Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1416

ตอนที่ 1416

บทที่ 1416 โอกาสที่ฟ้าประทาน

หลอจี่หอางมองอีกครั้ง พบว่าตัวเองไม่ได้มองผิด

เป็นถังย่าจริง ตอนนี้เธอกำลังกินข้าวอยู่กับผู้ชายที่รีบร้อนมาในวันนั้น ตามที่เธอบอกว่าเป็นผู้ช่วยของเธอ

“หัวหน้าหลอ ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ?”

หลิวซีหางเห็นเขายืนเย็นชาอยู่ที่เดิม แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เธอมองตามสายตาของหลอจี่หอาง

“คุณถัง!”

หลิวซีหางตะโกนออกมาอย่างตกใจ

เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ผลักประตูกระจกเข้ามา รีบเดินเข้ามาข้างตัวถังย่า : “คุณถัง คุณก็มากินหม้อไฟที่นี่เหมือนกัน บังเอิญจัง”

เธอทักทายถังย่าอย่างกระตือรือร้น โดยไม่แสดงความแปลกใจแม้แต่นิด

ถังย่ามองท่าทางบริสุทธิ์ของเธอ ยิ้มบางๆ และพูดว่า : “ใช่สิ วันนี้เกิดอยากกินขึ้นมาพอดี เลยมากินหม้อไฟ พวกคุณก็…”

เธอเงียบไปชั่วคราว กวาดสายตามองคนที่อยู่ด้านหลังหลิวซีหาง

ถึงแม้พวกเขาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แต่ท่าทางเที่ยงตรงนั้น แค่ดูก็รู้ว่าเป็นตำรวจ

หลิวซีหางพูดตรงไปตรงมา : “วันนี้ทีมเล็กๆ ของพวกเรามากินข้าวกัน ฉันบอกว่าอยากกินหม้อไฟ หัวหน้าหลอเลยพาพวกเรามาที่นี่”

เธอพูดพลางวิ่งกลับไปตรงหน้าหลอจี่หอางอย่างเร็ว

“หัวหน้าหลอ ทำไมคุณไม่ทักทายคุณถังล่ะ”

หลิวซีหางผลักหลอจี่หอางให้เดินมาด้านหน้า กระตุ้นอย่างร้อนใจ

เธอรู้สึกว่าระหว่างถังย่ากับหลอจี่หอางต้องมีพรหมลิขิตต่อกัน ไม่งั้นเมืองใหญ่ขนาดนี้ ไม่น่าบังเอิญเจอกันอีกครั้งได้อย่างนี้

ในเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ยิ่งต้องรีบคว้าโอกาสไว้

หลอจี่หอางเดินไปตรงหน้าถังย่าอย่างไม่มีทางเลือก และหยุดยืนตรงหน้าถังย่า : “สวัสดีคุณถัง”

เขาพูดผ่านๆ ตรงข้ามกับความกระตือรือร้นเมื่อกี้ของหลิวซีหาง

เธอวางตะเกียบในมือลง ริมฝีปากแดงขยับน้อยๆ : “เหมือนหัวหน้าหลอจะไม่อยากเจอฉัน ทำไม? ฉันปรากฏตัวตรงนี้บดบังสายตาหัวหน้าหลอหรือไงกัน?”

คำพูดถังย่าเฉียดคม แววตาร้อนแรงมองตรงไปที่หลอจี่หอาง

ทำให้หลอจี่หอางหวนกลับไปคิดถึง วันนั้นที่สนามบิน ท่าทางครั้งแรกที่เจอถังย่า

ทุกครั้งที่เจอ ถึงย่ามีไหวพริบและรู้จักพูด

หลอจี่หอางทนไม่ไหวนิดหน่อย : “คุณถัง ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น คุณเข้าใจผิดแล้ว”

เขาพูดอย่างอึดอัด

หลิวซีหางเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี รีบเข้ามาช่วยพูดสองสามคำ : “คุณถัง คุณอย่าเข้าใจหัวหน้าของเราผิดไปนะ หัวหน้าของพวกเราไม่มีประสบการณ์ด้านความรัก ปกติก็ไม่ค่อยชอบติดต่อกับผู้หญิง รอบตัวถ้าไม่ใช่ผู้ชายก็เป็นพวกทำผิดกฎหมายพวกนั้น เวลาพูดเลยแข็งทื่อไปหน่อย”

เธอพูดอย่างจริงจัง : “แต่ฉันกล้ารับประกัน คำพูดของหัวหน้าของพวกเราไม่ได้ต่อต้านคุณ นี้เพราะความเคยชินจากอาชีพของเขา”

สีหน้าหลิวซีหางจริงจังขนาดนั้น กลัวถังย่าโกรธ

ถังย่ามองท่าทางพยายามอธิบายของเธอ อดหัวเราะออกมาไม่ได้ : “ฮ่าฮ่า”

เธอโบกมือ และหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง

“โอเค เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่น หัวหน้าหลออย่าได้เอามาใส่เด็ดขาด”

ในขณะที่พูดถังย่ากะพริบตาปริบๆใส่หลอจี่หอางอย่างสนุกสนาน แววตาสวยงามเผยให้เห็นอารมณ์มากมาย

ซิวหน่ายซิงที่นั่งดูภาพนี้อยู่ตรงข้าม ขยับมุมปาก

เขาแอบถอนหายใจเงียบๆ ในใจ รู้สึกว่าถังย่าเป็นผู้หญิงที่ร้ายจริงๆ

ใจชอบจ้านเซินชัดๆ แต่กลับเล่นหูเล่นตากับผู้ชายคนอื่น

ที่สำคัญ การกระทำของถังย่าช่างไร้หัวใจ เธอไม่เคยมีความคิดรับผิดชอบต่อผู้ชายพวกนั้น

และพวกชายพวกนั้นกลับหลงเสน่ห์ของถังย่า อย่างถอนตัวไปขึ้น

ซิวหน่ายซิงมองหลอจี่หอางที่แผ่รังสีความซื่อสัตย์ไปรอบตัว เขาเงียบไปสามวินาที

หวังแค่ว่าตำรวจที่ยังไม่ประสาด้านความรัก จะไม่หลงใหลในรูปลักษณ์ของถังย่า

ไม่อย่างนั้น เขาคงหาออกไม่เจอ

ซิวหน่ายซิงมองเกมพลางลวกหม้อไฟพลาง

หลิวซีหางรอยยิ้มเธอปรากฏขึ้น สบายใจขึ้นมาหน่อย

เธอเห็นโต๊ะของถังย่าใหญ่มาก แววตาส่องประกายวิบวับ

หลิวซีหางถามลองเชิง : “คุณถัง คุณไม่รู้สึกว่าโต๊ะของคุณว่างไปหน่อยหรือ เธอกะพริบตาปริบๆ มองถังย่า ในแววตาซ่อนความหมายอื่นไว้”

“อืม? ไม่รู้สึก”

ถังย่าส่ายหน้า ไม่เข้าใจความหมายของเธอ

เวลาที่เธอกินหม้อไฟ จะสั่งอาหารเยอะมาก ยังชอบนั่งคนเดียวทั้งโต๊ะ บางครั้งหยิบของซ้ำกันมาลวกในหม้อ

ดังนั้น ถังย่าจึงตั้งใจหาร้านที่มีโต๊ะใหญ่ๆ

โต๊ะแปดที่นั่ง โดนถังย่ากับซิวหน่ายซิงสองคนเหมาไปแล้ว

หลิวซีหางได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ดวงตาเผยความผิดหวัง

“งั้นก็ได้”

เธอพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าจะพูดไปอีกคงไม่ดี

ถ้าเธอยังพูดอีกว่าอย่านั่งข้างถังย่า งั้นก็คงดูอยากสนิทสนมเกินไป หลอจี่หอางต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่นอน

คิดได้อย่างนี้ หลิวซีหางทำได้แค่ปล่อยไปชั่วคราว

“ทั้งสองท่านค่อยๆ กิน พวกเราขอตัวก่อน”

ดวงตาหลอจี่หอางส่องประกายความหม่นหมอง เขากล่าวทิ้งไว้หนึ่งประโยค และหมุนตัวเดินออกมา

เงาร่างนั้นมีความโกรธอย่างชัดเจน ทำให้ถังย่าไม่เข้าใจ

เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย ทำไมอยู่ๆ หลอจี่หอางก็โกรธขึ้นมา

แน่นอนหลอจี่หอางโกรธท่าทางของถังย่า คำพูดของหลิวซีหางเมื่อกี้ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ถังย่ากลับแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ปฏิเสธเธอ

ปฏิเสธหลิวซีหาง ก็หมายถึงปฏิเสธเขาด้วย นี้ทำให้ใจในของหลอจี่หอางไม่สบายใจแปลกๆ

ความจริงแล้ว ปกติหลอจี่หอางก็ไม่ชอบกินข้าวกับคนแปลกหน้าอยู่แล้ว

แต่หลังจากโดนถังย่าปฏิเสธ เขากลับอยากที่จะเอาชนะขึ้นมา

หลิวซีหางเห็นหลอจี่หอางเดินออกไปแล้ว ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อทำไม : “คุณถัง มีโอกาสพวกเราค่อยคุยกันใหม่”

เธอโบกมือไปทางถังย่า และรีบเดินตามออกไป

“ได้สิ”

ถังย่ายิ้มมุมปาก พยักหน้ารับ

เธอไม่ได้ใส่ใจเหตุการณ์นี้ ถึงท่าทางของหลอจี่หอางเหมือนกำลังโกรธ แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ

ซิวหน่ายซิงมองท่าทางไร้หัวใจของถังย่า ส่ายหน้าและถอนหายใจยาว : “เห้อ…ผู้ชายคนหนึ่งโดนทำร้ายหัวใจที่ดีงามอีกแล้ว”

เขาพูดทีเล่นทีจริงทำให้ถังย่าขมวดคิ้ว

“พูดดีๆ!”

ถังย่าหยุดคีบอาหารชั่วครู่ แววตาดำสนิทส่องประกายแหลมคม

เธอมองตรงไปที่ซิวหน่ายซิง ส่งสัญญาณให้พูดให้ชัดเจน

“พี่ใหญ่ คุณดูไม่ออกหรือไง สาวน้อยที่ชื่อหลิวซีหางคนนั้น ถามว่าคุณว่าข้างตัวยังว่างใช่ไหม เพราะอยากจะร่วมโต๊ะกับคุณไม่ใช่รึไง?”

ซิวหน่ายซิงรู้ว่าถังย่าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ อดเอ่ยปากสอนเธอไม่ได้

“อืม?”

ถังย่าตะลึงไปสักครู่ ดวงตาปรากฏความสับสน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท