ง ยังมีใครอีกคนซ่อนตัวอยู่

โจวซิงมองลู่เซิ่นที่ถูกทำร้ายจนหน้าตาบวมช้ำ ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก : “บาดเจ็บหนักจนไม่รู้สึกตัวจริงๆ กระดูกเขาหักหลายที่ ต้องรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”

ถึงแม้เขาจะเป็นจิตแพทย์ แต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยเรียนศัลยกรรม

และโจวซิงมีความสามารถด้านศัลยกรรมสูงมาก แค่เขาสนใจด้านจิตวิทยามากกว่า จึงเลือกเรียนจิตแพทย์

แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่สามารถผ่าตัดได้

การผ่าตัดลู่เซิ่นแบบนี้ เขายังทำได้

แต่ที่นี่แย่เกินไป ไม่เหมาะสม

“งั้นออกไปก่อนค่อยว่ากัน”

โจวเอ้อก็คิดว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย เขาแบกลู่เซิ่นขึ้นหลังอีกครั้ง : “พวกเรารีบเดินหน่อย ถ้าจ้านเซินเกิดกลับมากะทันหัน พวกเราจบแน่”

เขาเห็นโจวซิงยังอืดอาดอยู่ จึงอดกระตุ้นไม่ได้

โจวซิงได้ยินอย่างนั้น หัวใจกระตือรือร้นขึ้นมาทันที

พละกำลังด้านการต่อสู้ของจ้านเซิน ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ โจวซิงกลับเข้าใจในทักษะของถังย่าอย่างลึกซึ้ง

แม้แต่ถังย่าเขายังสู้ไม่ได้ งั้นไม่ต้องพูดถึงจ้านเซิน

โจวซิงไม่คาดหวังว่าเพิ่งจะออกมาได้จะโดนจับขังอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของเขาเร่งรีบขึ้นมาทันที จนกระทั่งเร็วกว่าโจวเอ้อ : “คุณเร่งหน่อย ฉันไปเอารถมาก่อน”

โจวซิงโบกมือให้เขา และหายไปจากสายตาของโจวเอ้อ

โจวเอ้อมองท่าทางบุ่มบ่ามของเขา ส่ายหน้าแต่กลับก้าวขาเร็วขึ้น

เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือการออกไปให้เร็วที่สุด

จากนั้น หาโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้ ให้โจวซิงผ่าตัดให้ลู่เซิ่น

โจวเอ้อเพิ่งจะเดินมาถึงประตู โจวซิงก็ขับรถมาจอดแล้ว

“รีบขึ้นรถ!”

โจวซิงพูดกระตุ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

เมื่อกี้เขาเหมือนจะเห็นบอดี้การ์ดของจ้านเซินที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ยังแยกย้ายกันไปไม่หมด

“อืม”

โจวเอ้อพยักหน้า เปิดประตูรถและวางลู่เซิ่นเข้าไปก่อน

ระหว่างนั้น โดนบาดแผลของลู่เซิ่นโดยไม่ทันระวัง

ลู่เซิ่นเจ็บจนขมวดคิ้ว ส่งเสียงอู้อี้ออกมาอย่างเจ็บปวด : “โอ๊ย…”

โจวเอ้อมองเขาอย่างเป็นห่วงและประคองให้เขานั่งตรงๆ : “ลู่เซิ่น คุณอดทนอีกหน่อย ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว”

“ออกรถ ไปโรงพยาบาลที่คุณเคยอยู่ก่อนหน้านี้”

โจวเอ้อสั่งพลางดูแลลู่เซิ่น

หลังได้รับคำสั่ง โจวซิงขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว

รถออฟโรดสีดำ พุ่งออกมาราวกับลูกศรและหายไปในความมืดภายในพริบตา

รถออฟโรดสีดำคันนี้ เดิมทีเตรียมไว้สำหรับใช้หลบหนี

แต่ตามแผนของลู่เซิ่นแล้ว

คือหลังจากที่ช่วยฉินซีออกมาแล้ว พวกเขาทุกคนนั่งอยู่บนรถคันนี้ละขับออกมาด้านนอก

ถึงเวลานั้นหาสถานที่ที่ไม่มีจ้านเซิน และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับฉินซี

น่าเสียดาย ตอนนี้แผนการทั้งหมดไม่เป็นความจริง

ฉินซีโดนจ้านเซินพากลับไปที่องค์กร หลังจากนี้ถ้าอยากช่วยออกมาอีกคงยากยิ่งกว่าเดิม

“ฉินซี ฉินซี …”

ลู่เซิ่นที่อยู่ในอาการสับสน ขมวดคิ้วแน่น ร้องเรียกชื่อของฉินซีไม่หยุด

มองท่าทางความลำบากเพื่อความรักของลู่เซิ่น โจวเอ้อถอนหายใจ

เขาไม่รู้ว่าหลังจากลู่เซิ่นตื่นขึ้นมา จะบอกเรื่องที่ฉินซีโดนจับตัวไปกับเขายังไงดี

ถ้าลู่เซิ่นรู้ คงเป็นบ้า

ในเมื่อ ตอนนั้นลู่เซิ่นก็อยู่ในเหตุการณ์ เขาเห็นผู้หญิงที่รักโดนจับไปต่อหน้าต่อตา

ภายใต้การขับรถอย่างรวดเร็วของโจวซิง ทั้งสามคนมาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

“รีบพาลู่เซิ่นเข้าไปในห้องผ่าตัด ฉันจะไปเตรียมอุปกรณ์”

โจวซิงพูดพลางวิ่งไปทางห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองคนแบ่งงานกันชัดเจน และรวดเร็วมาก

โจวซิงเรียกพยาบาลมาหลายคน เพื่อเริ่มทำการผ่าตัดกระดูกให้ลู่เซิ่น

โจวเอ้อรออยู่นอกประตูอย่างร้อนใจ

……

ขณะเดียวกัน

ฉินซีอยู่บนรถที่จะกลับองค์กรแล้ว

ตั้งแต่ขึ้นรถมา เธอมองไปนอกหน้าต่างไม่พูดไม่จา

การแสดงออกของฉินซีดูเคร่งขรึมมาก ใครๆ ก็เข้าใจความคิดเธอ

จ้านเซินนั่งอยู่ทางขวามือของเธอ บรรยากาศความกดดันแผ่กระจายอยู่รอบตัว เย็นชาจนซิวหน่ายซิงที่ขับรถอยู่ด้านหน้าสั่นไปทั้งตัว

แต่ ฉินซีกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร

ในใจของเธอมีแค่ลู่เซิ่น เธออยากรู้ว่าตอนนี้ลู่เซิ่นเป็นยังไง โจวเอ้อหาเขาเจอไหม

เมื่อกี้ฉินซีลองสำรวจอาการบาดเจ็บของลู่เซิ่นดูแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงชีวิต แต่ก็บาดเจ็บไม่น้อย

ต่อให้กระดูกสมานกันแล้ว ก็ยังต้องรักษาอาการอีกสัก1-2เดือนจึงจะดีขึ้น

ฉินซีขมวดคิ้ว อยากจะมีปีกงอกออกมาสักคู่และบินไปหาลู่เซิ่นที่นั่น

เมื่อคิดว่าต้องกลับไปอยู่ในกรงขังที่องค์กร ฉินซีรู้สึกว่าตรงหน้ามืดไปหมด ชีวิตสิ้นหวัง

ถังย่านั่งอยู่ด้านข้างคนขับ

เธอมองจากกระจกมองหลังเห็นทั้งสองคนนั่งอยู่คนละฝั่ง ในใจไม่รู้สึกอะไร

ถังย่าหลับตาลงหยาบๆ ทำเป็นแกล้งหลับ ไม่ได้ยินและไม่เห็นอะไร เพื่อลดความน่าเบื่อ

เส้นทางกลับองค์กรไกลมาก ขับรถมาทั้งคืนเพิ่งจะถึง

เมื่อฉินซีมาถึงที่หมาย การผ่าตัดลู่เซิ่นก็เสร็จสิ้นพอดี

“ผ่าตัดสำเร็จ”

โจวซิงถอดหน้ากากออก โล่งใจขึ้นมาหน่อย

ถือได้ว่าเขาช่วยลู่เซิ่นออกมาจากประตูนรกแล้ว

โจวเอ้อได้ยินประโยคนี้ของเขา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มบางๆ : “ค่อยยังชั่ว ลำบากคุณแล้ว”

เขามองท่าทางใบหน้าซีดเซียว เหงื่อท่วมของโจวซิง รู้สึกห่วงใยเล็กน้อยจึงแตะบ่าเขาเบาๆ

“ทรมานมาทั้งคืนแล้ว รีบหาห้องพักสักหน่อยเถอะ ทางนี้ลู่เซิ่นฉันดูแลเอง สบายใจได้”

โจวเอ้อพูดอย่างมั่นคง

โจวซิงพยักหน้า : “งั้นฉันไปพักสักครู่ จริงๆก็จะทนไม่ไหวแล้ว ถ้าทางนี้ลู่เซิ่นเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณไปเรียกฉันที่ห้องทำงานน่ะ”

เขาเน้นย้ำสองสามคำก่อนจะเดินจากไป

โจวเอ้อมองลู่เซิ่นที่ถูกเข็นเข้าไปพักในห้องเฝ้าดูอาการผู้ป่วยสาหัส

ตอนนี้ลู่เซิ่นยังไม่ฟื้นขึ้นมา อาการยังไม่แน่นอน

ต้องรอให้ลู่เซิ่นฟื้นขึ้นมาก่อน ถึงจะบอกได้ว่าพ้นขีดอันตรายแล้วจริงๆ

“ฉินซี ฉินซี”

ลู่เซิ่นฝันเห็นท่าทางที่ฉินซีโดยจ้านเซินพาตัวไป เขาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ

เขา “ฉึก!” และลุกขึ้นนั่งทันที

“โอ้ย…”

บาดแผลส่งอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ลู่เซิ่นล้มลงและสูดหายใจเข้าลึกๆ

ลู่เซิ่นขมวดคิ้วแน่น กุมบาดแผลอย่างเจ็บปวดและมองรอบๆ ด้าน

รอบๆ เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ทำให้แสบจมูกจนทนไม่ไหว

โจวเอ้อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงรีบพุ่งเข้ามา

“ลู่เซิ่น คุณตื่นแล้ว!”

โจวเอ้อมองเขาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ดวงตาสีดำสนิทส่อแววกังวล : “คุณอย่าเพิ่งขยับ ฉันจะไปเรียกโจวซิงมาดูคุณก่อน”

เขาเห็นลู่เซิ่นลุกขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วแน่น

ขณะที่โจวเอ้อคิดว่าจะประคองเขาให้นอนลง ลู่เซิ่นกลับจับข้อมือเขาแน่น : “ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ฉินซีล่ะ? ฉินซีทำอะไรอยู่ที่ไหน?”

ลู่เซิ่นมองเขาอย่างตรงไปตรงมา ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

เขาจำได้แค่ว่าเขาต่อสู้กับจ้านเซิน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท